HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 13/06/2555 ]
เค้น'ซาเล้ง'รับสาดกรดใส่สาวเสพยาจนหลอน

รวบแล้วไอ้โรคจิตภัยสังคมใช้น้ำกรดสาดใส่สาว เป็นคนขี่ซาเล้งเก็บของเก่าตำรวจตรวจสอบจากภาพวงจรปิดในจุดเกิดเหตุเจอรถซาเล้งจอดอยู่ทุกครั้ง จึงนำตัวมาเค้น ยอมรับสารภาพว่าใช้น้ำยาแก้ท่ออุดตัน กับน้ำยาล้างห้องน้ำ "เป็ด" สาด ทำมาเกือบ 30 ราย มีชาวต่างชาติด้วย สาเหตุมาจากเสพยาไอซ์จนเกิดอาการหลอนว่าถูกคนต่อว่าและดูถูก บรรดาเหยื่อที่ถูกสาดมาดูตัวผู้ต้องหาต่างโล่งอกที่คนร้ายถูกจับ "คำรณวิทย์" ระบุ ผู้ต้องหาไม่เคยมีประวัติป่วยทางจิต แต่ต้องส่งให้จิตแพทย์ตรวจ ประสาน รพ.ยันฮี ทำศัลยกรรมให้ผู้เสียหายฟรี
          ที่ บช.น. เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่11 มิ.ย. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผบช.ภ.7 ช่วยราชการ รองผบช.น. แถลงข่าวกรณี พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.สส.บก.น.2 และพ.ต.อ.วิบูลยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.สุทธิสาร ร่วมกันจับกุม นายราชัน หรือหมู ธีรกิจนุกุล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 193/127 หมู่ 1 แขวงและเขตดอนเมือง พร้อมของกลาง รถซาเล้งใช้เก็บของเก่าขาย น้ำยาขจัดสิ่งปฏิกูลแก้ท่อน้ำอุดตัน ยี่ห้อไดมอนด์ 1 ขวด น้ำยาล้างห้องน้ำยี่ห้อเป็ด 1 ขวด ซึ่งฉลากระบุมีฤทธิ์กัดกร่อนต่อผิวหนัง และอุปกรณ์การเสพยาบ้า โดยมีผู้เสียหาย 5 คน เป็นหญิง 4 คน และชาย 1 คน ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกผู้ต้องหาสาดสารเคมีใส่ ได้เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหาด้วย
          พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่ามีคนร้ายโรคจิต ใช้น้ำยาสารเคมีสาดใส่ประชาชนผู้สัญจรบนท้องถนน โดยเฉพาะในท้องที่ สน.สุทธิสาร สน.พหลโยธิน สน.ลุมพินี และ สน.บางซื่อ โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นสุภาพสตรี ทำให้ผิวหนังเกิดบาดแผลพุพองเป็นรอยไหม้ คนร้ายมีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคมจนเป็นที่หวาดผวาสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ชุดสืบสวนจึงต้องเร่งติดตามจับกุมคนร้าย จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว ปากซอยลาดพร้าว 26 หนึ่งในจุดเกิดเหตุที่คนร้ายใช้สารเคมีสาดผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ท้องที่ สน.สุทธิสาร พบรถซาเล้งลักษณะเป็นรถจยย.สามล้อพ่วงหน้า มีไฟส่องสว่าง 2 ดวง ข้างซ้ายและขวาติดอยู่ที่ด้านหน้ารถขี่ผ่านผู้เสียหายไป ต่อมา พ.ต.ท.เสน่ห์ วันทอง สว.สส.สน.สุทธิสาร พบนายราชัน ขี่รถลักษณะตรงกับรถต้องสงสัยที่พบในกล้องวงจรปิด บริเวณซอยอินทามระ 59 ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 10 มิ.ย. โดยพบขวดน้ำยาล้างท่อของกลางอยู่ในรถซาเล้งด้วย จึงนำตัวมาสอบสวนที่สน.สุทธิสาร
