สลดครอบครัวคุณยายเมืองชัยภูมิ ป่วยเป็นโรคผิวหนังติดเชื้อมะเร็งลามผิวหนังทั่วร่างถูกตัดมือทิ้ง 2 ข้าง ทนทุกข์สู้ชีวิตป่วยพิการมานานกว่า 4 ปี เผยครอบครัวสุดลำบาก ติดหนี้นำโฉนดบ้านพร้อมที่ดินมรดกชิ้นสุดท้ายของชีวิตไปจำนองเพื่อรักษาตัวและเลี้ยงปากท้อง วอนคนใจบุญช่วย อยากมีแขนเทียม
          เรื่องราวของคุณยายวัย 60 ปี ที่ต้องทนทุกข์รายนี้เปิดเผยโดยนางแต๋ว คุณประสิทธิ์อายุ 60 ปี คุณยายที่ป่วยเป็นโรคผิวหนังทั่วร่างกายมานานนับสิบปี เริ่มจากติดเชื้อมะเร็งร้ายที่ข้อมือ แพทย์ต้องตัดทิ้ง ปัจจุบันอาศัยอยู่ในกระท่อมไม้มุงด้วยฝาไม้และสังกะสีเก่าๆ เนื้อที่ไม่กี่ตารางวา ที่บ้านเลขที่ 63 บ้านหนองหว่า หมู่ 12 ต.ชีลอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ร่วมกับบุตรชายคนโต อายุ 30 ปี และบุตรชายคนเล็ก อายุ 23 ปี และหลานสาว ลูกของบุตรชายคนโตวัย 7 ขวบ และหลานชายวัย 3 ขวบ
           สลดครอบครัวคุณยายเมืองชัยภูมิ ป่วยเป็นโรคผิวหนังติดเชื้อมะเร็งลามผิวหนังทั่วร่างถูกตัดมือทิ้ง 2 ข้าง ทนทุกข์สู้ชีวิตป่วยพิการมานานกว่า 4 ปี เผยครอบครัวสุดลำบาก ติดหนี้นำโฉนดบ้านพร้อมที่ดินมรดกชิ้นสุดท้ายของชีวิตไปจำนองเพื่อรักษาตัวและเลี้ยงปากท้อง วอนคนใจบุญช่วย อยากมีแขนเทียม
          เรื่องราวของคุณยายวัย 60 ปี ที่ต้องทนทุกข์รายนี้เปิดเผยโดยนางแต๋ว คุณประสิทธิ์ อายุ 60 ปี คุณยายที่ป่วยเป็นโรคผิวหนังทั่วร่างกายมานานนับสิบปี เริ่มจากติดเชื้อมะเร็งร้ายที่ข้อมือ แพทย์ต้องตัดทิ้ง ปัจจุบันอาศัยอยู่ในกระท่อมไม้มุงด้วยฝาไม้และสังกะสีเก่าๆ เนื้อที่ไม่กี่ตารางวา ที่บ้านเลขที่ 63 บ้านหนองหว่า หมู่ 12 ต.ชีลอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ร่วมกับบุตรชายคนโต อายุ 30 ปี และบุตรชายคนเล็ก อายุ 23 ปี และหลานสาว ลูกของบุตรชายคนโตวัย 7 ขวบ และหลานชายวัย 3 ขวบ
          นางแต๋ว เปิดเผยว่า ต้องทนทุกข์ลำบากหลังสามีเสียชีวิตเมื่อ 12 ปี ที่ผ่านมา โดยต้องเลี้ยงลูกชายทั้ง 2 คนมาตลอด ต่อมาได้ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งผิวหนัง เกิดเนื้อร้ายไปทั่วร่างกาย ต้องยืมเงินคนไปทั่ว เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวและรักษาตัว ด้วยการนำโฉนดที่ดินบ้านมรดกชิ้นสุดท้ายของชีวิตไปจำนองกับนายทุน ซึ่งคิดดอกเบี้ยไม่แพงเพียงร้อยละ 3 บาทต่อเดือนก็ตาม แต่ด้วยเงินที่ไปหยิบยืมมาทับถมไปเรื่อยๆ มากขึ้น ไม่สามารถประกอบอาชีพได้เหมือนเดิม ทำให้ปัจจุบันมีหนี้สินกว่า 105,000 บาท เริ่มไม่มีเงินส่งดอก
          "ทุกข์ซ้ำหนักเมื่อช่วง 4 ปี ที่แล้ว แพทย์โรงพยาบาลศรีนครินทร์จำเป็นต้องตัดข้อมือทิ้งทั้ง 2 ข้าง เพราะติดเชื้อร้าย และปัจจุบันดวงตาซ้ายเริ่มมองไม่ค่อยเห็นแล้ว ไม่รู้จะช่วยตัวเองอย่างไร เดินไปไหนมาไหนก็ลำบากเพราะมองไม่ค่อยเห็น แต่สิ่งที่กลัวคือเขาจะมายึดบ้าน ทำให้ลูกหลานไม่มีที่อยู่ ฉันไม่อยากเป็นภาระให้ลูกหลาน อยากได้ข้อมือแขนเทียม เพื่อพอจะช่วยหยิบจับ ช่วยตัวเองได้บ้าง ลูกหลานทั้ง 2 คนต้องสลับกันเฝ้า บางวันอดมื้อกินมื้อ ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว ลูกชายคนโตมีงานไม่แน่นอน รับจ้างไปวันๆ เขาต้องมีภาระเลี้ยงดูหลานสาววัย 7 ขวบ และหลานชายอีกคนวัย 3 ขวบ หาเช้ากินค่ำ และยังต้องมาดูแลแม่ป่วยพิการอีก คงไม่ไหวแล้ว จึงอยากวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัว" นางแต๋ว กล่าว