HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก [ วันที่ 20/05/2556 ]
บรรเทาปวด...ให้ถูกหลัก

   ในยุคที่โรคออฟฟิศซินโดรมระบาดหนักในหมู่คนทำงาน การรีบรักษาให้ตรงจุดจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย เหตุนี้ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นูโรเฟน ยารักษาและบรรเทาความปวดที่ออกฤทธิ์ได้อย่างตรงจุด จัดงาน “เพนคิลเลอร์ มิวเซียม” พิพิธภัณฑ์วิวัฒนาการการบรรเทาความปวดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยรวบรวมวิธีการรักษาความปวดของมนุษย์ด้วยวิธีการต่างๆ จากหลายประเทศทั่วทุกมุมโลกที่พัฒนาผ่านยุคสมัยมาจนถึงปัจจุบัน ในรูปแบบสื่อแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ มาให้ประชาชนได้รับชมและได้เทคนิควิธีรักษาความปวดให้ตรงจุด บริเวณชั้นจี ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เมื่อวันก่อน
          ภายในงานเปิดตัวมีคำแนะนำดีๆ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผ่านการเสวนาในหัวข้อ "คนรุ่นใหม่ไร้ปวด" โดย ผศ.นพ.วิศาล คันธารัตนกุล หัวหน้าศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ กล่าวว่า คนในยุคปัจจุบันมีความเสี่ยงต่อโรคปวดได้ง่าย โดยเกิดจาก 2 สาเหตุหลักๆ คือ การใช้งานกล้ามเนื้ออย่างหนักโดยที่ไม่มีการวอร์มให้แข็งแรงก่อน เกิดได้จากคนที่เล่นกีฬา หรือออกกำลังกายแบบหักโหม แบบที่สองคือ การมีอิริยาบถอยู่ในท่าเดียวนานๆ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็งสะสม พบได้บ่อยในพนักงานออฟฟิศที่นั่งทำงานทั้งวัน หรือในกลุ่มคนที่ติดการเล่นโซเชียลมีเดียมากไปก็ได้ โดยอาการทั้งหมดมีต้นเหตุอย่างเดียวกันคือ การอยู่เฉยไม่บริหารกล้ามเนื้อให้แข็งแรงเพียงพอนั่นเอง
          "การตัดวงจรความปวดให้เร็วที่สุด เริ่มจากการหาปัจจัยเสี่ยงต่อความปวด เช่น ความปวดที่อาจเกิดจากโครงสร้างของร่างกาย หรือการทำงาน แนะนำว่า อย่าอยู่ท่าเดียวนานๆ ต้องรู้จักยืดเหยียดกล้ามเนื้อในระหว่างวันเป็นอีกวิธีที่ช่วยผ่อนคลายให้กล้ามเนื้อมีการเคลื่อนไหว หรือเส้นเอ็นได้ยืดตัว ปรับไลฟ์สไตล์ เพื่อลดความเสี่ยงจากความปวด เช่น ต้องรู้จักพักการทำงาน 2-3 นาที ทำให้ร่างกายได้ขยับหลังจากทำงานท่าซ้ำๆ ใน 1-2 ชั่วโมง ส่วนคนที่เล่นกีฬาก็ควรเล่นให้สม่ำเสมอ ไม่เว้นไว้นาน บางคนอาจว่างออกกำลังกายแค่อาทิตย์ละครั้งก็อย่าหักโหมออกแรงเกินกำลัง และถ้าเกิดอาการเจ็บปวดแล้วแนะนำให้ใช้ยาทาเพื่อลดการอักเสบก่อนก่อน เพราะเป็นการรักษาที่ตรงจุดที่สุด ถ้ายังไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 วัน ก็สามารถกินยาแก้อักเสบได้” ผศ.นพ.วิศาล  กล่าว
          คล้องกับอาการของสาว พลอย มหาดำรงค์กุล บอกว่า สาเหตุที่ทำให้ตัวเองปวดเมื่อยนั้น เกิดจากการออกกำลังกาย ทั้งการวิ่ง เล่นโยคะ และปั่นจักรยาน ดูโดยรวมแล้วถ้าเล่นเป็นประจำก็น่าจะไม่มีอาการปวด แต่บางทีต้องยอมรับว่าไม่มีเวลายืดกล้ามเนื้อให้ดีทั้งก่อนและหลังทำกิจกรรมต่างๆ บวกกับการพักผ่อนไม่เพียงพอเลยมีอาการปวดขึ้นมาได้ วิธีการรักษาคือเมื่อมีอาการปวดก็จะรู้ว่าร่างกายเราเหนื่อยแล้ว จะรีบนอนพักทันทีไม่ฝืนเล่นต่อปล่อยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองสักพักก็จะหายดี หรือถ้าไม่ดีขึ้นก็จะใช้วิธีการรับประทานยาเป็นลำดับต่อไป
          นอกจากนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำท่าบริหารยืดเหยียดลดความปวดเมื่อย สร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงได้ทุกวันสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศให้นำไปปฏิบัติก่อนพักเที่ยงหรือเลิกงานก็ได้ โดยเพื่อการเหยียดกล้ามเนื้อส่วนกลางและส่วนล่าง ให้นั่งตัวตรงบนเก้าอี้แยกขาเล็กน้อย นำหมอนมารองที่หน้าท้อง ค่อยๆ ยกแขนทั้งสองข้างและก้มตัวให้มือแตะพื้น ท่านี้นอกจากจะยืดหลังให้สบายแล้วยังช่วยให้เลือดหมุนเวียนดีรู้สึกสดชื่นขึ้น หรือถ้ารู้สึกมึนๆ ขณะทำงานให้ประสานมือเข้าด้วยกันและหงายฝ่ามือยืดตรงไปด้านหน้ายกมือข้ามศีรษะนำนิ้วโป้งทั้งสองรูดไปตามกล้ามเนื้อคอ พร้อมก้มหัวให้สุดและเงยหน้าให้ตั้งตรง โดยมีฝ่ามือต้านไว้ด้านหลัง ท่านี้จะผ่อนคลายกล้ามเนื้อคอบ่าที่เกร็งมาทั้งวันได้ดี


pageview  1206040    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved