เมื่อเร็ว ๆ นี้ นพ.วิวัฒ คำเพ็ญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในจ.สิงห์บุรี โดยข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-23 ม.ค. 62 พบผู้ป่วย 32 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต กระจายอยู่ใน 5 อำเภอ ยกเว้น อ.บางระจัน ยังไม่มีการรายงานผู้ป่วย และพบมากที่สุดใน นักเรียน อายุ 10-14 ปี
          ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันสำรวจภาชนะใส่น้ำภายในบ้านของตนเองตั้งแต่ก่อนเข้าหน้าฝน โดยการล้างภาชนะที่เก็บน้ำใช้ และขัดไข่ยุงลายที่เกาะด้านในของภาชนะ ลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ สีดำ และอยู่ได้นานถึง 1 ปี เนื่องจากเมื่อฝนตก มีน้ำขัง ไข่ยุงจะเปลี่ยนเป็นลูกน้ำยุงลายภายใน 1-2 วัน และเป็นยุงลายใน 7 วัน เมื่อไปกัดคนอาจทำให้เป็นไข้เลือดออกได้ โดยจุดที่พบลูกน้ำส่วนใหญ่จะเป็นอ่างเก็บน้ำไว้ใช้ในห้องน้ำ จานรองกระถางต้นไม้ ภาชนะที่รองน้ำทิ้งด้านหลังตู้เย็น และยางรถยนต์ ขอให้ทำอย่างต่อเนื่อง ตามมาตรการ 3 เก็บ 3 โรค คือ เก็บบ้าน ให้ปลอดโปร่ง เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย และ เก็บน้ำ ปิดให้มิดชิดหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกสัปดาห์ไม่ให้ยุงลายวางไข่ ซึ่งป้องกันได้ 3 โรค คือ ไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย
          หากมีอาการไข้สูงมากโดยฉับพลัน ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ปวดเมื่อย หน้าแดง อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนังตามแขนขา ข้อพับ หรือมีไข้สูงกินยาลดไข้พาราเซตามอล 2-3 วันไม่หายหรือไม่ดีขึ้น ให้สงสัยว่าเป็นไข้เลือดออกไว้ก่อน ต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว ไม่ซื้อยาลดไข้กลุ่มเอ็นเสด เช่น ไอบูโพรเฟน หรือแอสไพรินกินเอง
          สามารถติดตามสถานการณ์ คำแนะนำป้องกันตนเองจากโรคไข้เลือดออก รวมถึงการกำจัดลูกน้ำยุงลาย ได้ที่ Line@อาสาปราบยุง หรือ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422.