|
|
|
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 04/01/2564 ] |
|
|
|
|
ทางเลือกทางรอดสกัดโควิดรอบ2 |
|
|
|
|
เริ่มปีใหม่ปีวัวดุต้องเจอสถานการณ์ โรคโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ไล่ขวิดตั้งแต่ต้นปี เรียกว่าตั้งแต่ตอนนับถอยหลัง เคานท์ดาวน์สู่ศักราชใหม่ ก็เหมือนกำลังนับถอยหลังล็อกดาวน์อีกครั้งหากสถานการณ์รุนแรงจนเอาไม่อยู่
ล่าสุดไวรัสร้ายยังลุกลามทั่วไทย หลายจังหวัดถูกเจาะไข่แดง ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศพุ่งอย่างต่อเนื่องตัวเลขทะลุเกิน 300 คน! ที่สำคัญอย่าลืมว่านี่คือยอดผู้ติดเชื้อที่เป็นผลจากก่อนเทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่
แต่ในช่วงวันปีใหม่ แม้จะมีการขอคนไทยงดเดินทาง แต่เมื่อไม่ได้มีการออกคำสั่งห้าม หลายคนก็เดินทางกลับภูมิลำเนาหลังอั้นมาตั้งแต่วันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และแน่นอนเมื่อมีการเดินทางเชื้อโควิด-19 ก็เดินทางไปกับเราด้วย
ทำให้คณะแพทย์และนักวิชาการ ต่างออกมาแสดงความเป็นห่วงและประเมินว่าหลังช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ยอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่มและลุกลามจากการที่เชื้อเดินทางมากขึ้นกว่านี้
อย่างที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ออกมาระบุว่า เริ่มพบผู้ติดเชื้อในคนไทยและสมาชิกในครอบครัว และคาดว่าจะมีการระบาดอย่างกว้างขวางเพิ่มขึ้น พร้อมเสนอใช้ยาแรง
และที่ทำหลายคนผวา หลังผู้เชี่ยวชาญไวรัส ชี้ โควิดกลายพันธุ์จากอังกฤษ ถึงไทยแล้ว ขณะนี้อยู่ในความควบคุมเข้มข้นเป็นพิเศษในห้องความดันลบ
ก่อนที่โควิดทำน็อก ภาครัฐต้องรีบ ยกการ์ดสู้ โดยในระดับพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะ ผอ.ศบค.จังหวัด ทยอยออกมาตรการและคำสั่งต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ไต่ระดับไล่เลเวลคุมเข้มตามความรุนแรงของพื้นที่
โดยกรุงเทพมหานคร ออกประกาศคำสั่งปิด 25 สถานที่เสี่ยงแพร่ระบาดโควิด-19 มีผลตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. จนกว่าจะมี คำสั่งเปลี่ยนแปลง คุมเข้มทั้ง "โรงหนัง-ร้านเหล้า" พบฝ่าฝืนเจอบทลงโทษหนัก
ขณะที่ในภาพรวมระดับประเทศนั้น ศบค. เตรียมเสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค.พิจารณายกระดับ 28 จังหวัดโซนแดงคุมเข้มโควิดสูงสุด พร้อมให้จำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยง และมีมาตรการควบคุมสูงสุด โดยเสนอให้เริ่มใช้มาตรการนี้ตั้งแต่ช่วง 4 ม.ค.- 1 ก.พ.
เรียกได้ว่า สถานการณ์ ณ วันนี้ ไม่ต่างจากการล็อกดาวน์ครึ่งใบ ท่ามกลางความกังวลถึงการ "ล็อกดาวน์รอบ 2" ที่ทุกคนต้องมองถึงการเตรียมความพร้อม หากต้องล็อกดาวน์ทั่วประเทศจริง
ถือเป็นเรื่องหนักที่ "บิ๊กตู่" ต้องใช้ภาวะผู้นำในภาวะวิกฤติตัดสินใจอีกครั้ง เพื่อประเมินใช้ยาแรงหลังปีใหม่เพื่อสกัดเชื้อ เหมือนย้อนกลับมาเจอทางสองแพร่งที่ต้องเลือกระหว่างสกัดโรคร้ายไม่ให้ลามกินประเทศกับการใช้ยาแรงแต่เสี่ยงเศรษฐกิจโคม่า
เป็นโจทย์หินอีกครั้ง เพราะไม่ว่าจะเลือกทางใดทางหนึ่งมันก็ส่งผลถึงกันทั้งสิ้น จึงต้องเตรียมแผนสกัดไม่ให้เลือดไหลมากที่สุด
อย่างไรก็ตามโควิดรอบแรก รัฐบาลได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติในการแก้ปัญหา แต่รอบนี้หลายคนที่ยังไม่ฟื้นจากรอบแรก
โดยเฉพาะคนหาเช้ากินค่ำ แค่ได้ยินคำว่าล็อกดาวน์ก็แทบช็อก! เจ็บปวดหัวใจไม่มีใครอยากได้ยิน
จึงเป็นการวัดใจผู้นำอีกครั้ง อยู่ที่นายกฯ จะตัดสินใจ แต่อย่าลืมว่าถ้าเมื่อไหร่ที่ตัดสินใจผิด เวทีสภาโดยฝ่ายค้าน เตรียมโหมโรงรอขย่มทันที อย่างน้อยตอนนี้ก็มีการกางชื่อ 3ป. ขึ้นมาเตรียมรอเชือดไว้อยู่แล้ว ดังนั้นนอกจากเศรษฐกิจกับสุขภาพประชาชนแล้ว อย่างน้อยอนาคต 3ป. ก็คงแขวนอยู่บนเส้นด้ายเช่นกัน. |
| | |
|
| |
|
pageview 1205019 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |