"สุขภาพดี" เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา การมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องสุขภาพอย่างถูกต้อง รวมทั้งการตระหนักถึงการส่งเสริมสุขภาพของตัวเอง ครอบครัว และนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง จึงเป็นสิ่งกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ให้ความสำคัญจนเกิดเป็นงาน "สตรีไทย ห่วงใยสุขภาพเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2555"
          งานนี้ไม่เพียงแต่มีการออกบูธให้ความรู้ด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังมีการประกาศรางวัล "ยอด 9 สตรีไทยห่วงใยสุขภาพ ประจำปี 2555" ได้แก่ ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ, พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ, ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี, แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต, จรรย์สมร วัธนเวคิน, พญ.วรรณจันทร์ พิมพ์พิไล, จิตรา พรหมชุติมา, วิลาวัลย์ ต่วนเพ็ง และ สินจัย เปล่งพานิช โดยรางวัลดังกล่าวพิจารณาจาก การดูแลตัวเองให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นตัวอย่างที่ดีในการรักษาสุขภาพ และเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมอันเป็นประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพ ห่วงใยสุขภาพของบุคคลรอบข้างและสังคม
          พญ.วรรณจันทร์ อดีตสูตินารีแพทย์ คลินิกส่วนตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การดูแลสุขภาพของตัวเอง เน้นเรื่องปัจจัย 4 ได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่มห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ทุกอย่างต้องมีคุณภาพที่ดี และที่สำคัญไม่ว่าร่างกายจะมีความผิดปกติเพียงเล็กน้อย จะต้องเข้ารับการรักษาโดยด่วนไม่มีการรีรอแต่อย่างใด
          "เป็นเรื่องปกติของคนอายุ 71 ปีที่จะมีโรคภัยมาทักทาย แต่ท้ายที่สุดแล้วอยากจะบอกทุกคนว่า ไม่ว่าจะทำอะไรต้องอยู่ในความไม่ประมาท เวลาที่ร่างกายเกิดความผิดปกติอย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยให้มองเป็นเรื่องใหญ่เสมอ นอกเหนือจากสุขภาพกายแล้ว การรักษาสุขภาพทางใจก็สำคัญไม่แพ้กัน ต้องคิดและทำความดีทุกวันเพื่อกล่อมเกลาจิตใจให้มีความสุข ส่วนตัวจะอาศัยหลักธรรมะเข้าช่วย ต้องเข้าใจสัจธรรมของชีวิต ว่าทุกอย่างไม่มีความยั่งยืน พอจิตใจมีความสุขสารเอ็นโดรฟิน หรือสารแห่งความสุขจะหลั่งออกมา ทำให้สภาพร่างกายและจิตใจของเราแข็งแรงตามไปด้วย" พญ.วรรณจันทร์ กล่าว
          ส่วนอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดร.พรรณสิริ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย เผยว่า สุขภาพที่ดีต้องประกอบไปด้วยกายและใจ ต้องสัมพันธ์กัน สุขภาพใจ คือ การสร้างกำลังใจให้ตัวเองและคนรอบข้าง เพิ่มพลังจิตโดยการคิดบวก เป็นจุดเริ่มต้นควบคู่กับการออกกำลังกาย เพราะเมื่อไรที่สุขภาพใจดีแล้ว ก็จะนำพาไปสู่สภาพกายที่ดี ด้วยภารกิจของแต่ละคนที่ต่างกัน อาจจะไม่มีเวลาที่จะเดินทางไปฟิตเนส ควรจะบูรณาการการออกกำลังกายให้อยู่ในกิจวัตรประจำวันแทน
          ปิดท้ายด้วย แม่ชีศันสนีย์ ที่แนะนำเคล็ดลับหน้าเด็กและสามารถยิ้มได้ตลอดเวลาว่า ต้องทำตัวให้เป็นเด็กอยู่เสมอ เล่นจ๊ะเอ๋และบ๊ายบายบ่อยๆ โดยเฉพาะจ๊ะเอ๋กับอารมณ์โกรธที่แวะมาทัก และรีบโบกมือบ๊ายบายให้รีบจากไป
          "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นใจต้องมองสิ่งที่เป็นอย่างไม่เป็นทุกข์ โกรธมาต้องไม่พยาบาท แล้วจะเป็นผู้หญิงที่ทรงพลังมีจิตที่บริสุทธิ์ตั้งมั่นบนความแตกต่าง หากกบฏต่อศีล 5 เมื่อไรร่างกายก็จะไม่แข็งแรง หากมีอารมณ์เข้ามาแทรกแต่ข่มใจไว้ ก็จะกลายเป็นผู้หญิงที่ทรงพลัง คิดครั้งใหม่ก็คม พูดครั้งไหนก็ศักดิ์สิทธิ์ ผู้หญิงเก่งคือผู้ที่อยู่ในโลกอย่างทรงพลัง ผู้หญิงมีจิตใจแม่ และมีหัวใจโพธิสัตว์พร้อมที่จะให้ เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การเทิดทูน" แม่ชีศันสนีย์ กล่าว