แพทย์หญิงณฐมน ศรีสำราญ
          จักษุแพทย์ด้านต้อหิน         
          รพ.เวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์          

          การแต่งหน้าเป็นวิธีการหนึ่งที่จะเสริมบุคลิกให้สาวๆ สวยใส น่ามองมากยิ่งขึ้น เพราะการแต่งหน้าแต่ละสไตล์ก็จะเปลี่ยนลุคสาวๆ ให้ดูแตกต่างไป โดยเฉพาะผู้หญิงที่อายุเพิ่มขึ้นก็ควรจะต้องแต่งแต้มเติมสีสันบนใบหน้าให้ดูอ่อนวัยสดใสอยู่เสมอ ดวงตาเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้าที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงลุคหรือบุคลิกของสาวๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเปลี่ยนให้ดูสวยหวาน คม ดุ โฉบเฉี่ยว หรือสดใส ก็ทำได้ทั้งนั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคการแต่งแต้มสีสันและเครื่องประดับเพิ่มเติมลงไปบนเปลือกตานั่นเอง
          -การแต่งตาเข้มจะทำให้เกิดผลเสียกับดวงตาได้อย่างไรบ้าง?
          โดยทั่วไปเครื่องสำอางที่ใช้สำหรับรอบดวงตานั้นได้แก่ อายแชโดว์, อายไลเนอร์ และ มาสคาร่า นอกจากนั้นก็ยังรวมถึงขนตาปลอมและกาวสำหนับติดขนตาปลอมด้วย เนื่องจากผิวหนังรอบดวงตาเป็นส่วนที่บางที่สุด ดังนั้นการแต่งตาเข้มหรือการใช้เครื่องสำอางบริเวณนี้ในปริมาณมากก็อาจทำให้เกิดการระคายเคือง, แสบ, บวมแดงที่บริเวณผิวหนังรอบดวงตาและเจ็บเปลือกตาจากการทาอายแชโดว์หลายสีบ่อยๆ หรือแรงๆ ได้ในกรณีที่มีการใช้เครื่องสำอางหลายชนิดก็จะทำให้เพิ่มโอกาสในการแพ้สารเคมีหรือส่วนประกอบที่มีอยู่ในเครื่องสำอางได้มากขึ้น ทั้งนี้ก็รวมถึงกาวที่ใช้ในการติดขนตาปลอมด้วย อาจทำให้เกิดอาการคันเปลือกตาได้
          นอกจากนั้น ถ้าเครื่องสำอางที่ใช้บริเวณรอบดวงตาเข้าไปในลูกตาก็อาจทำให้เกิดความผิดปกติได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น อาการระคายเคืองตา, ปวดตา, เยื่อบุตาอักเสบ, กระจกตาอักเสบรวมถึงโรคภูมิแพ้ที่เยื่อบุตาได้ด้วย นอกจากนั้นถ้าขนตาปลอมหรือมาสคาร่า ที่แข็งตัวเป็นก้อนหลุดเข้าไปในตาก็จะทำให้เกิดอาการเหมือนสิ่งแปลกปลอมชนิดอื่นเข้าตาได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามีการขยี้ตาอย่างแรงจากอาการเคืองคันหรือรู้สึกว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้าตาก็อาจทำให้เกิดกระจกตาถลอกได้ และแน่นอนว่า การล้างเครื่องสำอางนานหรือซับซ้อนกว่าปกติ ทั้งนี้รวมถึงการถอดขนตาปลอมออกด้วย
          -การเลือกเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตาควรเลือกอย่างไร?
          ควรเลือกเครื่องสำอางจที่มั่นใจว่าปลอดภัยมีเครื่องหมายรับรองคุณภาพที่ได้มาตรฐานหรือมีบริษัทผู้ผลิตที่ชัดเจน, เชื่อถือได้และไม่หมดอายุ ถ้าเคยมีประวัติแพ้เครื่องสำอางชนิดนั้นๆ หรือทราบว่าแพ้ส่วนประกอบใดๆ ในเครื่องสำอางมาก่อนควรบันทึกไว้และหลีกเลี่ยงในการซื้อครั้งต่อไป
          -การติดขนตาปลอมบ่อยๆ ทำให้เกิดโรคร้ายได้หรือไม่?
          การนำสิ่งแปลกปลอมหรือวัสดุต่างๆ มาติดที่ขนตานับเป็นการเสี่ยงอันตรายต่อนัยน์ตาและเป็นตัวทำลายดวงตาทางอ้อมได้ ยกตัวอย่างเช่น การติดขนตาปลอมบ่อยๆ หรือเป็นเวลานานๆ อาจทำให้สิ่งสกปรกสะสมที่บริเวณหนังตาขนตา หรือมีการสะสมของเชื้อโรคในแผงโคนขนตาได้หรือเวลาดึงขนตาปลอมออกกาวที่ติดขนตาอาจจะทำให้ขนตาจริงหลุดติดมาด้วย
          ยิ่งทำบ่อยครั้งจะยิ่งสร้างความกระทบกระเทือนต่อขนตา ขนตาอาจหลุดร่วงเปราะบางหักง่ายหรือไม่แข็งแรงได้ ขนตาปลอมที่ไม่สะอาดหรือเก็บรักษาไม่ดี เมื่อนำมาติดที่ขอบตาซึ่งติดกับขนตาก็มีโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ดวงตาได้ หรือถ้าเป็นขนตาปลอมที่ผลิตจากวัสดุหรือบริษัทที่ไม่ได้มาตรฐาน หากนำมาใช้แล้วหลุดเข้าไปทิ่มตาดำอาจทำให้ตาดำเป็นแผลเกิดการติดเชื้อและอักเสบตามมา มีโอกาสเสี่ยงตาบอดได้เช่นกัน นอกจากนั้นหากกาวติดขนตาปลอมที่ไม่มีคุณภาพเข้าตาก็จะมีปฏิกิริยาต่อดวงตาทำให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองตาอักเสบ ในส่วนของกาวติดขนตาปลอมถ้าใช้เป็นเวลานานอาจมีเชื้อโรคเข้าไปสะสม เมื่อนำมาใช้ติดขนตาก็อาจทำให้เปลือกตาหรือลูกตาติดเชื้อได้
          -การเขียนขอบตาสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองที่รุนแรงได้หรือไม่?
          เนื่องจากสารเขียนขอบตามีหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่นชนิดของเหลวครีมเจบแท่งอัดแข็งชนิดติดถาวร ซึ่งมีส่วนประกอบหลายชนิดยกตัวอย่างเช่น สารให้สีแอลกอฮอล์โพลีเมอร์สารกันเสียส่วนประกอบอื่นๆ ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติตามต้องการ นอกจากนั้นวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์อาจมีการปนเปื้อนของโลหะหนักเช่น ตะกั่ว หรือสารหนู เป็นต้น หากกระบวนการผลิตไม่ได้มาตรฐานก็อาจเกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกต้องก็อาจทำให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางดังกล่าวมีการปนเปื้อนเชื้อที่ก่อโรคได้เช่นกันทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองที่รุนแรงได้รวมถึงการอักเสบการติดเชื้อและภูมิแพ้ด้วย
          -ลักษณะการแพ้ระคายเคืองบริเวณดวงตาสังเกตได้อย่างไร?
          อาการแพ้บริเวณดวงตาจะมีลักษณะระคายเคืองคันแสบบวมหรือผิวหนังรอบดวงตาอักเสบ สาเหตุที่ทำให้เกิดการแพ้มีหลายอย่าง สาเหตุหลักที่พบบ่อยคือ น้ำหอมและสารกันบูดที่ผสมอยู่ในเครื่องสำอาง
          -เมื่อพบอาการแพ้มีวิธีดูแลเบื้องต้นอย่างไร?
          ถ้าสงสัยอาการแพ้ให้หยุดใช้เครื่องสำอางชนิดนั้นทันทีและทำความสะอาดด้วยการใช้น้ำยาล้างเครื่องสำอางถ้าเครื่องสำอางเข้าตาให้ใช้น้ำสะอาดล้างตาในเบื้องต้น ถ้ามีหลายตัวให้หยุดใช้ตัวที่นำมาใช้ใหม่แล้วเกิดอาการก่อนถ้าหยุดใช้แล้วอาการดีขึ้นก็อาจแสดงว่าเครื่องสำอางตัวนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้แพ้ แต่ถ้ามีอาการแพ้มากให้หยุดใช้เครื่องสำอางทุกชนิด เมื่ออาการแพ้หายแล้วค่อยลองใช้ทีละตัวเป็นอย่างๆ ไป ถ้าเกิดผื่นขึ้นให้ลองหยุดใช้ตัวที่ใช้สุดท้าย ถ้าอาการหายไปก็น่าจะเกิดการแพ้เครื่องสำอางนั้นๆ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุต่อไป