หมอเตือนเข้าป่าเก็บเห็ดพิษมากินถึงตายได้ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนมีเห็ดหลายชนิดขึ้นตามธรรมชาติ เผยช่วง 5 เดือนของปีนี้ ในเชียงใหม่มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาแล้ว 16 ราย ตาย 1 ราย หลังจากกินเห็ดพิษ เพราะการต้มหรือปรุงสุกไม่สามารถฆ่าพิษในเห็ดได้ ย้ำถ้ามีอาการให้รีบไปหาหมอทันที อย่าซื้อยามากินเอง
          เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นพ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อถึงช่วงฤดูฝนจะมีกลุ่มชาวบ้านและชาวเขานิยมเข้าป่าเพื่อไปหาเห็ด ไม่ว่าจะเป็นเห็ดโคน เห็ดเผาะ และเห็ดอีกหลากหลายชนิดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ บางครั้งอาจจะมีเห็ดพิษปะปนมาด้วย โดยทุกปีจะมีผู้เจ็บป่วย และเสียชีวิตจากการกินเห็ดพิษเข้าไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตามในปีนี้ตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นต้นมา ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ที่เข้ารับการรักษาแล้ว 16 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ในเขตพื้นที่ อ.อมก๋อย ซึ่งได้บริโภคเห็ดพิษ โดยผู้ป่วยกระจัดกระจายอยู่ทุกอำเภอรอบนอกของเชียงใหม่
          สำหรับผู้บริโภคเห็ดพิษเข้าไป สารที่เข้าสู่ร่างกายจะไปทำลายตับ และมีอาการตับวาย โดยสังเกตอาการได้จากผู้ป่วยจะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง และเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งอาการเริ่มต้นอาจจะไม่ได้เสียชีวิตทันที เพราะอวัยวะจะค่อย ๆ ถูกทำลายไป นอกจากนี้พิษของเห็ดยังสามารถเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกาย เมื่อรับประทานเข้าไปเป็นประจำจนทำให้เกิดการสะสม จึงเสียชีวิตได้
          นพ.วัฒนา กล่าวต่อไปว่า อยากจะขอเตือนถึงพี่น้องประชาชนว่า เห็ดป่าส่วนใหญ่จะเป็นเห็ดที่มีพิษ ประกอบกับในขณะนี้ยังไม่มีวิธีการตรวจทางกายภาพใด ๆ ที่จะรับรองว่าปลอดภัย และจะมีพิษตั้งแต่น้อยไปจนถึงมาก ส่วนใหญ่เห็ดที่ประชาชนเก็บมารับประทานกันจะมีเห็ดระโงก เห็ดขี้วัว โดยลักษณะของเห็ดที่เป็นพิษจะมีรูปร่างเหมือนเห็ดทั่วไป และสีที่แตกต่าง ส่วนใหญ่จะเป็นสีที่ไม่ใช่สีขาว มีสีสันสวยงามน่ารับประทาน การนำมาต้มหรือปรุงสุกไม่สามารถฆ่าพิษในเห็ดได้
          ดังนั้นหากผู้ที่ไม่เคยรับประทาน หรือพบเห็นเห็ดแปลก ๆ ควรหลีกเลี่ยงและไม่ควรรับประทาน หากพบว่ามีอาการผิดปกติทางร่างกายหลังจากรับประทานเข้าไปแล้ว ไม่ว่าจะปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ท้องเสีย ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการทันที อย่าหายามารับประทานเอง เพราะระยะเวลาที่พิษเข้าสู่ร่างกายจะอยู่ที่ประมาณ 3-7 วัน หากปล่อยทิ้งไว้จะไม่สามารถรักษาได้เพราะไม่มียาต้านพิษเฉพาะ.