HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 19/12/2562 ]
ลดอุบัติเหตุปีใหม่ สธ.-ตร. ลุยเอาจริง

  สาธารณสุข จับมือตำรวจ ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ เอาผิดร้านค้าขายเหล้าให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี มีโทษทั้งคุก-ปรับอ่วม
          หลังมีกฎหมายมา 10 ปี ไม่เคยบังคับใช้ พร้อมคุมเข้มจัดโปรชวนดื่มตามงานยันสตรีทฟู้ด ด้าน ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขู่ใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฟันซ้ำอีกข้อหา ปลัด สธ.วอนป้องเหตุตีกันในรพ. ให้แยกส่งคู่อริคนละแห่ง ส่วน สสส. เผยสถิติส่วนใหญ่ตายในรัศมีห่างบ้านแค่ 5 กม. ขณะที่คมนาคมมุ่งลดสถิติตัวเลขเสียชีวิต 10% ห้ามตายจากอุบัติเหตุจากรถสาธารณะ ด้านตำรวจเข้ม ก.ม.จราจร 10 ข้อหาหนัก
          เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกันแถลงข่าว "สธ.ใส่ใจคนไทย เที่ยวปีใหม่ปลอดภัย" เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2563
          นายอนุทิน กล่าวว่า เทศกาลปีใหม่ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ขอให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยว กลับบ้านอย่างปลอดภัย และร่วมกันสังสรรค์อย่างมีความสุขกับครอบครัว และอยากให้ดื่มไม่ขับ เพื่อลดอุบัติเหตุให้ได้มาก ที่สุด โดย สธ.จะเตรียมความพร้อม มีบุคลากรประจำ รพ.ตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ได้ข้อมูลจากมูลนิธิเมาไม่ขับว่า ในจำนวนผู้บาดเจ็บ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนนั้น เป็นเด็กเยาวชนอายุยังไม่ถึง 20 ปี จำนวนมาก จึงต้องบังคับใช้กฎหมายเอาผิดกับร้านค้าที่ขายเครื่องดื่มแอล กอฮอล์ให้เด็กอย่างจริงจัง โดยจะตรวจเลือดเด็กที่ประสบอุบัติเหตุแล้วถูกส่งมา รพ. เพื่อหาปริมาณแอลกอฮอล์ ตลอดทั้งปี นอกจากนี้จะเข้มงวดกวดขันเรื่องการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แฝงตามงานรื่นเริง ตามสตรีทฟู้ดต่าง ๆ ด้วย
          ด้าน นายสาธิต กล่าวว่า เรื่องที่น่ากังวลในช่วงปีใหม่ พอเมาแล้วทะเลาะวิวาท และตามมาตีกันใน รพ. โดยก่อนหน้านี้ได้ทำหนัง สือส่งถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อ ขอให้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่จัดส่งกำลังอย่างเพียงพอต่อการระงับเหตุ ให้เข้ามาดูแลใน รพ. อย่างรวดเร็วหลังได้รับการแจ้งจาก รพ. ส่วน นพ.สุขุม กล่าวว่า ขอความร่วมมือตำรวจ หรือผู้นำส่งคนเจ็บจากเหตุทะเลาะวิวาทส่ง รพ.ให้แยกคู่กรณีไป รพ.คนละแห่ง
          ขณะที่ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น นอกจากการเอาผิดผู้ขายตาม  พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี แล้ว ก็จะเอา พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 เข้ามาเอาผิดด้วย ใครขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ถือว่ามีความผิด ทั้งนี้หากเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในที่เกิดเหตุไม่ได้ ก็ให้ รพ.ดำเนินการ และรวบรวมข้อมูลส่งให้ตำรวจดำเนินการทางกฎหมายต่อไป โดยกรณีเด็กที่ถือว่าเมา คือ มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ใหญ่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนเรื่องตีกันใน รพ.นั้น มีการคาดโทษกับเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยให้เกิดเหตุอีกด้วย
          ส่วน นพ.แท้จริง กล่าวว่า ประเทศไทยมีกฎหมายห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีมานานแล้ว แต่ไม่เคยมีการเอามาบังคับใช้เลย จากข้อมูลที่ได้จากเหยื่อเมาแล้วขับที่เป็นเยาวชน ก็บอกว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่า มีกฎหมายห้ามขายให้เด็ก เพราะคนขายก็ขายให้ตลอด จึงน่ายินดีที่จะมีการบังคับใช้กฎหมายนี้อย่างจริงจัง ซึ่งโทษคือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท เอาให้สุดเลยคือจำคุก
          วันเดียวกัน ที่สำนักงานกองทุนสนับ สนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กระทรวงคมนาคม และภาคีเครือข่าย แถลงข่าว "กลับบ้านปลอดภัย คือของขวัญที่ดีที่สุด" ปีใหม่ 2563 โดย ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์การสูญเสียชีวิตในช่วงปีใหม่ 2562 พบว่า แม้บังคับใช้กฎหมายเพิ่มขึ้น 34.3% จับกุมข้อหา ขับรถเร็วเพิ่ม 135%, เมาแล้วขับเพิ่ม 15.1% แต่จำนวนผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 463 ราย และส่วนใหญ่ตายในพื้นที่ใกล้บ้านในรัศมีไม่เกิน 5 กม. เพียงวันที่ 1 ม.ค. มีผู้เสียชีวิตถึง 91 ราย สอด คล้องกับสาเหตุหลักมาจาก รถ จยย. ที่ผ่านมา สสส. ทำงานร่วมกับ อบต.เฝ้าระมัดระวังอุบัติ เหตุทั้งปี โดยตั้งเป้าหมายลดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ตำบลละ 1 คน จะลดผู้เสียชีวิตได้ 7,000 คนต่อปี
          ด้าน น.ส.สุกัญญา หมีบังเกิด ผอ.ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนัก งานปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในปีนี้กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าอุบัติเหตุลดลง 10% และประชาชนห้ามตายจากอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ โดยจะตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์กับคนขับรถ และต้องเข้มงวดให้คนขับรถพักผ่อนเพียงพอ หากขับครบ 4 ชม. ต้องหยุด พัก 30 นาที และจะมอนิเตอร์เส้นทางจราจร ระบายรถไม่ให้มีปัญหาจราจรติดขัด หรือติดได้แต่ต้องไม่นาน
          ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น.กล่าวว่า เตรียมพร้อมในช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยการอำนวยความสะดวกจราจร  ออกข้อบังคับรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปห้ามวิ่งในบางสาย เพื่อเร่งมีการบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดเน้น 10 ข้อหาหลัก เน้นหนักจับกุมข้อหาเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด ทั้งขับเร็วเกินกำหนด ขับขี่รถในขณะเมาสุรา ไม่สวมหมวกนิรภัย และเพิ่มชุดเคลื่อนที่เร็วกวดขันวินัยการจราจรจุดเสี่ยง เข้มงวดพื้นที่จัดเลี้ยงรื่นเริง บังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่.


pageview  1204999    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved