เปิดใจ'อยากคลายล็อกใจจะขาด'สั่งเรียนเหลื่อมเวลา
          ศบค.ปลื้มผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์วันแรกแต่ไม่ให้ประมาท
          "ศบค." ประกาศชัยชนะ ยอดติดเชื้อเป็นศูนย์วันแรก เตือน อย่าเพิ่งวางใจ ห้ามใช้ชีวิตปกติ ไวรัสอาจอยู่ระหว่างฟักตัว เหมือนเกาหลี-จีนเจอเชื้อซ้ำ พร้อมรอรับคนไทยกลับอีก 313 คน จากยูเครน-ฟิลิปปินส์-อินเดีย "บิ๊กตู่" สุดปลื้มย้ำอย่าประมาท เผยอยากคลายล็อกใจจะขาด แนะคนไทยเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่อยู่บ้านมากขึ้น สั่ง สธ.-ศธ.-พม. หาวิธีการเปิดเรียนเหลื่อมเวลา "สธ." ชี้ต้องยกการ์ดสูงต่อ เพราะเป็นโรคแปลก แพร่ได้แม้ไม่มีอาการ ยัน 3 กฎเหล็ก สวมหน้ากาก-ล้างมือ-เว้นระยะห่างยังจำเป็น
          จีนจับ  11 ล้านคนตรวจ
          เมื่อวันที่ 13 พ.ค. สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า หลายประเทศในยุโรปเริ่มคลายล็อกดาวน์ แม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตเฉียดใกล้ 3 แสนศพ เช่น ออสเตรียเปิดพรมแดนที่ติดกับเยอรมนี, อังกฤษ ให้ประชาชนออกกำลังกายกลางแจ้งได้ รวมทั้งรัสเซียที่แม้ผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้น 232,000 ราย เริ่มผ่อนปรนแล้ว ขณะที่นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำตัวของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ติดเชื้อแล้ว
          ส่วนจีนสั่งตรวจหาเชื้อในประชากรเมืองอู่ฮั่นกว่า 11 ล้านคนทั้งหมด หลังพบผู้ป่วยเพิ่ม หวั่นจะเกิดการระบาดรอบสอง ด้านสเปนพบว่า นางมาเรีย บรานยาส แม่เฒ่าวัย 113 ปี ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา หลังจากกักตัวในห้องพักนานหลายสัปดาห์ ปรากฏว่าได้หายป่วยแล้ว
          ติดเชื้อ-ตายศูนย์
          ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถาน การณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโร นา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในไทย วันนี้มีข่าวดีเป็นครั้งแรกที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็น 0 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมยังอยู่ที่ 3,017 คน และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยังคงเท่าเดิมคือ 56 ศพ ตนขอแสดงความดีใจกับทุกคน ที่พยายามทำกันมาหลายวัน ขณะเดียวกันมีผู้ที่รักษาหายเพิ่มอีก 46 ราย ทำให้มีผู้ที่รับการรักษาหายแล้วรวมเป็น 2,844 คน  ส่วนที่ยังรักษาใน รพ. มีจำนวน 117 ราย สำหรับจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อนยังเหมือนเดิม คือ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ  พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี อ่างทอง จังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ในช่วง 28 วันที่ผ่านมายังมี 50 จังหวัด
          ย้ำอย่าเพิ่งวางใจ
          โฆษก ศบค. กล่าวว่า หลังจากผ่อนปรนกิจการกลุ่มสีขาวตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ผ่านมาแล้วประมาณ 10 วัน พบว่าวันที่ 4 พ.ค. เท่านั้นที่มีผู้ป่วยเพิ่ม 18 ราย เป็นการพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ทั้งหมด และเป็นวันแรกที่ไม่มีรายงานการติดเชื้อภายในประเทศ ส่วนกรณีในวันนี้  13 พ.ค. ถือเป็นวันที่ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างเป็นทาง การจริง ๆ นี่คือสิ่งที่อยากบอกให้ทุกคนภาคภูมิใจ ในสิ่งที่เราสามัคคีและร่วมกันทำให้ตัวเลขเช่นนี้เกิดขึ้นจริง แต่ต้องขอให้ทุกคนยังช่วยกันทำต่อไป เพราะกรณีผู้ป่วยยืนยันในช่วง 2 สัปดาห์ล่าสุดนั้น 5 อันดับแรกของปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อยที่สุด คือ  1. ศูนย์กักกันหรือผู้ต้องกัก 2. การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในชุมชน 3. การสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า 4. ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และเข้าสถานกักกันของรัฐและ 5.การไปสถานที่ชุมนุมชน ตนขอย้ำว่าเราเบาใจได้แต่อย่าวางใจ และปฏิบัติมาตรการหลัก  3 ข้อหลัก คือล้างมือ  เว้นระยะห่าง และใส่หน้ากาก
          ห้ามใช้ชีวิตปกติ
          ต่อข้อถามว่าขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นศูนย์แล้ว ถือว่าประชาชนสามารถใช้ชีวิตปกติได้แล้วหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ ตอบว่า ยังใช้ชีวิตปกติไม่ได้ เพราะการที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นศูนย์ อาจเกิดในวันนี้แต่พรุ่งนี้เชื้อโรคในคนที่สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้อาจฟักตัวอยู่ ถ้าดูแลไม่ดีอาจมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น เหมือนกรณีของประเทศเกาหลีใต้ที่มีผู้ติดเชื้อ 1 คน และมีผู้ติดเชื้อไปอีก 100 กว่าคน ทำให้ต้องติดตามตัวคนอีก 2,000 กว่าคน ทั้งนี้จำนวนผู้ติดเชื้อของเราต้องเป็น 0 ไปตลอด ซึ่งบางทฤษฎีระบุว่าอาจต้องนาน 14 หรือ 21 วัน แม้แต่ในจีนที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์มาหลายวัน แต่ยังมีจำนวนผู้ป่วยกลับมาเพิ่มอีก อย่างในเมืองอู่ฮั่น จึงถือว่ายังไว้วางใจไม่ได้
          เร่งตรวจหาเชิงรุก
          นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยว่า ส่วนการปรับเกณฑ์การตรวจผู้ป่วยที่มีอาการตามนิยามเฝ้าระวังโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้จำนวนผู้เข้ารับการตรวจมีมากขึ้น โดยระหว่างวันที่ 1-12 พ.ค. มีผู้รับการตรวจ 34,444 ราย พบผู้ป่วยยืนยัน 63 ราย ถือว่าอัตราการพบผู้ติดเชื้อคิดเป็น 0.18 เปอร์เซ็นต์ แต่เรายังต้องตรวจเพิ่มต่อไปเรื่อย ๆ  ขณะที่กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ได้วิเคราะห์ลักษณะของโรคโควิด-19 ในสถานกักกันโรคของรัฐที่ส่วนกลางและจังหวัด ตั้งแต่เดือน ก.พ.-11 พ.ค. พบว่ามีผู้ป่วยจำนวน 90 ราย ส่วนใหญ่อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 41 ปี อายุต่ำสุดอยู่ที่ 15 ปี อายุสูงสุดอยู่ที่ 77 ปี มีเพศชายมากกว่าเพศหญิง คิดเป็นสัดส่วน 8 ต่อ 1 อีกทั้งผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นคนสัญชาติไทย ส่วนสัญชาติอเมริกันและสัญชาติอังกฤษอย่างละ 1 เปอร์เซ็นต์
          สำหรับจังหวัดที่มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา คือ สงขลา  19 ราย สตูล 18 ราย กรุงเทพฯ 16 ราย ปัตตานี  12 ราย ยะลา  8 ราย ชลบุรี  7 ราย นราธิวาส  6 ราย กระบี่ 3 ราย และสมุทรปราการ  1 ราย ส่วนประเทศต้นทางที่ผู้ป่วยเดินทางมาแบ่งเป็นจากอินโดนีเซีย 63 ราย ตามด้วยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5 ราย สหรัฐอเมริกา 5 ราย มาเลเซีย  4 ราย คาซัคสถาน  2 ราย ญี่ปุ่น  2 ราย ปากีสถาน  2 ราย สหราชอาณาจักร  2 ราย ขณะที่จีน เนเธอร์แลนด์ รัสเซีย อินเดีย  ประเทศละ 1 ราย และยังไม่ระบุ 1 ราย กรณีของแรงงานต่างด้าวในศูนย์กักกันของ ตม.สะเดา จ.สงขลา ตั้งแต่เดือน ก.พ.-11 พ.ค. ที่ผ่านมา จำนวน  74 คนนั้นมีผู้ป่วย 65 คน และพบว่ามีผู้ป่วยสัญชาติ เมียนมามากที่สุด 57 เปอร์เซ็นต์ ต่างด้าวอื่น 31 เปอร์เซ็นต์ สัญชาติเวียดนาม 5 เปอร์เซ็นต์ มาเลเซีย 3 เปอร์เซ็นต์ กัมพูชา  2 เปอร์เซ็นต์ เยเมน  2 เปอร์เซ็นต์ และอินเดีย  2 เปอร์เซ็นต์
          หลายประเทศระบาด
          โฆษก ศบค. ระบุว่า สำหรับสถานการณ์โลกมีผู้ป่วยสะสมจำนวน 4,342,345 ราย รักษาหายแล้ว 1,601,847 ราย และเสียชีวิต 292,893 ศพ โดยสหรัฐอเมริกามีจำนวนผู้ป่วยมากที่สุด 1,408,636 ราย สเปน  269,520 ราย รัสเซีย 232,243 ราย สหราชอาณาจักร 226,463 ราย อิตาลี 221,216 ราย ผู้ป่วยสะสมในทวีปเอเชีย อินเดียมีมากที่สุด ตามด้วยปากีสถาน สิงคโปร์ บังกลาเทศ และญี่ปุ่น ส่วนประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ ทางการจีนพบผู้ติดเชื้อ 6 ราย ในเมืองอู่ฮั่น และกรณีนำเข้าจากต่างประเทศ 7 ราย ตัดสินใจตรวจประชาชนในเมืองอู่ฮั่น 11.08 ล้านคน
          ขณะที่ในเกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อ 102 คน จากสถานบันเทิงย่านอิแทวอน เร่งตามตัวกลุ่มเสี่ยงอีก 2,000 คน และได้เลื่อนเปิดภาคเรียนจากวันที่ 20 พ.ค. ค่อยเริ่มกลับมาเรียนในเดือน มิ.ย.นี้ ส่วนที่เยอรมนีมีการผ่อนคลายทั่วประเทศ เปิดธุรกิจขนาดเล็กและโรงเรียน แต่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 933 ราย รัฐบาลท้องถิ่นกำลังพิจารณากลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ถ้าตัวเลขการระบาดสูงขึ้น เหตุการณ์แบบนี้ไทยจะเทียบเคียงกับประเทศไหนไม่ได้ ขึ้นอยู่กับประชาชนต้องช่วยกัน ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับเรา แม้แต่ตัวเลขสองหลักเราไม่อยากให้เกิด
          คนไทยกลับอีกกลุ่ม
          นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า  ในวันที่  13 พ.ค. จะมีคนไทยกลับจากยูเครน 13 ราย ฟิลิปปินส์ 171 ราย อินเดีย 129 ราย ส่วนในวันที่ 14 พ.ค. มาจากเยอรมนี 80 ราย บังกลาเทศ 197 ราย ส่วนการปฏิบัติงานด้านความมั่นคง ในช่วงเคอร์ฟิวคืนวันที่ 12 พ.ค. ต่อเนื่องเช้าวันที่ 13 พ.ค. มีผู้ฝ่าฝืนออกนอกเคหสถาน 551 ราย เพิ่มขึ้นจากคืนก่อน  65 ราย ชุมนุมมั่วสุม  47 ราย ลดลงจากคืนก่อน 21 ราย สาเหตุการชุมนุมมั่วสุมมาจากดื่มสุรา 57 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือ  เล่นการพนันและยาเสพติด ขณะที่ผลการตรวจกิจการ และกิจกรรมประจำวันที่ 12 พ.ค. มีการตรวจไปทั้งสิ้น 23,575 แห่ง ปฏิบัติตามมาตรการ  22,123 แห่ง ปฏิบัติตามมาตรการแต่ไม่สมบูรณ์ 1,310 แห่ง หรือ  5.92 เปอร์เซ็นต์ ไม่พบการไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ตรงนี้อาจเกิดจากเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบทุกวันและให้คำแนะนำ ขอบคุณผู้ประกอบการทุกคนที่ให้ความร่วมมือ สิ่งเหล่านี้จะเป็นชีวิตวิถีใหม่ของพวกเรา
          แนะปรับชีวิตวิถีใหม่
          ที่วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ว่า สิ่งที่เป็นห่วงคือวันนี้เรากำลังเดินหน้าไปสู่ชีวิตยุคใหม่ วันข้างหน้าประชาชนอาจไม่ออกมานอกบ้านเหมือนเดิม ต้องมีการปรับปรุงขายของออน ไลน์ ดิลิเวอรี่ มีการปลูกพืชผักสวนครัวตามอพาร์ตเมนต์ตามบ้านเรือน มีการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เป็นสิ่งที่ต้อง เตรียมความพร้อมในชีวิตวิถีใหม่ เราต้องเรียนรู้ในระบบเหล่านี้ เพื่อนำมาสร้างอาชีพสร้างรายได้ในอนาคต เพราะหากทำพฤติกรรมเดิม ๆ คงไม่ได้แล้ว ตนเป็นห่วงเรื่องนี้พร้อมฝากสื่อและสังคม ช่วยกันเผยแพร่เรื่องเหล่านี้ด้วย
          เตือนอย่าประมาท
          นายกฯ ระบุอีกว่า ส่วนการขยายมาตร การการทำงานที่บ้าน ของภาคเอกชนและภาคธุรกิจ ตนคิดว่าการทำงานที่บ้านไม่ใช่แค่การป้องกันโควิด-19 อย่างเดียว ตนนึกถึงการแก้ไขปัญหาการจราจรด้วย ตนขอเตือนแม้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่อย่าประมาทถึงตัวเลขจะเป็นศูนย์ประมาทไม่ได้ เพราะเชื้อโรคยังสะสมอยู่ บางคนไม่แสดงอาการ ไม่ใช่ติดเชื้อน้อยแล้วจะผ่อนปรนมากขึ้น ตนอยากให้เปิดใจจะขาด แต่ถ้ามีผู้ติดเชื้อแล้วจะทำอย่างไร
          สั่งเรียนเหลื่อมเวลา
          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียว กันตนได้สั่งการไปแล้วว่า การเรียนการสอนที่บ้านเป็นสิ่งสำคัญ ที่ตนได้ให้นโยบายไปขอให้ไปทบทวนว่าการเรียนการสอนในวิชาใด สามารถเรียนออนไลน์และเรียนโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมได้ จะช่วยลดเวลาที่ต้องไปโรงเรียน รวมถึงมาตรการเหลื่อมเวลาในการทำงาน ที่ทำให้การจราจรไม่ติดขัด แต่ต้องคำนึงถึงผู้ปกครองที่ส่งลูกหลานไปโรงเรียน เพื่อให้จัดระเบียบในองค์กร ว่าพนักงานคนใดมีลูกวัยไหน เพื่อจัดเวลาเข้าทำงาน ตนสั่งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปหาวิธีการที่จะให้โรงเรียนเปิดเหลื่อมเวลา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น วันนี้ เราต้องคิดระยะยาวเพื่อลูกหลานของเราในอนาคต นักบริหารจะต้องคิดแบบนี้ แก้ปัญหา ทำปัจจุบันและคิดอนาคต เตรียมการสู่อนาคตไปในเวลาเดียวกัน นั่นคือหลักการของผู้บริหารที่ดี
          ยกการ์ดสูงลั่นโรคแปลก
          ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ. อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ไม่มีผู้ป่วยเพิ่มแต่อย่าการ์ดตก เพราะไวรัสโควิด-19 เป็นโรคใหม่ที่ค่อนข้างแปลกกว่าโรคทางเดินหายใจอื่น เพราะสามารถแพร่โรคได้แม้ยังไม่มีอาการ ดังนั้นยังจำเป็นที่ต้องสวมหน้ากาก-ล้างมือ-เว้นระยะห่าง
          ด้าน นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า หลังผ่อนปรน 6 กิจการ-กิจ กรรม กรมอนามัยได้สำรวจ 2 ประเภทกิจการ คือร้านตัดผม, ร้านเสริมสวย และร้านตัดขนสัตว์เลี้ยงทั่วประเทศ เพื่อดูว่าทำตามมาตรการหรือไม่ ผลออกมาไม่ค่อยดีนัก ไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ  63 ส่วนใหญ่คือบันทึกคนมารับบริการ แต่การป้องกันการแพร่ระบาดยังทำได้ดี ส่วนร้านตัดขนไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 53 ส่วนใหญ่เป็นการคัดกรองพนักงานและคนใช้บริการ หวังว่าที่ยังทำไม่ผ่านนั้น ถ้าได้รับความร่วมมือ โดยเฉพาะมาตรการบางอย่างในส่วนของร้านเสริมสวย-ร้านตัดผม อาจอนุญาตให้ทำอย่างอื่นมากขึ้น
          โพลตอบโจทย์ปชช.
          สำหรับกรณีที่รัฐบาลจะทำโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชน จะต่อหรือยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น รายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคง แจงว่า นายกฯ ต้องการทราบข้อมูลรอบด้าน เพื่อไปประเมินผลและออกมาตรการ ต่าง ๆ  ให้เกิดความสมดุล เพราะต้องทำควบคู่กับการคลายล็อกระยะต่อไป เพื่อไม่ให้กระทบกับการใช้ชีวิตและประกอบอาชีพมากเกินไป
          ขณะที่นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวการตั้งโรงทานในวัดที่มีทั้งหมด 914 แห่งใน 77 จังหวัด ขณะนี้มีแนวทางตั้งโรงทานเคลื่อนที่เหมือนดิลิเวอรี่ส่งตรงถึงบ้าน โดยประสานผ่านทางผู้นำชุมชน เพื่อให้ถึงมือผู้เดือดร้อนไม่ต้องไปแออัดที่วัด
          ส่วนนายฐากร ตัณฑสิทธิ์  เลขาฯคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติอนุมัติกำหนดให้เรียงลำดับหมายเลข ช่องรายการเพื่อการศึกษาขั้นพื้นฐาน ช่องรายการเพื่อการศึกษาผ่านทางไกล และช่องรายการเพื่อการอาชีวศึกษา 17 ช่องรายการ ตั้งแต่ช่องรายการหมายเลข 37 จนถึงช่อง 53 โดยให้ไทยพีบีเอสทดลองเปิดช่องทีวีเรียนสนุก 1  ช่อง โดยใช้ช่องหมายเลข  4
          พระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ
          วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานห้องตรวจหาเชื้อแก่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ซึ่งเป็นโครงการ "เครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน" เพื่อป้องกันความเสี่ยงการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ สร้างความปลาบปลื้มแก่เหล่าทีมแพทย์เป็นอย่างสูง โดยมี นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าฯ สระแก้ว นพ.สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช  นพ.สสจ.สระแก้ว นพ.สุรสิทธ์ จิตรพิทักษ์เลิศ ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เป็นผู้รับมอบ
          ส่วนที่ จ.ภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์  ผู้ว่าฯ เป็นประธานประชุมเพื่อเตรียมเปิดช่องทางอากาศ-น้ำ-บก ตั้งแต่วันที่  16 พ.ค.นี้ แต่ผู้จะเดินทางเข้ามาต้องกรอกแบบสอบถาม รวมทั้งใช้แอพพลิเคชั่น "หมอชนะ"  ด้วยเพื่อใช้ในการติดตามสอบสวนโรค
          ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รอง นายกฯ และ รมว.สธ. เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจทีมแพทย์พยาบาล ที่ดูแลผู้ป่วยไวรัสที่ รพ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
          ด้าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง  ผบช.สตม. แถลงข่าวจับกุมแก๊งชาวจีนกักตุนหน้า กากอนามัย พร้อมยึดของกลางได้นับหมื่นชิ้นในกรุงเทพฯ
          ยันไม่มีเชื้อในอสุจิ
          ด้าน นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ  นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีประเทศจีนศึกษาพบเชื้อในน้ำอสุจิของผู้ป่วยชาย ว่า ผลการศึกษายังไม่มีความชัดเจน ว่าติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ เป็นการศึกษาเบื้องต้น ต้องศึกษาข้อมูลให้มากกว่านี้ ที่ผ่านมาไวรัสสายพันธุ์อื่นในกลุ่มโคโรนา ไม่มีรายงานว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อย่างไรก็ตามหากมีเพศสัมพันธ์ช่วงการแพร่ระบาด ควรใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
          ส่วนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เปิดเผยว่า การปลดล็อกระยะ 2 จะยึดหลักเกณฑ์เดียวกับระยะ 1  คือ 1.โอกาสเสี่ยงของบุคคล เช่น คนประเภทเสี่ยง 2.โอกาสเสี่ยงด้านสถานที่ อาทิ ห้าง  ตลาด  ผับ บาร์  3.โอกาสเสี่ยงของแต่ละกิจกรรมและกิจการ ส่วนจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มันเร็วไปที่จะพูดในขณะนี้ เพราะยังเหลือเวลาอีกครึ่งเดือน.