ระนอง-สสจ.ระนอง สั่งคุมเข้มชายแดนเฝ้าระวังโรคติดต่อข้ามชาติ เหตุรอยต่อพม่าเกิดช่องทางสัญจรกว่า 50 ช่อง
          นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จากที่ จ.ระนอง มีพื้นที่ติดกับพม่า มีจุดผ่านแดนถาวร 3 จุด และช่องทางธรรมชาติที่ประชาชนใช้สัญจรตามแนวชายแดนอีก กว่า 50 ช่องทาง ที่ผ่านมาพบมีชาวไทยชาวต่างชาติเดินทางเข้าออกผ่านด่านกว่า 2.88 แสนคน นอกจากนี้ยังมีคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงาน ทั้งขึ้นทะเบียนและที่ติดตามรวมถึงชาวมอร์แกน รวมกว่า 1 แสนคน ที่ต้องเฝ้าระวังโรคอย่างเข้มงวด เพราะพบแรงงานต่างด้าว จ.ระนอง ป่วยเป็นจำนวนมาก โดยโรคที่พบมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ มาลาเรีย อุจจาระร่วงฉับพลัน และเอดส์
          นพ.ธงชัยกล่าวอีกว่า อีกทั้งไทยนอกจากมีจังหวัดที่มีชายแดนติดกับต่างชาติถึง 30 จังหวัดแล้ว ยังเป็นสมาชิกข้อตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Sub-region) ซึ่งมีสมาชิก 6 ประเทศ คือ ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน โดยมีเส้นทางขนส่งระหว่างประเทศ 4 เส้นทาง ได้แก่ เศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้ เศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก เศรษฐกิจแนวใต้และเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศและจุดข้ามแดนอื่นๆ ทำให้มีผู้เดินทางถึงปีละประมาณ 14 ล้านคน
          "มีโอกาสจะเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตรายอย่างรวดเร็วได้ ถ้าไม่มีมาตรการป้องกันที่ได้มาตรฐานและเป็นระบบกระทรวงสาธารณสุข จึงจัดตั้งด่านป้องกันและควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศรวม 60 แห่ง ประกอบด้วย ด่านท่าอากาศยาน 15 แห่ง ด่านท่าเรือ 16 แห่ง ด้านพรมแดน 29 แห่ง คัดกรองผู้ที่เดินทางทั้งขาเข้า-ขาออก สร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับผู้เดินทาง รวมถึงควบคุมสัตว์นำโรค"
          นอกจากนี้ ยังได้มีการรักษาพยาบาลเบื้องต้น ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดต่อระหว่างประเทศ ออกเอกสารรับรอง และกรณีมีผู้ป่วยสงสัยเป็นโรคติดต่ออันตราย หรือโรคต้องห้าม มีอำนาจในการแยกกัก กักกัน หรือควบคุม ทั้งนี้ ยังมีโรคติดต่อที่ต้องรายงานองค์การอนามัยโลกทันที ได้แก่ ไข้ทรพิษ และโรคซาร์ส เป็นต้น.