ครม.จัดเต็ม สงกรานต์ปีนี้หยุดเต็มอิ่ม 5 วัน เผยให้ประชาชนเดินทางกลับไปฉลองวันมหาสงกรานต์ที่บ้าน มท.1 สั่งคุมเข้มลดอุบัติเหตุบนถนน สั่งประชาสัมพันธ์ลงลึกถึงหมู่บ้าน หวังลดยอดการตายให้มากที่สุด รับเป็นห่วงสงกรานต์กว่าช่วงปีใหม่ เพราะมักจะฉลองดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แถมเล่นน้ำกันหนัก เตรียมเงินกองทุนเลขสวยให้รางวัลลดการสูญเสีย ด้านกรมปภ.สั่งเตรียมประชุมวางมาตรการเดือนมี.ค.นี้
          เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมครม.ว่า ครม.มีมติเห็นชอบวันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ โดยกำหนดให้ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย.เป็นวันหยุดราชการ รวม 5 วัน เพื่อให้ประชาชนมีเวลาเดินทางกลับต่างจังหวัดและมีเวลาอยู่กับครอบครัวเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่กำหนดให้เป็นวันที่ 13-16 เม.ย. แต่เนื่องจากวันที่ 12 เม.ย.ตรงกับวันศุกร์ ประชาชนจะได้ใช้วันดังกล่าวในการเดินทางกลับ
          รายงานข่าวจากที่ประชุมครม.แจ้งว่า ระหว่างการประชุมครม.ซึ่งมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เป็นประธาน นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ ครม. เกริ่นเรื่องวันหยุดพิเศษช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 13-16 เม.ย. โดยระบุว่าที่ประชุมยังไม่ได้พูดคุยถึงปฏิทินวันหยุดเลย จึงเสนอให้รัฐมนตรีพิจารณาปฏิทินวันหยุดที่แต่ละคนมีอยู่ ซึ่งนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ เสนอขึ้นว่าควรให้วันศุกร์ที่ 12 เม.ย.เป็นวันหยุด เพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อพบปะญาติผู้ใหญ่ เนื่องจากในวันที่ 13 เม.ย.เป็นวันมหาสงกรานต์ หากเดินทางกลับในวันนั้นอาจร่วมกิจกรรมกับครอบครัวไม่ทัน ซึ่งนายกฯ และครม.ต่างเห็นด้วยจึงมีมติให้วันที่ 12 เม.ย.เป็นวันหยุดอีกหนึ่งวัน
          ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า หลังจากครม.มีมติหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์วันที่ 12 -16 เม.ย.นั้น กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน(ศปถ.) จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือกันอีกครั้งในช่วงเดือนมี.ค.นี้ เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์แต่เนิ่นๆ เพราะในช่วงเทศกาลดังกล่าวมักมีสถิติของผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งนี้ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทยเน้นย้ำให้นำบทเรียนจากในช่วงเทศกาลปีใหม่มาปรับปรุงเพื่อให้มาตรการดูแลความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน รวมทั้งประชาชนทั่วไปให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์จะมีผู้เสียชีวิตมากกว่าเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่า เช่น จำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น การใช้รถ ยนต์ที่มากขึ้น การสาดน้ำใส่กัน ซึ่งจะส่งผลให้ถนนลื่นจนเกิดอุบัติเหตุ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
          อธิบดี ปภ.กล่าวว่า รมว.มหาดไทยจึงเน้นให้ทุกจังหวัดรณรงค์และประชาสัมพันธ์เป็นรายพื้นที่ ลงไปถึงในระดับตำบลและหมู่บ้าน โดยอาจจัดทำโซนนิ่งด้วย ส่วนการวางกรอบและแนวทางการป้องกันอุบัติเหตุ จะจัดทำดัชนีชี้วัดระดับพื้นที่ โดยให้แต่ละพื้นที่แข่งกับตัวเอง จังหวัดใดที่มักเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากต้องมีมาตรการเพื่อให้อุบัติเหตุ รวมทั้งความสูญเสียลดลง โดยรมว.มหาดไทยเตรียมประสานกระทรวงคมนาคมจัดสรรงบประมาณจากกองทุนเลขสวยเพื่อมอบเป็นรางวัลให้กับจังหวัดที่ลดการสูญเสียได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ศปถ.ยังคงมีเป้าหมายเดียวกับรัฐบาล โดยผู้เสียชีวิตต้องไม่เกิน 10 คนต่อแสนประชากร ซึ่งเป็นมาตรฐานของประเทศที่เจริญแล้ว
          นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะหารือถึงมาตรการบังคับใช้กฎหมาย การรณรงค์เรื่องของวินัยจราจร ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วน รวมทั้งประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมกัน ทั้งนี้ การที่รัฐบาลจะประกาศให้หยุดเพิ่มเติมอีกหนึ่งวัน แม้หลายฝ่ายจะมองว่าอาจทำให้จำนวนการเกิดอุบัติเหตุรวมทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มขึ้น แต่หากมองอีกมุมหนึ่งก็เป็นโอกาสดีที่ประชา ชนจะได้ทยอยเดินทางไปและกลับภูมิลำเนาของตัวเอง ดังนั้น อย่ามองว่าเป็นปัจจัยเสี่ยง แต่ขอให้ทุกคนมีจิตสำนึกร่วมกันในการดูแลตัวเองเพื่อให้ความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในเทศกาลสงกรานต์นี้ลดลง
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปีที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2555 สรุปรายงานอุบัติเหตุบนท้องถนน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 3,129 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 3,320 ราย เสียชีวิต 320 ราย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเมาแล้วขับ รองลงมาคือ การขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดคือ จ.เชียงราย รวม 125 ครั้ง ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดคือ จ.สุราษฎร์ธานี รวม 13 ราย และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บมากที่สุดคือ จ.เชียงราย รวม 124 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 6 จังหวัด ได้แก่ ตราด นครพนม ตรัง ปัตตานี ระนอง และสตูล
          ด้านภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) กล่าวว่า การที่ครม.มีมติเพิ่มวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์เป็นการเพิ่มโอกาสในการเดินทางและการเกิดอุบัติเหตุ สังเกตจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2 ปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุมาก เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวและผู้ขับขี่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้น รัฐบาลควรมีมาตรการป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุด้วย โดยพิจารณาเห็นชอบร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง พ.ศ. ... ก่อนเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากการดื่มได้