HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 29/09/2564 ]
ป่วยโควิดลดลง ใน2เดือนเพิ่งต่ำกว่าหมื่น

สธ.ผวาแรงเหวี่ยงระบาด!
          "ศบค." ปลื้ม ผู้ป่วยเหลือแค่หลักพันคนวันแรก หลังผ่านมากว่า 2 เดือนยอดไม่ต่ำกว่าหมื่นต่อวัน "สธ." หวั่น แรงเหวี่ยงกลับระบาดซ้ำ เหตุคลัสเตอร์-ไวรัสกลายพันธุ์-การ์ดตก โว ก่อนสิ้น ต.ค. ผู้ติดเชื้อลดลง คาด มี.ค. 65 สถานการณ์คลี่คลายปกติ แจง มาตรการเปิด 10 จังหวัดพื้นที่สีฟ้า "ครม." ไฟเขียวปีหน้าซื้อแอสตรา 60 ล้านโด๊ส
          ติดเชื้อต่ำกว่าหมื่นวันแรก
          เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ศบค. รายงานสถานการณ์ ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อ 9,489  ราย จากระบบเฝ้าระวัง 8,823 ราย ค้นหาเชิงรุก 387 ราย เรือนจำ 269 ราย และมาจากต่างประเทศ 10 ราย รวมยอดสะสม 1,581,415 ราย รักษาหายเพิ่ม 12,805 ราย รวมยอดสะสมหายป่วย 1,448,206 ราย ยังรักษาตัว 116,711 ราย แบ่งเป็นการรักษาใน รพ. 33,799 ราย รพ.สนามและอื่น ๆ 82,912 ราย อาการหนัก 3,283 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 738 ราย และเสียชีวิตอีก 129  ศพ รวมยอดสะสม 16,498 ศพ ขณะที่การฉีดวัคซีนทั่วประเทศ 51,398,473 ราย เป็นเข็มแรก 31,811,342 ราย เข็ม 2 จำนวน 18,414,417 ราย เข็ม 3 จำนวน 1,171,887 ราย และเข็ม 4 จำนวน 827 ราย
          จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่าประเทศไทย มีอัตราการติดเชื้อหลักหมื่นรายเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยในวันนั้นมีอัตราการติดเชื้อ 10,082 ราย เสียชีวิต 141 ศพ รวมระยะเวลากว่า 2 เดือน ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกติดเชื้อ 233,092,663 ราย เสียชีวิต 4,769,789 ศพ ประเทศสหรัฐติดเชื้อมากสุด 43,942,335 ราย เสียชีวิตสะสม 709,119 ศพ สำหรับประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 28 ของโลก
          ส่วน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม. ว่า ครม.รับทราบมติที่ประชุม ศบค. เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ให้ความเห็นชอบขยายระยะเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่  1 ต.ค.-30 พ.ย.
          "บิ๊กตู่" ปลื้มยอดลด
          นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังการปรับมาตรการของ ศบค. ยอดผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ในระดับคงที่และมีแนวโน้มลดลง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ขอบคุณความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องประชาชน ที่ปฏิบัติตามมาตรการจนเห็นผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม วันนี้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่าหมื่นในช่วงหลายสัปดาห์ และมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้รักษาหายป่วยกลับบ้านมากกว่ายอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวัน แสดงถึงศักยภาพของสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงการปรับมาตรการควบคุมโรคที่ได้ผล และความร่วมมือร่วมใจของประชาชน ในการปฏิบัติตามมาตรการ อีกทั้งที่ประชุม ศบค. ปรับมาตรการกิจการและกิจกรรม ให้สามารถกลับมาดำเนินการได้ ขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการทุกภาคส่วน  อย่าประมาทป้องกันตัวเองอยู่เสมอ
          ซื้อวัคซีนสเปน 1.65 แสนโด๊ส
          นายธนกร เปิดเผยว่า ครม. มีมติเห็นชอบให้กรมควบคุมโรค ซื้อวัคซีนแอสตราเซเนกาจากประเทศสเปน เพิ่มเติมจำนวน 165,000 โด๊ส จากเดิมก่อนหน้านี้ซื้อไปแล้ว 449,500 โด๊ส รวมทั้งสิ้น 614,500 โด๊ส โดยสเปนจะส่งมอบวัคซีนทั้ง 2 ชุด ในต้นเดือน ต.ค.นี้ ทั้งนี้ประเทศไทยยังได้เจรจาจัดซื้อและรับบริจาควัคซีนอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย เพื่อให้เป็นไปตามแผนการจัดหาวัคซีนของประเทศ ไทยเดือน ต.ค.-ธ.ค. 64 นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบซื้อวัคซีนแอสตราฯในปี 65 ภายในไตรมาสแรก 15 ล้านโด๊ส ไตรมาสสอง 30 ล้านโด๊ส และไตรมาสสาม 15 ล้านโด๊ส รวมทั้งสิ้น 60 ล้านโด๊ส
          สธ.โวก่อนสิ้น ต.ค.เชื้อลด
          ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ. เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. กล่าวว่า สถาน การณ์ขณะนี้อยู่ช่วงขาลง เป็นผลมาจากมาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้ สัดส่วนผู้ป่วยหนักและใส่ท่อช่วยหายใจลดลงตามลำดับ หลังตัวเลขก่อนหน้านี้อยู่ที่ 4- 5 พันรายต่อวัน ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 3 พันรายต่อวัน ประมาณการว่าจะมีผู้ติดเชื้อราว 5 พันรายต่อวันก่อนสิ้น ต.ค.นี้ อย่างไรก็ตามเป็นการประเมินตามหลักคณิตศาสตร์ แต่ยังมีหลายปัจจัยอื่นที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้ คือคลัสเตอร์และเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ มีการประเมินฉากทัศน์ว่าจะกระดกขึ้นหลังเดือน ต.ค. เพราะหมดแรงเหวี่ยงของช่วงล็อกดาวน์ สิ่งที่เราต้องทำไม่ว่าจะเรื่องการ์ดในการป้องกันตัวเอง การตรวจ ATK และมาตรการโควิดฟรีเซตติ้ง คาดว่าน่าจะกดการติดเชื้อลงได้
          นพ.เกียรติภูมิ เปิดเผยว่า ถ้าถามว่าก่อนหน้านี้ก็ทำแต่ทำไมไม่ลดลง  ต้องบอกว่าตอนนี้บริบทเปลี่ยนไปแล้ว 2 เดือนก่อนการติดเชื้อไม่ลดลง เพราะการครอบคลุมวัคซีนเราต่ำกำลังเลยไม่เสริมกัน วันนี้อัตราการฉีดวัคซีนมีความครอบคลุมสูงขึ้น ตอนนี้คนไทยเกือบ 50% ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม ส่วนเข็ม 2 ฉีดแล้วครึ่งหนึ่งของคนฉีดเข็ม 1 คาดว่าภายในสิ้น ต.ค.นี้สัดส่วนการฉีดวัคซีนเข็ม 1 ราว 60% เข็ม 2 อยู่ที่  50%  ถ้าสิ้น ธ.ค. ตามเป้าหมายการฉีดคือเข็ม 1 จำนวน 80% และเข็ม 2 จำนวน 70% เท่ากับอารยประเทศเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คาดว่าต้นปีหน้าราว มี.ค. 65 โรคน่าจะสงบพอสมควรใกล้ภาวะปกติ แต่ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยต่อไปอีกระยะ
          เปิดเงื่อนไข 10 จว.สีฟ้า
          ปลัด สธ. ระบุว่า การเตรียมเปิดเมืองรับการท่องเที่ยว ในระยะแรกพื้นที่สีฟ้า 10 จังหวัด ว่า สธ.ประสานกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่สีฟ้า ตามนโยบายรัฐบาลในช่วงวันที่ 1-30 พ.ย.นี้ โดยกำหนดลักษณะพื้นที่ความพร้อม คือต้องมีความครอบคลุมวัคซีนระดับจังหวัด 50% กลุ่มเป้าหมาย 608 คือผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ให้ได้อย่างน้อย 80% มีศักยภาพรองรับผู้ป่วยเพียงพอ อัตราครองเตียงไม่เกิน 80% มีการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงต่อเนื่อง มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 5-10 รายต่อแสนประชากรต่อวัน โดยใช้ค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์  แต่ละจังหวัดอาจไม่ใช่พื้นที่ทั้งหมด ดังนั้นจังหวัดต้องมีการกำหนดพื้นที่เป้าหมายเฉพาะมาที่ สธ.อีกครั้ง
          ญี่ปุ่นมอบเครื่องออกซิเจน
          ด้านเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ระบุว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ย. นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ. พร้อมทั้งนายนะชิดะ คะสุยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ร่วมพิธีส่งมอบเครื่องผลิตออกซิเจน หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นมอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ประเทศไทย ราว 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านสำนักบริการโครงการแห่งสหประชาชาติ (UOPS) เพื่อนำไปจัดซื้อ เครื่องผลิตออกซิเจน 868 เครื่อง ให้นำไปใช้ช่วยเหลือผู้ป่วยใน รพ.และสถานพยาบาลทั่วประเทศไทย
          ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐวัย 78 ปี ได้ฉีดวัคซีนเข็มสาม "บูสเตอร์" หลังจากหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐบาลกลางสหรัฐ เสนอแนะให้ฉีดวัคซีนเข็มสามไฟเซอร์สำหรับอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปและผู้มีอาการด้านสุขภาพและความเสี่ยงในหน้าที่การงาน โดยไบเดนฉีดเข็มแรกเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 63 เข็ม 2 วันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้สหรัฐจะซื้อวัคซีนไฟเซอร์อีก 500 ล้านโด๊ส ให้ได้ครบ 1 พันล้านโด๊สในปีหน้า เพื่อนำไปบริจาคให้กับประเทศอื่น ขณะนี้มีชาวอเมริกัน 2.66 ล้านคนได้รับวัคซีนไฟเซอร์เข็มสามนับตั้งแต่กลางเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนที่ได้รับครบสองเข็มมี 100 ล้านคน ด้าน รพ.ในรัฐนิวยอร์ก เริ่มพักงาน-เลิกจ้าง บุคลากรไม่ฉีดวัคซีนภายในเวลาที่กำหนด ส่วนเกาหลีใต้เตรียมฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เด็กอายุ 12-17 ปี และฉีดเข็ม 3 ให้ผู้สูงอายุตั้งแต่ 75 ปีขึ้นไป.


pageview  1205007    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved