HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก [ วันที่ 17/05/2555 ]
กทม.เร่งฝังบ่อขยะ มลพิษ-กลิ่นเหม็นสารพิษเสี่ยงมะเร็ง

    กทม.เร่งกลบฝังขยะ แก้มลพิษ กลิ่นเหม็น ปัญเจ็บป่วยให้ตำรวจ สน.ฉลองกรุง-ชาวบ้านโดยรอบ ด้าน รมช.สธ.ลงพื้นที่ชี้สารพิษ 4 ชนิดเสี่ยงมะเร็ง เร่งให้คำแนะนำช่วยเหลือ
          กรณีบ่อขยะของเอกชนที่ทำสัญญาร่วมกับกรุงเทพมหานคร(กทม.) อยู่ด้านหลัง สน.ฉลองกรุง ได้สร้างมลพิษทางอากาศ ส่งกลิ่นเหม็น เกิดแมลงพาหะของโรค ตลอดจนอาการเจ็บป่วยให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ฉลองกรุง และชาวบ้านที่อาศัยอยู่พื้นที่โดยรอบ โดยเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งแก้ไข 2 ระดับ ในระยะสั้นให้ย้ายสถานที่ทำงาน สน.ฉลองกรุง ไปอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง มีพื้นที่ 550 ตารางเมตรเป็นการชั่วคราว 6 เดือน คาดว่าเปิดให้บริการประชาชนได้ในอีก 2 สัปดาห์ ส่วนแผนระยะยาว จะหาสถานที่ก่อสร้างโรงพักแห่งใหม่ ใช้เวลาไม่เกิน 2 ปี
          ล่าสุดวันที่ 15 พฤษภาคม นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมกับเจ้าหน้าที่เขตลาดกระบัง กรมอนามัย กรมควบคุมมลพิษ ลงพื้นที่ สน.ฉลองกรุง และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ บก.น.3.ได้ตรวจสอบมลพิษและให้คำแนะนำในการรับมือปัญหาจากบ่อขยะ
          นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า บ่อขยะแห่งนี้เป็นบ่อดินขนาดใหญ่มีเนื้อที่เกือบ 300 ไร่ โดยเป็นบ่อทิ้งขยะจากโรงงานมีสารอินทรีย์ พลาสติกเศษแก้วและอื่นๆ ซึ่งเคยนำดินมาปิดปากบ่อขยะเมื่อเวลาผ่านไปปรากฏว่ามีแก๊สผุดขึ้นซึ่งนอกจากติดไฟแล้วยังมีไอระเหยของสารพิษปนอยู่ โดยเฉพาะช่วงที่มีอากาศร้อนจัดอย่างช่วงนี้ ปัญหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ฉลองกรุงและประชาชนได้รับคือกลิ่นเหม็นรุนแรงคล้ายสารเคมี กลิ่นเหม็นจะทวีความรุนแรงในช่วงเวลากลางคืนและมีฝนตก ส่งผลให้มีการเจ็บป่วยตามมา
          ทั้งนี้ จากข้อมูลการตรวจสอบของสำนักอนามัย กทม.ที่ได้ตรวจวัดคุณภาพอากาศด้วยการตรวจตัวชี้วัด 4 ตัว ได้แก่สารไวนิลคลอไรด์มีค่าเกินมาตรฐาน เมื่อหายใจเข้าไปจะติดขัดรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นผิดปกติ สารที่ 2 คือ สารเบนซิน เกินค่ามาตรฐาน จะทำให้เกิดโรคปอดอักเสบ ระคายเคืองระบบหายใจ เป็นอันตรายต่อระบบประสาทส่วนกลาง สารที่ 3 คือสารไตรคลอโรเอทธิลีน มีค่าสูงกว่ามาตรฐาน ทำให้ระคายเคืองระบบหายใจ คลื่นไส้อาเจียนเป็นลมหมดสติ และอาจเสียชีวิตได้เมื่อสัมผัสนี้ในความเข้มข้นสูง นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อตา ทำให้แสบตา น้ำตาไหล และสารที่ 4 สารไดคลอโรอีเทน ซึ่งจะดูดซึมทางผิวหนังได้ดีถ้ารับปริมาณมากจะทำลายระบบประสาท ตับและไต ซึ่งสารพิษทั้ง 4 ชนิดนี้เป็นสารเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ทั้งหมด
          ทั้งนี้ กระทรวงจะให้คำแนะนำตำรวจและชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงให้ดูแลสุขภาพตัวเองและปฏิบัติตามข้อแนะนำหลีกเลี่ยงการเข้สใกล้พื้นที่บ่อขยะ ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อลดการสูดดมสารพิษ สวมเสื้อแขนยาว สวมถุงมือ หมวกและแว่นตา เพื่อลดการสัมผัสสารพิษผ่านทางผิวหนัง และล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาดทุกครั้งหลังจับวัสดุในพื้นที่ขยะ หากใครมีอาการผิดปกติรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
          เจ้าหน้าที่สำนักอนามัย กทม.กล่าวว่า ล่าสุดทาง กทม.ได้หารือกับเจ้าของที่ดิน ในเบื้องต้นจะดำเนินการล้อมรั้วรอบพื้นที่ และนำหินลูกรังมากลบเพื่อไม่ให้ติดไฟ รวมทั้งบรรเทาเบาบางกลิ่นเหม็นของขยะ นอกจากนี้ กทม.มีรถตรวจมลพิษทางอากาศ เป็นรถโมบายเคลื่อนที่ ก็จะนำมาตรวจในพื้นที่ดังกล่าวอีกหลายจุด เพื่อดูรัศมีการแพร่กระจายของสารพิษด้วยว่าไปกว้างขนาดไหน ซึ่งจะง่ายต่อการควบคุมแก้ไขต่อไป
          พ.ต.ท.อรรถพันธ์ วัชระปันตรี สว.อก.สน.ฉลองกรุง กล่าวว่า มาทำงานอยู่ที่นี่ได้ 7 ปีแล้ว และได้รับสารพิษมาโดยตลอด ตำรวจที่อยู่ที่นี่ได้รับสารพิษกันหมด โดยเฉพาะตำรวจที่อยู่ประจำ สน. ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุตำรวจชุมชนสัมพันธ์ พนักงานสอบสวน และส่วนตนมีอาการแสบตาแสบจมูก มีผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย และมาเป็นหนักเมื่อปี พ.ศ.2553 จนร่างกายอ่อนแรง หายใจติดขัด และเมื่อถึงเวรพักกลับไปอยู่ที่บ้านสูดอากาศบริสุทธิ์ก็รู้สึกดีขึ้น โชคดีที่ไปตรวจร่างกายยังไม่เป็นโรคอะไร
          "ตอนนี้ก็ดีใจและขอขอบคุณผู้บังคับบัญชาท่าน ผบ.ตร. ที่เล็งเห็นความสำคัญ อนุมัติให้เราย้ายสถานที่ และจะหาสถานที่ถาวรให้ในระยะยาว แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาดูแลแก้ไข ตำรวจย้ายไปแล้ว แต่ชาวบ้านเขายังอยู่" พ.ต.ท.อรรถพันธ์กล่าว
          พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีย้าย สน.ฉลองกรุงว่า การแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ประสาน กทม.ให้ฝังกลบไปก่อน และให้สำนักงานเขตลาดกระบังแจ้งเจ้าของพื้นที่ หากเจ้าของพื้นที่ยังละเลย สำนักสิ่งแวดล้อมจะใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ดำเนินการต่อไป

 


pageview  1205450    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved