HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 30/03/2564 ]
คลัสเตอร์โผล่ย่านสะพานสูง ศบค.ซัดตลาดแพร่โควิด

 แม่ค้าหวยติดจากพ่อค้าเนื้อลามคนในครอบครัว
          เริ่มเที่ยวภูเก็ตไม่กักตัว-หากได้ผลเพิ่มกทม.ด้วย
          "ศบค." ผวา ตลาดปทุมฯ ลามคลัสเตอร์ใหม่ ตลาดย่านสะพานสูงติดเชื้อ 7 คน พ่อค้าเนื้อ-แม่ค้าหวยแพร่คนในครอบครัว จวกเหตุการ์ดตก ผวาปรากฏการณ์สะเก็ดไฟระบาดข้ามจังหวัด "กาฬสินธุ์" ไข่แตกสาวห้างป่วย หลังมาเยี่ยมเพื่อนที่ตลาดบางแค เปิดไทม์ไลน์ทั้งขึ้นเครื่อง-นั่งรถตู้ "พิพัฒน์" แจ้ง ครม. ดีเดย์ 1 เม.ย. เที่ยวภูเก็ตไม่กักตัว จากนั้น  1 ก.ค.ขยายจังหวัดอื่น คาดทั้งปีมีนักท่องเที่ยวกว่า 6.5 ล้านคน ขณะที่เอกชนเสนอเปิดกรุงเทพฯ ด้วย
          ติดเชื้อใหม่ 39 คน
          เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อใหม่ 39 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 28 รายแยกแบ่งเป็น 1.จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 16 ราย 2.จากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 12 ราย และจากต่างประเทศ 11 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 28,773 ราย รักษาหาย 27,313 ราย ยังรักษาอยู่ 1,366 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 94 ศพ สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 39 ราย ในจำนวนนี้แยกเป็น 1.จากระบบเฝ้าระวัง 16 ราย แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 9 ราย กาฬสินธุ์ 1 ราย มหาสารคาม 1 ราย สมุทรสาคร 5 ราย 2.การคัดกรองเชิงรุก 12 ราย พบในกทม. 6 ราย ราชบุรี 1 ราย สมุทรสาคร 5 ราย
          กาฬสินธุ์ไข่แตก
          พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อที่ จ.กาฬสินธุ์ 1 ราย นั้นถือว่าไข่แตกโดยผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นหญิงไทยอายุ 35 ปี อาชีพพนักงานขายในห้างสรรพสินค้า มีไทม์ไลน์เมื่อวันที่ 22 มี.ค. เดินทางมาเยี่ยมเพื่อนที่เป็นแม่ค้าในพื้นที่เขตตลาดบางแค จากนั้นวันที่ 24 มี.ค. เดินทางกลับด้วยสายการบินเวียตเจ็ท จากสนามบินสุวรรณภูมิไปลงที่ขอนแก่น และต่อรถตู้จากขอนแก่นไปถึงกาฬสินธุ์ และเดินทางต่อไปยังบ้านพักที่หมู่ 6 ต.นาเชือก อ.ยางตลาด โดยรถยนต์ส่วนตัว ต่อมาวันที่ 25 มี.ค. เริ่มมีไข้ ไอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย และวันที่ 26 มี.ค. ได้รับรายงานว่าเพื่อนที่ไปเยี่ยมใน กทม.นั้นติดเชื้อ เลยรีบไปตรวจพบเชื้อ
          ปรากฏการณ์สะเก็ดไฟ
          ผช.โฆษกฯ เปิดเผยว่า กทม.ได้รายงานที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กถึงการแพร่เชื้อจำแนกตามความเสี่ยง พบว่าสูงสุดคือรายงานการติดเชื้อของ ตม. ที่ศูนย์กักกันบางเขน รองลงมาคือตลาดบางแค ทั้งนี้ถ้านับเฉพาะวันนี้รายงานของ กทม.บวกไป 32 ราย การคัดกรองเชิงรุกของกทม. พบผู้ติดเชื้อ 597 ราย เสียชีวิต 8 ราย การติดเชื้อส่วนใหญ่ยังอยู่พื้นที่ฝั่งตะวันตกเป็นหลัก ส่วนการติดตามคลัสเตอร์บางแคพบว่านอกจากจะติดเชื้อภายในพื้นที่ตลาดและชุมชนรอบข้างแล้ว ยังพบว่ามีการแพร่กระจายไปมากถึง 11 จังหวัด รวม 56 ราย หรือเรียกว่าปรากฏการณ์สะเก็ดไฟจากการเดินทางข้ามพื้นที่
          ผวาคลัสเตอร์ใหม่
          พญ.อภิสมัย ระบุอีกว่า วันนี้มีรายงานตลาดสดอีกแห่งหนึ่งย่านสะพานสูง โดยรายแรกเป็นพ่อค้าเนื้ออายุ 39 ปี บ้านอยู่ที่คลองสามวา มีประวัติไปรับเนื้อจาก จ.ปทุมธานี นำมาขายที่ตลาดย่านสะพานสูง เริ่มมีอาการตั้งแต่ 11 มี.ค. จากนั้นวันที่ 18 มี.ค.ตรวจพบเชื้อ และติดต่อสู่ภรรยาที่บ้านอายุ 37 ปี เป็นแม่ค้าขายเนื้อเช่นเดียวกัน ตอนนี้พบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงร่วมบ้านอีก 7 ราย ตรวจไม่พบเชื้อแต่ยังต้องรอผลการสอบสวนโรคต่อไป
          ตลาดย่านสะพานสูง
          ผช.โฆษกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบอีก 1 กรณีที่ตลาดย่านสะพานสูงเป็นหญิง อายุ 57 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่อยู่บริเวณ ใกล้เคียงตลาดเดียวกับพ่อค้าเนื้อ โดยมีอาการตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. ก่อนจะตรวจพบเชื้อใน วันที่ 22 มี.ค. โดยก่อนหน้านี้ยังไปค้าขาย ตามปกติเพราะไม่มีอาการ ทำให้ไปติดคน ที่บ้าน 4 ราย คือลูกอายุ 35 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่เช่นเดียวกัน พี่สาวอายุ 72 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่ที่ตลาดแถวร่มเกล้า แม่อายุ 89 ปี และเหลนวัย 4 ขวบ เรียนชั้นอนุบาล รวมผู้ป่วยคลัสเตอร์ใหม่ตลาดย่านสะพานสูง 7 คน จะเห็นว่าที่ผ่านมามีการรายงานคลัสเตอร์ตลาด มีการสรุปบทเรียนนำเสนอตลอดเวลา แต่ยังเห็นลักษณะพฤติกรรมใกล้เคียงกันหลายครั้งชุมชนดูข่าวแล้วไม่ตื่นตัวไม่กลับไปดูพื้นที่ของตัวเองทำให้คนในตลาดติดเชื้อ แล้วนำกลับไปสัมผัสคนที่บ้านซึ่งเป็นผู้สูงอายุ ที่อาจจะมีโรคประจำตัวหรือเด็กเล็กที่อยู่ในการดูแล กลายเป็นพฤติกรรมเสี่ยง บางรายถึงขั้นเสียชีวิต ขณะนี้นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ. ได้เน้นย้ำในส่วนของตลาดรวมทั้งเทศบาล ขอให้ประชาชนที่ต้องเป็นหูเป็นตา สามารถเสนอให้พื้นที่เฝ้าระวังตลาดและชุมชนได้
          ระบาดข้ามจังหวัด
          พญ.อภิสมัย เปิดเผยว่า ขณะที่นายกเทศบาลที่เพิ่งผ่านการเลือกไปนั้น ต้องฝากให้ช่วยดูแลตลาดและพื้นที่ชุมชนด้วย เพราะยังเห็นปรากฏการณ์สะเก็ดไฟ ที่เกิดจากการที่มีการติดเชื้อในพื้นที่หนึ่งกระจายไปยังพื้นที่อื่น เช่น มุกดาหาร ยโสธร หนองบัวลำภู ศรีสะเกษ เป็นลักษณะการเดินทางข้ามจังหวัดตามพื้นที่ ทำให้เกิดการติดเชื้อแพร่กระจายในครอบครัวและคนใกล้ชิด ทั้งนี้เวลาไปตลาดขอให้มีการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ที่สำคัญการ์ดตกไม่ได้เด็ดขาด สัปดาห์นี้จะมีการหารือร่วมสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม กรณีประชาชนสัมผัสผู้เสี่ยงในภาคเอกชน ภาคเศรษฐกิจ หรือผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางเข้าออกต่างประเทศ ต้องมีการกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงอย่างไร
          ถกผ่อนปรน 3 ระยะ
          ผช.โฆษกฯ ระบุอีกว่า รวมถึง ศบค. ชุดเล็ก จะหารือร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เรื่องมาตรการเพื่อรองรับการผ่อนคลายประเทศทั้ง 3 ระยะ เช่น กระทรวงศึกษาจะมีมาตรการควบคุมป้องกันโรค ที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน กระทรวงคมนาคมต้องหารือมาตรการป้องกันโรคไปกับสถานีขนส่ง ระบบขนส่งสาธารณะ รวมทั้งท่า อากาศยาน กระทรวงแรงงานต้องมีมาตรการดูแลแรงงานต่างด้าว แรงงานตามฤดูกาล กระทรวงพาณิชย์ต้องมีมาตรการดูแลการค้าทางชายแดน ขณะที่การท่องเที่ยวและกีฬา สำนักพุทธ กระทรวงวัฒนธรรม กรมการศาสนาต่าง ๆ ต้องหารือเรื่องมาตรการ เช่น การจัดกิจกรรมทางศาสนา การเดินทางข้ามพื้นที่ การสนับสนุนกิจกรรมท่องเที่ยว การจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ เป็นต้น
          ส่วนสถานการณ์ติดเชื้อทั่วโลกป่วยรายใหม่ 485,732 ราย รวมสะสม 127,764,765 ราย เสียชีวิต 2,796,087 ราย สหรัฐติดเชื้อใหม่
          44,096 ราย รวมสะสม 30,962,803 ราย ขณะที่เพื่อนบ้านของไทย เช่น ญี่ปุ่น มาเลเซีย พบติดเชื้อรายใหม่เกินหลักพัน กัมพูชาพบติดเชื้อใหม่ 86 ราย ไทยอยู่ในอันดับ 116
          "อนุทิน" สั่งจับตาชายแดน
          ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สธ. กล่าวถึงสถานการณ์ชาวเมียนมาอพยพเข้าไทย จากเหตุสถานการณ์ในบ้านเมือง ว่า ไม่ต้องกังวลเพราะฝ่ายความมั่นคงและ สธ. ได้หารือเตรียมพร้อมเรื่องนี้แล้ว หากเข้ามาจะพาไปที่พักพิงโดยไม่ให้เข้าไทย พร้อมทั้งส่งรถพระราชทานตรวจเชื้อ รถแล็บเคลื่อนที่ลงพื้นที่และ รพ.ตามแนวชายแดน 10 จังหวัด รับมือสถานการณ์ และจะฉีดวัคซีนให้ทหาร-ตำรวจแนวหน้าที่เป็นกลุ่มเสี่ยง
          ส่วน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยนักศึกษาไทยที่เรียนอยู่ต่างประเทศ แต่ยังไม่สามารถกลับไปเรียนต่อได้ เช่น นักศึกษาไทยในประเทศจีนราว 1 พันคน สั่งให้กระทรวงการต่างประเทศและ สธ. ฉีดวัคซีนให้นักศึกษาทุกคนเพื่อให้กลับไปเรียนต่อได้
          เที่ยวภูเก็ตไม่กักตัว
          ขณะที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า เตรียมรายงาน ครม. เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วและมีผลเป็นลบไม่ต้องกักตัว โดยเริ่มนำร่องตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ จ.ภูเก็ต เป็นอันดับแรก จากนั้นวันที่ 1 ก.ค.ขยายไปจังหวัดอื่น เช่น กระบี่, พังงา, เกาะสมุย, พัทยา และเชียงใหม่ โดยคาดว่า ทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทยราว 6.5 ล้านคน
          นายวิชิต ประกอบโกศล รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลพิจารณาเพิ่มเติมกรุงเทพฯ เข้าไปด้วย กรณีนักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัว แต่เที่ยวในเส้นทางจำกัด ช่วงนี้ถือเป็นการนำร่องอาจมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 50,000-1 แสนคน
          ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า โครงการ ม.33 เรารักกัน ได้โอนเงินงวดที่ 2 ผ่านแอพเป๋าตังแล้วอีก 1 พันบาท ภาพรวมการใช้เงินตั้งแต่วันที่ 22-28 มี.ค. มีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 4.6 พันล้านบาท ส่วนกลุ่มทบทวนสิทธิหรือไม่มีสมาร์ทโฟน ลงทะเบียนทั้งสิ้น 742,017 คน จะประกาศผลในวันที่ 5 เม.ย.นี้ผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com จากนั้นจะโอนเงินเข้าแอพเป๋าตัง 4 พันบาทในวันที่ 12 เม.ย. อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าอย่าทำผิดหลักเกณฑ์เงื่อนไขโครงการ
          กรุงมะนิลาล็อกดาวน์
          ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ว่า กรุงมะนิลา จังหวัดรีซัล จังหวัดบูลาคัน จังหวัดคาบีเต และจังหวัดลากูนา บนเกาะลูซอนซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ทางเหนือของฟิลิปปินส์ ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.-4 เม.ย.นี้ พร้อมเคอร์ฟิวระหว่างเวลา 18.00-05.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนสถานประกอบการเปิดให้บริการได้ โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การล็อกดาวน์ 1 สัปดาห์ไม่มีประโยชน์ เพราะระยะเวลาที่เหมาะสมคือ 14 วัน แต่เข้าใจว่ารัฐบาลมีความกังวลเรื่องผล กระทบทางเศรษฐกิจ เนื่องจากสถานประกอบการทุกแห่ง ได้รับคำสั่งให้นำมาตรการทำงานที่บ้านกลับมาใช้อีกครั้งด้วย ทั้งนี้การล็อกดาวน์กรุงมะนิลาและจังหวัดใกล้เคียงครั้งนี้ เป็นผลจากการที่ฟิลิปปินส์พบผู้ป่วยมากกว่า 9,000 คนเป็นวันที่สามติดต่อกันส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสมกว่า 700,000 คน เสียชีวิตสะสมไม่ต่ำกว่า 13,000 ศพ.


pageview  1205007    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved