เปิบพิสดารลาบหมูดิบ พยาธิสาคู เล่นงานหัวใจ ดับคา รพ. แพทย์จังหวัดนำทีมสอบชาวบ้าน อ.ปัว หลังหามขึ้นเตียงดูอาการ 19 ราย เหตุเพราะพิษพยาธิเล่นงานระบบเลือด เผยกลุ่มคนไข้ซื้อหมูเลี้ยงตามบ้านมาฆ่าชำแหละ ทำเมนูสุก ๆ ดิบ ๆ จนมีอาการเหมือนกินเห็ดพิษ หลายรายให้ข้อมูลไม่ตรงกัน รู้อีกทีก็สายเสียแล้ว ระบุเคยระบาดหนักเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เคยมีคนตายในครั้งนั้นถึง 30 คน
          เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 พ.ค. นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน นำทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคเข้าพื้นที่ หลังชาวบ้านจากบ้านนาคำ หมู่ที่ 1 ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน จำนวน 19 คน ถูกหามส่งเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว ด้วยอาการอ่อนเพลีย ท้องร่วง อาเจียน ไข้สูง ปวดกล้ามเนื้อ ตาบวม และเสียชีวิต 1 ราย
          จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านในบ้านนาคำ จำนวน 91 ราย ได้รับประทานอาหารดิบที่ปรุงด้วยเนื้อหมูในงานสู่ขวัญญาติพี่น้อง หลังเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 18-21 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยร่วมกันซื้อหมูเป็นของ นายสวัสดิ์ สมเงิน ชาวบ้านใน ต.ศิลาเพชร จากนั้นนำหมูมาชำแหละที่บ้านของ นายปิน ขันติวงค์ อายุ 55 ปี ที่บ้านนาคำ แล้วแบ่งกันเป็น 12 ส่วน กระจายไปตามบ้านแต่ละหลังในหมู่บ้าน ต่อมาชาวบ้านจำนวน 19 คน เริ่มมีอาการป่วย จนทยอยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลด้วยอาการดังกล่าว แพทย์ต้องส่งตัวเข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. ซึ่งในช่วงแรกยังอยู่ระหว่างการวินิจฉัยโรค
          จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา นายดำเนิน คำอ้าย อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 126 บ้านนาคำ หมู่ที่ 1 ตำบลศิลาเพชร อ.ปัว ได้เสียชีวิตลงเนื่องจากรับประทานลาบดิบมากกว่าคนอื่น ประกอบกับผู้ตายกินเนื้อหมูติดต่อกัน 3 วัน แพทย์ได้นำชิ้นเนื้อภายในของ นายดำเนิน ผู้ตายไปตรวจสอบจึงพบว่า สาเหตุการตายเกิดจากโรคพยาธิเม็ดสาคูในหมู หรือ ทางการแพทย์เรียกว่า "พริทริโนซิส" ที่เข้าไปตามระบบทางเดินอาหารและเข้าสู่ระบบเลือด ชอนไชเข้าสู่หัวใจ ประกอบกับนายดำเนินเป็นผู้สูงอายุ ทำให้ร่างกายไม่สามารถต้านทานการแตกตัวของไข่พยาธิได้ จนทำให้เสียชีวิต  ขณะนี้ยังมีชาวบ้านที่นอนรักษาตัวเพื่อรอดูอาการอีก 5 คน เป็นหญิง 1 ราย และมีอาการสาหัส 1 ราย คือ นายสนั่น ฑีฆาวงศ์ อายุ 72 ปี ที่ยังต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูและอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด
          สำหรับการรักษาและป้องกัน นพ.พิศิษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เข้าไปสอบสวนโรคในพื้นที่แล้ว โดยให้ทีมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ไปฉีดยากำจัดพยาธิและวัคซีนป้องกันให้แก่หมูในหมู่บ้าน และได้ให้ความรู้แก่ผู้ป่วย ตลอดจนชาวบ้านทั่วไปให้ระมัดระวังในการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะให้งดรับประทานของสุก ๆ ดิบ ๆ เพราะจะมีพยาธิและมีเชื้อโรคหลายชนิด ซึ่ง จ.น่าน มีตัวอย่างแล้วหลายครั้ง ในกรณีนี้ที่ทราบช้าเนื่องจากอาการจะคล้ายกับการกินเห็ด หรือแพ้อาหารอย่างอื่น และสอบถามชาวบ้านก็ไม่ได้ให้ข้อมูลตรงว่า รับประทานหมูดิบเข้าไปจึงต้องเฝ้าดูอาการและรอผลการพิสูจน์โรค โดยโรคนี้มีระยะฟักตัว 1-3 เดือน  สำหรับการระบาดของพยาธิเม็ดสาคูในหมู ในพื้นที่จังหวัดน่านเคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2525 หรือเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งครั้งนั้นเกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอนาน้อย มีผู้เสียชีวิตจากพยาธิดังกล่าวถึง 30 ราย โดยพยาธิชนิดนี้ มีการแตกกระจายตัวในร่างกาย และจะเข้าสู่กล้ามเนื้อ อวัยวะภายในทั้ง หัวใจ ปอด และสมอง มีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้.