          หลังจากมีข่าวว่าตำรวจจับกุมผู้ต้องหาแล้ว ได้มีผู้เสียหายเป็นหญิงชาวอังกฤษ และนักศึกษาหญิงอีก 1 คน เดินทางไปดูตัวผู้ต้องหาที่ สน.สุทธิสาร สาเหตุที่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนได้ทันทีที่จับกุมนั้นเนื่องจากต้องการตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่าเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นฝีมือของผู้ต้องหาเพียงคนเดียว ไม่มีคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย ประชาชนจะได้ไม่วิตกกังวล ซึ่งหลังจากสอบสวน นายราชัน ให้การรับสารภาพว่า ลงมือทำเพียงคนเดียว และทำมาแล้วเกือบ 30 ราย ได้แก่ ในพื้นที่สะพานควายประมาณ 10 ครั้ง ย่านประตูน้ำต่อเนื่องถึงแยกราชประสงค์ 7-8 ครั้ง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 3-4 ครั้ง และถนนลาดพร้าว 4-5 ครั้ง
          พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า นายราชัน ให้การว่าสาเหตุที่ทำลงไปเพราะติดยาไอซ์ และมีความเก็บกดจากการที่เคยถูกด่า ถูกต่อว่า และโดนดูถูก พอเสพยาแล้วจึงนำสารเคมีไปสาดผู้อื่นเพื่อระบายให้เกิดความสบายใจขึ้นมา จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีประวัติการรักษาอาการทางจิต แต่ก็ต้องส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจสอบอาการทางจิตด้วย เพราะผู้ต้องหายืนยันว่าเสพยาไอซ์ทุกวันจนเกิดอาการทางประสาท ซึ่งตำรวจกำลังขยายผลจับกุมเอเย่นต์ค้ายาเสพติดในพื้นที่ต่อไป
          ทั้งนี้มีผู้เสียหายบางคนสามารถจำหน้าของผู้ต้องหาได้อย่างแม่นยำ ส่วนผู้เสียหายหญิงชาวอังกฤษกจำรถซาเล้งได้ โดยวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายราชัน ก่อเหตุทั้งหมด 3 ครั้ง สารเคมีที่ใช้สาดเป็นน้ำยาล้างท่อน้ำ จากการสอบถามแพทย์และกองพิสูจน์หลักฐานระบุว่า ถ้าเป็นน้ำกรดอาการจะรุนแรงมากกว่านี้ผิวหนังจะไหม้เกรียมลึกถึงผิวหนังชั้นในแล้วเป็นแผลเป็น แต่น้ำยาล้างห้องน้ำมีฤทธิ์เป็นด่างจะไหม้แต่ผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น ผิวหนังจะลอกออกมาอาจจะไม่เป็นแผลเป็น ตนได้ประสานงานกับ รพ.ยันฮี ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแพทย์พร้อมจะทำศัลยกรรมให้แก่ผู้เสียหายโดยไม่คิดค่ารักษาใด ๆ ทั้งสิ้น
          จากการสอบสวน นายราชัน ให้การว่า เคยขายที่ดินแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของญาติได้เงินมา 60,000 บาท จากนั้นเอาไปซื้อรถซาเล้งมาขี่เก็บของเก่า และนำเงินที่ได้จากการเก็บของเก่าขายไปซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำ แต่มีบางส่วนที่เก็บมาจากข้างทาง สาเหตุที่สาดน้ำกรดใส่ชาวบ้านเป็นเพราะเวลาที่ขับรถซาเล้งมาจอดก็ถูกไล่ บางทีก็เรียกตนไว้แล้วพูดว่า "มึงตะโกนเรียกฝรั่งให้ตังค์กูทีสิ" ซึ่งมีคนทำอย่างนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง ตนสาดสารเคมีโดนคนไปประมาณ 5-6 คน ถ้าเห็นหมาวิ่งบนถนนก็จะสาดหมาด้วย ที่สาดสารเคมีใส่ผู้เสียหายนั้นไม่ได้เจตนา แต่เมื่อเสพยาไอซ์เข้าไปมาก ๆ จึงเกิดอาการหลอน รู้สึกว่ามีคนมาต่อว่า สำหรับขวดน้ำยาล้างท่อน้ำอุดตันเก็บมาจากหน้าสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 สนามเป้าแล้วนำมาใส่ในขวดเล็ก ๆ ก่อนตระเวนสะบัดใส่ผู้เสียหายที่ยืนอยู่ริมถนนโดยเฉพาะที่เป็นผู้หญิง ส่วนยาไอซ์ซื้อมาจากซอยอินทามระ 14 ซื้อครั้งละ200 บาท
          ด้าน นายมีชัย เจริญศักดิ์ อายุ 22 ปี และน.ส.จันทร์จิรา บุญประเสริฐ อายุ 22 ปี ผู้เสียหาย ให้การว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตรงกับวันวิสาขบูชา กำลังจะเดินทางไปเวียนเทียนที่วัดลาดพร้าว ขณะเดินมาถึงซอยลาดพร้าว 26 รู้สึกเหมือนมีละอองน้ำกระเด็นมาถูกร่างกาย พอหันไปมองรอบ ๆ ก็พบเพียงรถซาเล้งจอดอยู่แต่ไม่เห็นคนขับ จากนั้นรู้สึกปวดแสบปวดร้อนตามร่างกาย จึงพากันนั่งรถแท็กซี่ไปหาหมอ ผลการตรวจระบุว่าสารเคมีดังกล่าวมีลักษณะเป็นด่างไม่ใช่กรด แต่ถ้าเข้าตาหรือปล่อยทิ้งไว้นานโดยที่ไม่รู้ตัวจะทำให้เกิดอันตรายได้ ตอนที่ถูกสารยังไม่มีบาดแผลพุพองขึ้นมา หลังเกิดเหตุทราบข่าวจากอินเทอร์เน็ตว่า มีคนโดนแบบเดียวกันหลายรายทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีเรื่องอะไรกับใคร และรู้สึกกลัวแต่พอรู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวคนร้ายได้ก็ทำให้โล่งใจ
          สำหรับพื้นที่ที่ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุและมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว คือ 1.เมื่อวันที่ 26 พ.ค. เวลา 11.00 น. ได้ขี่รถซาเล้งไปที่ปากซอยสบายใจ และใช้น้ำยาสารเคมีสาดใส่ผู้เสียหาย ขณะที่กำลังเดินข้ามถนนท้องที่ สน.สุทธิสาร 2.วันที่ 31 พ.ค. เวลา 19.00 น. ขี่รถซาเล้งไปตามถนนพหลโยธินเมื่อถึงสี่แยกสะพานควายได้สาดน้ำยาสารเคมีใส่ผู้เสียหายที่กำลังเดินลงมาจากสะพานลอย ท้องที่สน.บางซื่อ 3.วันที่ 4 มิ.ย. เวลา 19.00 น. ขี่รถซาเล้งไปตามถนนลาดพร้าวฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว สาดน้ำยาสารเคมีใส่ผู้เสียหาย 2 คน บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ขณะที่ผู้เสียหายกำลังเดินอยู่บนทางเท้าริมถนนท้องที่ สน.สุทธิสาร จากนั้นเวลา 19.45 น. ขณะที่ขับขี่รถซาเล้งมาถึงปากซอยลาดพร้าว 15 ได้สาดน้ำยาสารเคมีใส่ผู้เสียหายที่เดินอยู่บนทางเท้า ท้องที่ สน.พหลโยธิน
          หลังจากเสร็จการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร นำตัว นายราชัน หรือหมู ธีรกิจนุกูล อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาคดีสาดน้ำกรดใส่คนเดินไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดแรกที่ริมถนนลาดพร้าวฝั่งขาเข้า ปากซอยลาดพร้าว 26 ที่ผู้ต้องหาสาดน้ำกรดใส่ นายมีชัย เจริญศักดิ์ อายุ 22 ปี และ น.ส.จันทร์จิรา บุญประเสริฐ อายุเท่ากัน ที่กำลังเดินข้ามถนนบริเวณปากซอยพอดี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่พาตัวไปยังจุดที่ 2 ริมถนนลาดพร้าวฝั่งขาออก ปากซอยลาดพร้าว 5/1 ที่ผู้ต้องหาสาดน้ำกรดใส่ชาวต่างชาติ
          จุดต่อมาริมถนนลาดพร้าวฝั่งขาออก หน้าร้านสะดวกซื้อก่อนถึงปากซอยลาดพร้าว15 ผู้ต้องหาใช้น้ำยาล้างท่อสาดใส่ น.ส.รัตนาวดี รักเจริญกิจ อายุ 24 ปี โดยขณะที่ทำแผน น.ส.รัตนาวดี ได้เดินทางมาดูด้วย นายราชัน ได้ยกมือไหว้ น.ส.รัตนาวดี พร้อมทั้งกล่าวขอโทษ น.ส.รัตนาวดี ได้ยกมือขึ้นรับไหว้ก่อนเดินถอยออกไปโดยไม่ได้เอ่ยคำพูดใด หลังจากนั้นตำรวจนำตัวนายราชัน ไปยังจุดที่ 4 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย ด้านหน้าอาคารเอ.ไอ.ที. ที่ผู้ต้องหาสาดน้ำยาล้างท่อน้ำใส่ น.ส.มัลลิกา ศรีหารักษา อายุ 28 ปี
          จุดสุดท้ายที่สะพานลอยคนข้าม สี่แยกสะพานควาย ขณะที่ผู้เสียหายคือ น.ส.ศิริพร เปรมฤดีสนิท อายุ 36 ปี เดินลงมาจากสะพานลอย ถูกนายราชันสาดน้ำกรดเข้าใส่ ก่อนขี่ซาเล้งหลบหนีมุ่งหน้าไปทางถนนพหลโยธินขาเข้า โดยระหว่างนำตัวนายราชันมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก หลังจากทำแผนเสร็จเจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหากลับไปควบคุมตัวที่ สน.สุทธิสาร ก่อนที่ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ จะนำผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา
          ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ก่อนจะสรุปว่าคนขี่ซาเล้งเก็บของเก่าขายใช้น้ำยาล้างท่อ น้ำยาล้างห้องน้ำสาดใส่เหยื่อว่า มีปัญหาสุขภาพจิตเป็นโรคจิตหรือไม่ คงต้องตรวจสอบก่อนว่าเคยมีประวัติการรักษาในโรงพยาบาลจิตเวชหรือไม่ นอกจากนี้ได้มอบให้สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์เข้าไปดูผู้ต้องหาด้วยคาดว่าจะได้รับรายงานในเร็ว ๆ นี้ เพราะหากด่วนสรุปโดยที่ยังไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอาจส่งผลต่อรูปคดีได้
          ขณะที่ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร ผอ.สถาบันราชานุกูล โฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีที่ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเคยทำมาแล้วกว่า 30 ครั้ง และยอมรับว่าติดยาเสพติด ว่า เมื่อผู้ต้องหาบอกว่าใช้สารเสพติดคงจะต้องตรวจประเมินสุขภาพจิตอย่างละเอียด ทั้งนี้การเสพยาเสพติดอาจทำให้ประสาทหลอน ทำลายสมอง และระบบประสาท
          เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเก็บกดจากการที่เคยถูกด่า ถูกต่อว่า ถูกดูหมิ่น และโดนดูถูก พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า การที่ผู้ต้องหาไม่ได้ทำร้ายคนที่ด่าว่าเขาโดยตรง แต่ทำร้ายคนอื่นในสังคมซึ่งสัญลักษณ์แทนกันถ้าเหตุผลดังกล่าวไม่ใช่ข้ออ้าง เขาอาจมีพฤติกรรมอยู่ในข่ายที่เรียกว่าบุคลิกภาพเป็นปัญหามีพฤติกรรมต่อต้านสังคม ซึ่งประเทศไทยเจอคนไข้ลักษณะนี้ไม่บ่อยนักน้อยมากที่เคยมีคือประเทศญี่ปุ่น กรณีที่ชายชาวญี่ปุ่นคลั่งเอามีดไปไล่แทงคนอื่น อย่างไรก็ตามพฤติกรรมในลักษณะนี้ต้องรักษาเพราะเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ จะไปทำร้ายคนอื่น วิธีการในการรักษาคือ ใช้พฤติกรรมบำบัด เพื่อให้คนไข้ปรับวิธีคิดใหม่.
 


pageview  1205453    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved