ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมอนามัย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร เป็นต้น เพื่อหารือถึงการแก้ปัญหาค่าบริการกำจัดขยะมูลฝอยติดเชื้อที่ปรับสูงขึ้นในช่วงโควิด ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้กรมการส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กำชับไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อพิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถิ่นกำหนดอัตราค่าบริการขั้นสูงสุดให้เหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสปรับขึ้นค่าบริการจนสูงเกินสมควร เนื่องจาก พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ได้ให้อำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการเก็บ ขน และกำจัดสร้างปฏิกูลหรือมูลฝอย รวมทั้งกำหนดอัตราค่าบริการขั้นสูงสุด
          ขณะเดียวกัน กรมฯ ได้ขอให้บริษัทเอกชนที่ให้บริการเก็บ ขน และกำจัดขยะติดเชื้อ จัดเก็บค่าบริการไม่เกินอัตราที่ข้อบัญญัติท้องถิ่นนั้นแต่ละแห่งกำหนด และกรณีจำเป็นต้องปรับเพิ่มค่าบริการ ขอให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงและความเหมาะสมของพื้นที่ โดยกรมอนามัยและกรุงเทพมหานคร พร้อมร่วมกันทำงานเพื่อเพิ่มศักยภาพและคุณภาพ การเก็บ ขน และกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ รวมทั้งจะสนับสนุนข้อมูลแนวทางกำหนดอัตราค่าบริการขั้นสูงสุด ส่วนกรณีผู้รับบริการเก็บ ขน และกำจัดขยะติดเชื้อ ที่มีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดเก็บค่าบริการจัดการมูลฝอยติดเชื้อในอัตราที่สูง แจ้งต่อ อปท. หรือ กรมอนามัยมีอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุขฯ ต่อไป
          "ช่วงการแพร่ระบาดโควิดช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีขยะมูลฝอยติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งกรมฯ ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การบริหารจัดการเก็บค่าบริการในการเก็บ ขน และกำจัดมูลฝอยติดเชื้อที่ปรับสูงขึ้นสูงกว่าเท่าตัว จึงได้หารือกับทุกฝ่ายเพื่อแก้ปัญหา และสร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย