นับพันรายในกรุง'แรงงานข้ามชาติ'อื้อ
          นายชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของวัณโรคในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สำหรับกรณีที่สมาคมปราบวัณโรคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ระบุสถานการณ์วัณโรคในกรุงเทพฯพบผู้ป่วยรายใหม่และกลับเป็นซ้ำกว่า 12,886 ราย/ปี ขึ้นทะเบียนแล้ว 12,035 ราย และยังมีอีกกว่า 1,000 ราย ที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนยังไม่รับการรักษาและอาจแพร่เชื้อ ในสังคม นอกจากนี้ยังพบวัณโรคจากแรงงานข้ามชาติมีแนวโน้มสูงขึ้นโดย ในปี 2561 พบผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 853 รายขณะที่ทางระบาดวิทยาคาดการณ์จะมีแรงงานข้ามชาติในกทม.ป่วยเป็นวัณโรคราว 2,300 ราย/ปี
          ที่ผ่านมาสำนักอนามัยได้ดำเนินการติดตามผู้ป่วยวัณโรคที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนโดยประสานขอความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนให้มีการขึ้นทะเบียนการรักษาผู้ป่วยวัณโรคทุกราย ในส่วนผู้ป่วยอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ทราบว่าตนเองป่วยทำให้ไม่เข้าสู่ระบบการรักษาได้ใช้มาตรการ "การค้นหาผู้ป่วยโดยการคัดกรอง" ในกลุ่มที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นวัณโรค ได้แก่ ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยวัณโรคร่วมบ้านร่วมสถานศึกษา ร่วมสถานประกอบการ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ติดยาเสพติด แรงงานข้ามชาติ คนเร่ร่อน และบุคลากรสาธารณสุข รวมถึงค้นหาผู้ป่วยวัณโรคเชิงรุกในแหล่งที่มีคนอยู่กันอย่างหนาแน่นโดยการเอกซเรย์เคลื่อนที่และการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการวินิจฉัยวัณโรค เช่น การตรวจหาเชื้อวัณโรคทางโมเลกุล เป็นต้น
          นายชวินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการค้นหาและรักษาผู้ป่วยวัณโรคกลุ่มแรงงานข้ามชาติในกรุงเทพฯให้เข้าสู่ระบบการรักษาให้มากที่สุดเพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรค สำนักอนามัย ได้เร่งรัดให้แรงงานข้ามชาติทุกรายดำเนินการขึ้นทะเบียนแรงงานให้ถูกต้องเพื่อรับการตรวจสุขภาพรวมถึงการใช้เทคโน โลยีใหม่ ๆ ในการวินิจฉัยวัณโรค เช่น การตรวจหาเชื้อวัณโรคทางโมเลกุลทั้งนี้ จะมีการประสานความร่วมมือกับชุมชนภาคประชาสังคม องค์กรเอกชนหรือเอ็นจีโอ (NGO) ที่มีประสบการณ์การทำงานกับแรงงานข้ามชาติในการค้นหาผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด.