น่าห่วงนับร้อยไม่รู้ติดเชื้อจากไหน'เชียงใหม่-โคราช'ประกาศปิดเมือง
          "เชียงใหม่-โคราช" ทนไม่ไหวปิดเมืองด้วย หลังเจอป่วยโควิด 12 และ 5  คน "สธ." เผยติดเชื้อวันเดียวทะลุ 188 ราย ชี้เป็นการเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ประสานผู้ว่าฯทั่วประเทศ เฝ้าระวังเข้มคนออกจาก กทม. กลับบ้าน หวั่นแพร่เชื้อกระจายทั่วเมือง เผย 108 คนตรวจหาแหล่งไม่ได้ "บิ๊กตู่" ชูนิ้วสู้ ๆ ลั่นกำลังทำการยกระดับสู้ไวรัส "บัวแก้ว" เผย มีหญิงไทยในสหรัฐเสียชีวิตด้วยไวรัสแล้ว "คน." ขู่ พวกฉวยขึ้นราคาสินค้าเจอคุกแน่ ยัน อาหารเพียงพอไม่ต้องตุน ขณะที่ทั่วโลกล็อกดาวน์พันล้านคน อิตาลีตายพุ่ง 4.8 พันราย ป่วยไม่น้อยกว่า 5.3 หมื่นคน
          พันล้านคนกักตัวเอง
          เมื่อวันที่ 22 มี.ค. สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ขณะนี้มีประชาชนเกือบ 1 พันล้านคนทั่วโลก กักตัวเองอยู่แต่ในที่พักอาศัย เนื่องจากมีมาตรการล็อกดาวน์หรือปิดประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส "โควิด-19" โดยมีทั้งหมด 35 ประเทศที่ใช้มาตรการปิดประเทศ นอกจากนี้ยังพบผู้ติดเชื้อทั่วโลกสูงกว่า 300,097 ราย เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 12,895 คน จากการแพร่ระบาดใน 169 ประเทศทั่วโลก
          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ แถลงว่า นี่คือเวลาที่ต้องเสียสละเพื่อชาติ แต่ก็เป็นเวลาที่ทำให้เรารักกัน เราจะประสบผลสำเร็จได้ นอกจากนี้สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ ได้อนุมัติชุดตรวจไวรัสโควิด-19 ที่สามารถรู้ผลการตรวจภายใน 45 นาที และรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ และภรรยาไม่พบว่าติดเชื้อ โดยสหรัฐยอดป่วยสะสม 15,219 ราย ตาย 201 คน
          อิตาลีตาย 4.8 พันคน
          ส่วนอิตาลีสถานการณ์ยังเลวร้าย มียอดติดเชื้อรวมกว่า 53,578 ราย เสียชีวิต 4,825 คน เป็นอันดับ 1 สูงกว่าจีนที่อยู่อันดับ 2 ตามด้วยอิหร่านอันดับ 3 โดยอิตาลีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 8.6 สูงกว่าประเทศอื่น ๆ ในโลก ทำให้ประชากร 60 ล้านคนกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่เชื้อ นายกรัฐมนตรีกุยเซปเป้ คอนเต้ ได้ประกาศปิดโรงงานผลิตที่ไม่มีความจำเป็นทั่วประเทศ ส่วนสเปนเสียชีวิต 1,326 ราย ติดเชื้อกว่า 24,926 คน ที่ฝรั่งเศสตำรวจต้องใช้กำลังเสริม ทั้งเฮลิคอปเตอร์และโดรน บินลาดตระเวนตรวจตราเพื่อให้คนอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น หลังพบมีการเสียชีวิต 562 ราย ติดเชื้อกว่า 14,000 คน สำหรับจีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้ไม่มีผู้ติดเชื้อมา 4 วัน ทำให้ทางการจีนหวั่นวิตกว่า การติดเชื้อครั้งนี้เป็นการติดมาจากต่างประเทศ จะทำให้เกิดการระบาดเป็นครั้งที่ 2
          ไทยติดเชื้อ 188 ราย
          ขณะที่สถานการณ์ในไทย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณนิเทศก์ ในฐานะโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 188 ราย ล่าสุดมีผู้ป่วยสะสม 599 ราย กลับบ้านแล้ว 1 ราย ผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยกลุ่มแรกส่วนใหญ่มาจากกลุ่มสนามมวย 21 ราย จากกลุ่มสถานบันเทิง 5 ราย จากกลุ่มเข้าร่วมพิธีทางศาสนา 2 รายผู้ที่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย 37 ราย แล้วกระจายไปอยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ 15 ราย ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ กลุ่มที่ 3 จำนวน 108 ราย กลุ่มนี้คือกลุ่มที่ได้รับผลยืนยันพบเชื้อแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าติดเชื้อมาจากทางใด ในจำนวนนี้อาการหนัก 7 ราย ตอนนี้ผู้ป่วยหนักทุกรายต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ
          นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนทุกท่านหยุดอยู่ที่บ้าน อย่าเดินทางกลับภูมิลำเนาเด็ดขาด เพราะอาจเป็นการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาดหากไม่จำเป็น ในส่วนผู้ป่วย 108 รายกำลังอยู่ในช่วงการหาสาเหตุแต่ผู้ติดเชื้อจำนวนมากต้องขอเวลาเรามองไปข้างหน้า วิเคราะห์เหตุใหญ่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น คือกลุ่มก้อนใหญ่ ๆ การกระจายเชื้อไปต่างจังหวัดขอให้ทุกคนหยุดอยู่ที่บ้านทำไมจึงเป็นคำตอบ อยู่บ้านหยุดเชื้อ เพื่อชาติ รณรงค์พร้อมใจกันทั้งประเทศตอนนี้พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
          เตรียมโรงแรมรับผู้ป่วย
          นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ขณะนี้เชื่อว่าโรคนี้แพร่กระจายมากขึ้น แต่ทำอย่างไรไม่ให้โรคไปไวต้องให้ไปช้า ๆ เพื่อตัวยารักษามีเพียงพอและสงวนชีวิตคนไทย การทักทาย พูดคุย เว้นระยะ 1-2 เมตร เลี่ยงกอดจูบ สัมผัสกัน ลดการออกนอกบ้าน ไม่จัดงานสังสรรค์
          นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า ได้เตรียม รพ.สนามและโรงแรม เป็นสถานที่ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับผู้ป่วยไม่หนัก ลดความแออัดในโรงพยาบาลลง กรุงเทพฯยกระดับขั้นสูงสุดถือว่าทุกคนเป็น กลุ่มเสี่ยง ทุกคนมีโอกาสทั้งหมด ต้องไม่แพร่กระจายเชื้อไปต่างจังหวัด
          ผู้ว่าฯกทม.ประกาศเพิ่ม
          วันเดียวกัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ได้ออกประกาศเรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 3 ระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศกทม.เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา จึงให้แก้ไขข้อความในข้อ 1 และข้อ 2 ของประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ดังนี้ 1.ร้านอาหารโดยรวมถึงร้านอาหารที่อยู่ในคูหา รถเข็น และแผงลอยจำหน่ายอาหาร (ให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น และร้านอาหารในโรงแรมที่ให้บริการเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในโรงแรมหรือจำหน่ายอาหารเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น) ยกเว้นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในสนามบิน
          2.ห้างสรรพสินค้าโดยรวมถึงศูนย์ การค้า คอมมูนิตี้ มอลล์เว้นแต่ซูเปอร์มาร์เกต ร้านขายยา หรือสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อ การดำรงชีวิตร้านอาหาร (ให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหาร เพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น) ไม่รวมถึงพื้นที่ตั้งของธนาคาร
          "เชียงใหม่"ล็อกดาวน์
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังผู้ว่าฯกทม.สั่งล็อกดาวน์กรุงเทพมหานคร ได้มีอีก 2 จังหวัดสั่งปิดเมืองลักษณะเดียวกัน คือที่ จ.เชียงใหม่ หลังพบผู้ติดเชื้อแล้ว 12 ราย นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่มีคำสั่งประกาศปิดสถานที่ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.-13 เม.ย. อาทิ สถานศึกษา, ศูนย์แสดงสินค้า, บางพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ยกเว้น ซูเปอร์มาร์เกต ร้านขายยา หรือสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต, ตลาด ยกเว้น อาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จเพื่อนำกลับไปบริโภคที่บ้าน, ถนนคนเดิน, ร้านอาหาร, สถานบริการที่มีคนชุมนุม, ร้านสปา ร้านนวด ร้านเสริมสวย, สระว่ายน้ำ, สถานออกกำลังกาย, โรงหนัง, ศูนย์พระเครื่อง, สนามกอล์ฟ, สนามยิงปืน, บ่อตกปลา-กุ้ง, สนามไก่ชน, สนามมวย, สนามม้า หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          ผวจ.โคราชสั่งปิดเมือง
          จังหวัดต่อมาคือนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ออกประกาศคำสั่งที่ 2878/2563 สั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ทั้งห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งสถานประกอบการที่มีคนใช้บริการมาก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.-12 เม.ย. จากนั้นให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตามถนนทั่วเมือง ทั้งอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี, สถานีรถไฟ และสถานีขนส่ง หลังเจอผู้ติดเชื้อแล้ว 5 ราย เป็นกลุ่มเซียนมวย 3 คน หญิงสาว 2 ราย และมีผู้เข้าข่ายอีก 13 คน ทำให้ถนนสายหลักและภายในห้างเงียบเหงาเหมือนเมืองร้าง
          "แพรวา" เปิดชื่อร้านเพิ่ม
          ขณะที่ "แพรวา-ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์" นักร้องนักแสดงสาวคนดัง ที่ก่อนหน้านี้ได้โพสต์ทางอินสตาแกรมส่วนตัว ว่าตัวเองป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้นล่าสุดได้อัดคลิปลงอินสตาแกรมส่วนตัว ว่ายังมีกำลังใจดีพร้อมทั้งขอโทษร้านที่เอ่ยชื่อ เพื่อให้ระวังป้องกันการแพร่ระบาด โดยในช่วงหนึ่งบอกว่า "ขอเพิ่มดีเทลชื่อร้านแถวบ้านจันทบุรีในวันที่ 7-8 มี.ค. นะคะ ร้านก๋วยเตี๋ยวป๊าติ๊ด ท่าใหม่ วันที่ 7 มี.ค.จุดชมวิวผาสุขนิรันดร์ วันที่ 8 มี.ค.ร้านพิซซ่า ของร้านเชฟเต็ง แหลมสิงห์"
          หลังจากนักร้องสาวได้โพสต์ออกไป ทำให้เพื่อนนักแสดงและคนในวงการบันเทิง ต่างพากันหวาดผวารีบไปหาแพทย์ตรวจหาเชื้อกันเป็นการใหญ่ ในจำนวนนี้มีนักร้องหนุ่ม "เบล-สุพล พัวศิริรักษ์" ที่ได้ไปประชุมงานกับแพรวาเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว โดยระบุว่า "เนื่อง จากวันที่  15 มี.ค.ผมได้เข้าประชุมกับน้องแพรวาที่นาดาว บางกอก คืนวันที่ 20 ผมเลยรีบไปตรวจ ผลตรวจโควิด-19 ของผมออกมาเป็นลบ ไม่มีเชื้อนะครับ แต่ยังไงก็จะกักตัวและเฝ้าระวังต่อไป"
          หญิงไทยในสหรัฐเสียชีวิต
          นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ ว่า มีหญิงไทยอายุ 66 ปี เป็นหัวหน้าแม่ครัวร้านอาหารไทยในกรุงวอชิงตัน ดีซี เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยหญิงไทยคนดังกล่าวถือ 2 สัญชาติและพักอาศัยในสหรัฐเป็นเวลาหลายสิบปี ทั้งนี้นายธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูตไทย ได้แสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งจะช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กรมการกงสุลได้แจ้งประกาศเปลี่ยนแปลงการให้บริการ โดยปิดให้บริการที่สำนักงานหนังสือ เดินทางชั่วคราวในกรุงเทพฯ 3 จุด ได้แก่ 1.บางนา-ศรีนครินทร์ ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค 2.ปิ่นเกล้า อาคารเอสซี พลาซ่า สถานีขนส่งกรุงเทพสายใต้ใหม่ 3.มีนบุรี ศูนย์การค้าบิ๊กซี สาขาสุวินทวงศ์ ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.-12 เม.ย. และจะส่งหนังสือเดินทางให้ทางไปรษณีย์แทน แต่กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ และสถานีรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีคลองเตย ยังเปิดให้บริการตามปกติ แต่ต้องสวมหน้ากากทุกครั้ง
          ยันอาหารพอไม่ต้องตุน
          นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน รักษาราชการแทนอธิบดีฯ (คน.) เปิดเผยว่า ได้ประสานพาณิชย์จังหวัดและตำรวจ ตรวจสอบร้านจำหน่ายสินค้าทั่วประเทศ เพื่อป้องกันพ่อค้ากักตุนสินค้า และแอบฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาซ้ำเติมประชาชน เนื่องจากช่วงนี้มีการหาซื้อสินค้าที่จำเป็นจำนวนมาก หากพบร้านค้าหรือพ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า จะมีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตามนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รอง นายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ได้รับการยืนยันจากผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ว่าปัจจุบัน มีสต๊อกสินค้าเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งแตกต่างจากเหตุน้ำท่วมที่ส่งผลกระทบต่อการขนส่ง ทำให้โรงงานบางแห่งปิดการผลิต แต่ปัจจุบันโรงงานสามารถผลิตและขนส่งได้ตามปกติ ไม่อยากให้ประชาชนแตกตื่นกักตุนสินค้า
          "นายกฯตู่" ชูกำปั้นสู้ ๆ
          ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เดินทางมาถึงตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมทั้งเรียก นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. และ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เข้าหารือที่ ห้องทำงานทันที นอกจากนี้ยังมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอนุทิน ชาญ วีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สธ. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.เข้า ร่วมหารือด้วย
          จากนั้นเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้าโดยไม่ให้สัมภาษณ์ ใด ๆ แค่ทักทายกลุ่มผู้สื่อข่าวด้วยการโบกมือแล้วชูกำปั้นมือขวาเป็นสัญลักษณ์ "สู้ ๆ" ก่อนจะขึ้นรถยนต์ออกจากทำเนียบไป แต่ได้ลดกระจกลงทักทายอีกครั้ง พอผู้สื่อข่าวถามว่าจะเพิ่มมาตรการอะไรในการรับมือโควิด-19 วันนี้หรือไม่ นายกฯ ทำท่าชูกำปั้นก่อนจะ บอกว่า "กำลังทำ" จากนั้นขบวนรถก็เคลื่อนออกไป
          สั่งผวจ.หาข้อมูลปิดเมือง
          นายฉัตรชัย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือด่วนที่สุดถึง ผวจ.ทุกจังหวัด เรื่องการสำรวจผู้ได้รับผลกระทบจากการปิดเมือง ดังนี้ 1.จำนวนพนักงานหรือลูกจ้างรายวัน ที่ถูกให้ออกจากงานหรือยุติการจ้างงาน 2.จำนวนพนักงานหรือลูกจ้างรายเดือน ที่นายจ้างชะลอการจ่ายหรือลดเงินค่าจ้าง ตามจำนวนวันทำงานหรือถูกเลิกจ้าง 3.จำนวนพนักงานหรือลูกจ้าง ที่ได้รับส่วนแบ่งจากการขาย 4.จำนวนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่จังหวัดประกาศปิด โดยรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบภายในวันที่ 30 มี.ค.
          แนะรัฐ-เอกชนทำงานบ้าน
          นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "หมอ แก้ว ผลิพัฒน์" ระบุว่า "เรียนผู้มีอำนาจตัดสินใจทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมไปถึงคนไทยทุกคน การจะทำให้ผู้คน "พักอยู่บ้าน ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น" และ "การลดความหนาแน่นของผู้คนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลโดย เฉพาะในระบบขนส่งมวลชน" ได้จริง ต้อง 1.สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่และพนักงานทำงานที่บ้านให้มากที่สุด 2.เหลื่อมเวลาทำงานของพนักงานให้มากที่สุด 3.เพิ่มความถี่การเดินรถ และ 4.ทำธุรกรรมและซื้อของทางอินเทอร์เน็ตท่านทำกันแล้วหรือยัง พรุ่งนี้องค์กรของท่านจะมีเจ้าหน้าที่ออกมาทำงานกี่เปอร์เซ็นต์ ช่วงนี้เป็นภาวะวิกฤติที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน ทุกอย่างต้องเริ่มเร็วที่สุด เพราะเรากำลัง ทำงานแข่งกับเวลา และเวลาก็มีไม่มากแล้ว ถ้าเราโดนปิดเมืองเพราะโดนบังคับปิด ทุกคนจะ "เจ็บ" มากกว่านี้ และหลังการปิดเมืองแล้ว ท่านยังต้องใช้ชีวิตแบบที่ต้องเพิ่ม ระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มข้นต่อไปอยู่ดี ดังนั้นมาเริ่มกันตั้งแต่วันนี้ เดี๋ยวนี้เถอะ มา ร่วมปิดเมืองด้วยความสมัครใจกัน เพราะอย่างน้อยเรายังวางแผนชีวิตของเราได้เอง พักอยู่บ้านเพื่อคนที่เรารักและห่วงใย ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น
          จับหนุ่มสาวขายหน้ากาก
          จับพ่อค้าขายหน้ากากแพงอีกราย เมื่อเวลา 08.00 น. พ.ต.อ.ภพ มัลเชษฐ์ ผกก.สส.4 บก.สส.ภ.5 ร่วมกันจับกุมนายประพรพงศ์ กิติตาล อายุ 20 ปี และ น.ส.ลาวัลย์ ธรรมสารัตถ์ อายุ 37 ปี พร้อมของกลางหน้ากากอนามัยจำนวน 15 แพ็ก รวม 750 ชิ้น หลังล่อซื้อนัดนำสินค้ามาส่งที่ตลาดสดหนองหอย ต.วัดเกต อ.เมือง จากการสอบสวนทั้งคู่รับสารภาพว่า ได้สั่งซื้อหน้ากากจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง จากนั้นนำมาโพสต์ขายในออนไลน์ราคาแพ็กละ 850 บาท มี 50 ชิ้น กระทั่งถูกตำรวจติดต่อขอซื้อ โดยไม่คิดว่าผิดกฎหมายเพราะได้กำไร ไม่เท่าไร และอยากช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนหน้ากาก จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป