อากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงหน้าร้อน ผนวกกับการการอยู่ท่ามกลางแดดร้อนนาน ๆ รวมถึงเชื้อแบคทีเรีย และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ปะปนมากับสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว อาจทำร้ายผิวเราแบบไม่รู้ตัว สำนักงานเขตบางรัก และสบู่วาสลีน ทู อิน วัน จึงร่วมมือกันรณรงค์สงกรานต์สะอาดปราศจากแบคทีเรีย พร้อมคำแนะนำดี ๆ จากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ให้ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาผิวอีกต่อไป
          พ.ญ.ปิยะอร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากกองแพทย์หลวง สำนักพระราชวัง พระบรมมหาราชวัง กล่าวว่า ตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวของเรารับเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายขึ้นคือ การที่ผิวของเราเปียกน้ำติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้รูขุมขนของเราเปิดกว้างและส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ผิวได้เร็วและง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณตามมือ เท้าและลำตัว จากการเดินเล่นน้ำตาม พื้นถนนหรือสัมผัสกับน้ำสกปรก ตลอดจนการถูกประแป้งบริเวณใบหน้าและลำตัว ดังนั้นเราจึงควรรีบจัดการกับเชื้อแบคทีเรีย ด้วยการอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย
         "การดูแลผิวให้สะอาด เพื่อเป็นการป้องกันและลดโอกาสการติดเชื้อแบคทีเรีย เริ่มตั้งแต่ การอาบน้ำด้วยน้ำเย็น เพราะน้ำเย็นจะช่วยปรับอุณหภูมิของผิวหนังจากการตากแดดมาทั้งวันให้ลดลงเป็นปกติ และช่วยปรับสมดุลอุณหภูมิของร่างกายได้ดีกว่าน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน ไม่ควรเปิดน้ำแรง การอาบน้ำจากฝักบัวที่เปิดแรงจนเกินไปอาจทำร้ายสภาพผิวที่เพิ่งผ่านการตากแดด และเผชิญกับสิ่งสกปรกต่างๆ ควรเปิดน้ำในระดับความดันที่ต่ำให้ไหลเพียงเบาๆ ควบคู่กับการใช้สบู่ที่ขจัดแบคทีเรียที่มีโฟมสบู่อ่อนโยน และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวและสร้างเกราะป้องกันให้ผิวลดความเสี่ยงที่ผิวอาจเกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรียต่างๆ รอบตัวให้น้อยที่สุด" คุณหมอให้คำแนะนำ
          พร้อมกันนี้ยังกล่าวต่อด้วยว่า กว่า 70เปอร์เซ็นต์ของคนที่มาปรึกษาปัญหาผิวหนังหลังล้วนมีอาการผื่นคันจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเชื้อโรคและแบคทีเรียต่าง ๆ เหล่านี้สามารถทำร้ายผิวลึกถึงผิวหนังชั้นล่าง(Dermis) และกระทบถึงระดับเซลล์ผิวชั้น ดีเอ็นเอ ทำให้เราเกิดอาการผื่นคันจนต้องเกาและอาจติดเชื้อแบคทีเรียจนลุกลามกลายเป็นโรคผิวหนังได้