ในยุคใส่ใจสุขภาพ และหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติกันมากขึ้น ต้นที ทรี (Tea Tree) หรือ ต้นชาออสซี่ เป็นพืชสมุนไพรพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของประเทศออสเตรเลีย ความมหัศจรรย์ของพืชชนิดนี้ถูกค้นพบโดยชนเผ่าอะบอริจินส์ ที่มีการนำใบของต้นที ทรี มาบดขยี้เพื่อรักษาแผลสด ทำให้แผลสมานตัวได้เร็ว ทำให้แผลไม่อักเสบหรือเน่าเปื่อยได้ ที่มาของชื่อที ทรี (Tea Tree) หรือ ชาออสซี่ ก็มาจากการที่ชาวพื้นเมืองนำใบของที ทรี มาตัดใส่กระป๋อง แล้วต้มกับน้ำร้อน ทำเป็นน้ำชาดื่ม แก้กระหาย กระตุ้นให้ร่างกายสดชื่น
          บริษัท ฟาร์มาคอสเม็ท จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ "ที ทรี เฟเชียลโฟม" แนะนำต้นที ทรี ว่า มีเพียงสายพันธุ์ Melaleuca เท่านั้นที่ใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งบริเวณที่ปลูกต้นทีทรีในออสเตรเลีย 45,000 เอเคอร์ ถือ
          เป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่มาก ต้น Tea Tree ใช้เวลาปลูกนาน 1 ปี จึงเติบโตจนเก็บเกี่ยวได้ เมื่อตัดไปแล้วก็จะรอให้แตกหน่อใหม่ ต้นหนึ่งสามารถตัดได้เป็นสิบๆ ปี ต้น Tea Tree ที่ถูกตัดแล้วจะถูกส่งเข้ามาเพื่อตัดเป็นชิ้นละเอียดๆ แล้วเอาใส่เข้าไปในถังจนเต็ม แล้วนำเข้าสู่กระบวนการกลั่น โดยใช้ระบบการอบ ไอน้ำเพื่อให้ตัวใบคายน้ำมันออก ก่อนแยกตัวของน้ำและน้ำมันด้วยระบบความเย็น จนได้เป็นน้ำมันหอมระเหย หรือ ที ทรี ออยล์ 100 เปอรเซ็นต์ เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตต่อไป รวมระยะเวลาในการกลั่น 30 ชั่วโมง
          นายพอล โบลสเตอร์ เจ้าของไร่ Tweed Ti-Tree Products เล่าให้ฟังว่า ที ทรี ออยล์ ที่มีคุณภาพมาตรฐานจะต้องผ่านเกณฑ์วัดมาตรฐานที่ได้รับการรับรองโดยนานาชาติและ
          ออสเตรเลีย เฉพาะน้ำมันที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานจึงจะเรียกว่าเป็น "ที ทรี ออยล์" และที ทรี ออยล์ ของออสเตรเลีย ถือเป็นแหล่งที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
          "ที ทรี เป็นต้นไม้มหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างมา เพื่อเอามา กลั่นใน Tea Tree Oil จะมีองค์ประกอบสำคัญอยู่ถึง 120 อย่าง แต่ในปัจจุบันที่นำใช้ประโยชน์จริงๆ มีอยู่ 15 อย่าง ซึ่งเป็นมาตรฐานของ Tea Tree Oil และยังเป็นสารยับยั้งเชื้อแบคทีเรียจากธรรมชาติ เพราะเป็น antiseptic ฆ่าเชื้อโรคหลายๆ ชนิด ดังนั้นเมื่อนำมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า จึงช่วยยับยั้งการเกิดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ทำความสะอาดล้ำลึก" นายพอลอธิบาย
          ปัจจุบันกำลังมีการทำวิจัยเกี่ยวกับการนำที ทรี ออยล์ ไปใช้ประโยชน์ให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากออสเตรเลียเป็นประเทศที่ประชากรเป็นมะเร็งผิวหนังสูงที่สุดในโลก ปัจจุบันจึงกำลังมีการค้นคว้าวิจัยเพื่อทดลองใช้ตัว ที ทรี ออยล์ ในการรักษามะเร็งผิวหนัง นอกจากนี้ยังมีการทำวิจัยในการนำ ที ทรี ออยล์ ไปใช้ในการถนอมอาหาร บางประเภท และกำลังมีการทดลองใช้ ที ทรี ออยล์ ผสมอาหารสัตว์ เพื่อที่จะเข้าไปช่วยในการกระตุ้นระบบทางเดินอาหาร เพื่อให้สัตว์มีน้ำหนักตัวมากขึ้นอีกด้วย