เมื่อวันที่ 26 ส.ค. นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางทางโซเชียลมีเดีย โดยกล่าวหาว่ากรมการแพทย์ ไปเห็นด้วยให้มีการใช้สารเคมี 3 ตัว ในภาคเกษตร คือ พาราควอต-คอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต สวนทางกับความคิดเห็นของกระทรวงสาธารณสุข เห็นควรให้ยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 3 ตัวในประเทศไทย เพราะมีผลกระทบต่อสุขภาพ ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมากรมการแพทย์ ได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญตลอด และสรุปผลว่าสารเคมี  3 ตัว มีผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนจริง จึงสนับสนุนให้เลิกใช้ แต่เนื่องจากในการประชุม คณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น อธิบดีกรมการแพทย์ ได้มอบหมายให้  นพ.กิติพงษ์ พนมยงค์  หัวหน้าศูนย์พิษวิทยาของ รพ.นพรัตนราชธานี เป็นผู้เข้าร่วมประชุมแทน ทางนพ.กิติพงษ์ ติดภารกิจไม่สามารถเข้าร่วมประชุมด้วย ไม่ทราบวาระการประชุมในวันนั้น ว่าจะลงมติแบน หรือไม่แบน 3 สารเคมีดังกล่าว ซึ่งในรายงานการประชุมวันนั้นระบุชัดเจน ว่า ผู้แทนจากกรมการแพทย์ ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งก่อน ๆ ที่ผ่านมา ได้ย้ำจุดยืนในที่ประชุมเสมอว่า สารกำจัดศัตรูพืชทั้ง  3 ตัวเป็นสารอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง ถ้าสามารถยกเลิกได้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ตามหลักการด้านเวชศาสตร์ป้องกัน
          ด้าน นพ.กิติพงษ์ เปิดเผยว่า  ในฐานะนักวิชาการของกรมการแพทย์ ขอยืนยันสนับสนุนการเลิกใช้พาราควอต-คอร์ไพริฟอส-ไกลโฟเซต แม้จะถูกจัดเป็นสารอันตรายประเภท 3 ให้ มีการเฝ้าระวังการใช้ แต่ยังมีปัญหาตามมาเรื่อย ๆ  คือเมื่อเกิดเหตุการณ์ทางสุขภาพที่อธิบายไม่ได้ในหมู่ชาวนาและประชาชน ทั้งโรคระบบประสาท ปวดศีรษะเรื้อรัง สมองเสื่อม หรือโรคพาร์กินสัน ยังไม่คิดถึงพิษเฉียบพลันจากการหยิบกินผิด ทั้งนี้ยังมีข้อวิจัยสนับสนุนและคัดค้านมาตลอด ในเรื่องผลต่อสุขภาพและการตกค้างในพื้นดิน การที่จะระบุว่าสารตัวไหนทำให้เกิดโรคอะไรนั้น จะต้องใช้เวลานาน แต่มีผลเสียต่อประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเรามีทางเลือกหลายทาง ทั้งเรื่องเกษตรอินทรีย์ หรือยากำจัดศัตรูพืชที่มีอันตรายน้อยกว่า น่าจะเลือกทางที่อันตรายน้อยที่สุด และเป็นไปตามหลักการคือเลิกใช้สารทั้ง 3 ชนิด.