HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก [ วันที่ 01/07/2558 ]
ทางเลือกในการรักษา'ข้อเข่าเสื่อม'
จากที่กระทรวงสาธารณสุขออกมาเปิดเผยจำนวนผู้สูงอายุชาวไทยที่เพิ่มขึ้นปีละ 5 แสนคน คาดว่าปี 2568 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็น "สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์" จากสภาพร่างกายที่เสื่อมถอยไปตามกาลเวลาของมนุษย์ หนึ่งในนั้นก็คือ โรคเข่าเสื่อมที่สร้างความทุกข์ทรมานให้แก่ผู้สูงอายุเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน
          โรคข้อเข่าเสื่อมเกิดจากการสึกกร่อนของกระดูกอ่อนผิวข้อ ซึ่งเป็นผลมาจากอายุที่เพิ่มขึ้นและการใช้งานมาก เมื่อมีการใช้งานผิวข้อที่สึกจะมีการขัดสีกัน ทำให้เกิดอาการปวดข้อเข่าตามมา พบได้บ่อยมากในผู้สูงอายุ จะมีอาการปวด เข่าบวมแดง เข่าฝืด ยึด มีเสียงดังในเข่า ไม่สามารถประกอบกิจวัตรประจำวันได้อย่างปกติ ผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมจะมีอาการแรกเริ่ม ปวดเป็นๆ หายๆ เมื่อพักการใช้เข่า อาการปวดจะทุเลา และปวดมากขึ้นเมื่อมีการใช้งานข้อมากขึ้นในรายที่เป็นมากจะปวดตลอดเวลา ข้อฝืด ใช้งานไม่ถนัด ข้อผิดรูป ข้อเข่าจะเปลี่ยนรูปร่างไปจากเดิม เข่าบวมโต หรือบางรายมีขาโก่งออก แทนที่ผิวข้อเข่าเดิม ที่เสื่อมชำรุดไป สำหรับแนวทางการรักษานั้น มีหลายวิธีด้วยกันขึ้นอยู่กับอาการของคนไข้เป็นหลัก เช่น การทำกายภาพบำบัดการบริหารกล้ามเนื้อ หรือการให้บยาบรรเทาอาการสำหรับผู้ที่มีอาการไม่มาก แต่สำหรับผู้ที่มาด้วยอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมอย่างชัดเจนนั้น แพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิธีฉีดน้ำไขข้อเทียมเพื่อลดอาการปวด หากปล่อยทิ้งไว้ โดยไม่ทำการรักษาจะทำให้มีอาการรุนแรงจนถึงขั้นต้องเรารับการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม
          การฉีดน้ำไขข้อเทียม น้ำไขข้อเป็นสารไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid-HA) เป็นสารที่มีอยู่ในข้อของมนุษย์ มีลักษณะที่เหนียว และยืดหยุ่นสูง ทำให้ข้อต่างๆ โดยเฉพาะผิวกระดูกข้อเข่าไม่ได้รับแรงกด หรือ กระแทกมาก เวลาคนเราเดิน หรือวิ่ง นอกจากนั้นสารนี้ยังช่วยให้เกิดความลื่นที่ผิวกระดูกอ่อนเวลาอหรือเหยียดหัวเข่า การเสียดสีที่ผิวกระดูกจะน้อยลง ทำให้กระดูกอ่อนผุกร่อนลดน้อยลงตามไปด้วย ส่งผลให้ข้อเข่าอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อนน้อยลงเช่นกัน โดยปกติคนเราจะมีน้ำในข้อเข่าอยู่ประมาณ 1-2 ซีซี เท่านั้น เมื่ออายุมากขึ้นน้ำในข้อเข่าก็จะมีปริมาณลดลงโดยเฉพาะคนที่เป็นข้อเข่าเสื่อม มักพบว่าน้ำในข้อเข่ามีปริมาณที่น้อยมาก คนที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมขั้นรุนแรงน้ำในเข่าแทบจะแห้งผากจนไม่มีเหลือเลย สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ อาการของข้อเข่าเสื่อมจะลุกลามเร็วมากขึ้นไปอีก บางคนเข่าโก่งขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัดภายใน 1ปี และสำหรับผู้ที่มีอาการมากๆ หรือได้รับการรักษาด้วยวิธีข้างต้นแล้วไม่ได้ผล แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
          สำหรับการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม ซึ่งในปัจจุบันสามารถใช้งานได้ใกล้เคียงธรรมชาติ และเป็นวิธีการรักษาที่ลดอาการปวดได้ดี มีอายุการใช้งาน ประมาณ 10-15 ปี โดยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาขึ้น โรงพยาบาลปิยะเวทได้นำคอมพิวเตอร์นำวิถีเข้ามาช่วยในการผ่าตัด ร่วมกับเทคนิคการรักษาแบบไม่ต้องปักหมุด เปรียบเสมือนการสร้างภาพจำลองในระบบคอมพิวเตอร์ หรือ Image guided surgery by Navigation system นวัตกรรมดังกล่าวนี้จะช่วยให้สามารถควบคุมปรับตำแหน่ง ตรวจสอบทิศทางและตำแหน่งของการวางข้อเทียมในร่างกาย รวมถึงบอกขั้นตอนการผ่าตัด โดยสามารถบอกตำแหน่งการวางข้อเทียมได้ละเอียด ขนาดเป็นหลักเศษส่วนของมิลลิเมตร หรือ เศษส่วนขององศามุม ประโยชน์ต่อศัลยแพทย์ก็คือ สามารถช่วยให้ ศัลยแพทย์ตัดสินใจโดยทราบข้อมูลล่วงหน้าได้ในเวลาที่เหมาะสม เป็นการช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาการวางข้อเข่าเทียมในร่างกายคลาดเคลื่อนจากตำแหน่งที่ควร ยิ่งร่วมกับการผ่าตัดด้วยเทคนิคเฉพาะแบบไม่ต้องปักหมุดเพิ่มที่กระดูกต้นขาและหน้าแข้ง (Pinless Computer Assisted Navigation TKA)
          ผู้ป่วยจะไม่เสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหัก หรือแตกจากการปักหมุดในวิธีการรักษาแบบเดิมๆ ที่ต้องปักหมุดถึง 4 จุด ทำให้ไม่มีแผลเพิ่มจากการปักหมุดผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวหลังการผ่าตัดได้อย่างรวดเร็วเพราะเกิดการบอบช้ำจากการผ่าตัดน้อย อย่างไรก็ตามการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมให้หายขาดได้ ทุกวิธีการรักษาจึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดอาการปวดทำให้การเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันดีขึ้น คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม นั่นก็หมายถึงการรักษาที่ปลายเหตุ การดูแลและป้องกันตนเองให้ห่างจากโรคข้อเข่าเสื่อมจึงเป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด
          สำหรับการดูแลรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม จะต้องบริหารกล้ามเนื้อรอบเข่าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยลดแรงกระทำต่อข้อเข่า ใช้สนับเข่าในรายที่เข่าเสียความมั่นคง เพราะสนับเข่าจะช่วยให้ข้อเข่ากระชับ ควรหลีกเลี่ยงการนั่งพับเพียบ คุกเข่า ขัดสมาธิ นั่งยองๆ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสื่อมในข้อเข่าเร็วขึ้น เลี่ยงการขึ้นลงบันไดบ่อยๆ โดยไม่จำเป็น เพราะเข่าจะต้องรับน้ำหนักประมาณ 3-4 เท่าของน้ำหนักตัว และถ้ามีอาการปวดข้อหรืออาการกล้ามเนื้อเกร็ง ให้ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบ การดูแลข้อเข่าอย่างถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยชะลอความเสื่อม และยืดอายุการใช้งานของข้อเข่า ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตในการใช้ข้อเข่าได้

pageview  1205016    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved