ขณะที่โลกภายนอกและเด็กๆ กำลังเฉลิมฉลองปีใหม่และวันเด็กแห่งชาติอย่างสนุกสนานด้วยความรื่นเริงยินดี
อีกหลายมุมในสังคมยังมีน้องน้อยหลายหมื่นคนจากครอบครัวต่างๆ ที่เผชิญปัญหาสุขภาพ ต้องนอนป่วยด้วยโรคเรื้อรังในโรงพยาบาล อาทิ พิการทางสติปัญญา หรือดาวน์ซินโดรม โรคมะเร็ง โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคลูคีเมีย โรคไตวายเรื้อรัง เป็นต้น
ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยรักและจิตอาสา สมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (TAFEX) นำโดย
ชนาพร พูนทรัพย์หิรัญ ร่วมกับกลุ่มไออุ่น และฝ่ายการพยาบาล ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช จัดงาน "พลังใจเพื่อน้องน้อยผู้ป่วยเด็ก" สำหรับเด็กผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังกว่า 200 คน ซึ่งบางส่วนยังคงนอนอยู่บนเตียง โดยมีผู้ปกครองผู้มีจิตอาสามาร่วมจัดงาน ณ ภาควิชากุมารเวช
ศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช สนุกกับกิจกรรมสันทนาการ สาระความรู้ชีวิตพอเพียง รอบรู้อาเซียน เกมสนุกและของขวัญมากมาย พร้อมมอบเงินสมทบทุนและอุปกรณ์เสริมการเรียนรู้
ตุ๊กตาพระราชทานจากในหลวง เป็นหมีน้อย 2
ตัว สร้างความปลื้มปีติเป็นล้นพ้นแก่น้องน้อยและผู้มาร่วมงาน นับเป็นกำลังใจอันยิ่งใหญ่ให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองและน้องๆ ผู้ป่วยเด็กให้พร้อมที่จะเดินหน้าต่อสู้กับโรคภัยต่อไปได้อย่างอุ่นใจ
แม้หนูน้อยบางคนจะนั่งรถเข็นมีสายน้ำเกลือระโยงระยาง บางคนเคลื่อนไหวได้ไม่ถนัดต้องอยู่ในอ้อมกอดของแม่ แต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะของเขาทำให้ทุกหัวใจและโลกใบนี้สว่างไสว
ชนาพร พูนทรัพย์หิรัญ นายกสมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (TAFEX) กล่าวว่า "ความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นไม่เลือกช่วงอายุวัย เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย อาการหนัก-เบาของความเจ็บป่วยเองก็ไม่ขึ้นกับตัวเลขอายุด้วย เด็กบางคนแค่เพียงลืมตาดูโลกวันแรกเขาก็ต้องใช้ชีวิตประจำอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว
เด็กหลายคนเข้า-ออกโรงพยาบาลเป็นเรื่องปกติเหมือนกับที่เด็กทั่วไปใช้ชีวิตในโรงเรียน บ้างก็ไปโรงพยาบาลเป็นครั้งคราว แต่ปัญหาสุขภาพของเด็กๆ นั้นไม่สามารถจะหยุดจินตนาการ ความร่าเริง มุมมองที่สดใสไร้เดียงสาแบบเด็กๆ ของพวก
เขาได้ ธรรมชาติของการเรียนรู้ชีวิตในตัวเด็กทุกคนไม่หลุดลอยหายไป"
ชนาพรเล่าต่อว่า ภายในงานมีของขวัญและสันทนาการจากกลุ่มจิตอาสาต่างๆ อาทิ การแสดงละครใบ้ คณะเบบี้ไมม์ เรียกความครื้นเครงและ
ดึงดูดเหล่าจอมซนให้ร่วมแจมบนเวที, งานศิลปะบำบัดทำหน้ากากแฟนตาซี, ดนตรีและการแสดงจากนักเรียนโรงเรียนเผดิมศึกษา
"เรายังจัดเกมสนุกให้ความรู้เรื่องสกุลเงินตราต่างประเทศ รอบรู้สังคมอาเซียนที่กำลังเข้ามามีบทบาทต่อคนยุคใหม่ อาหารและขนมอร่อย และที่สำคัญคือการให้แนวคิดการดำเนินชีวิตแบบพอเพียงของพ่อหลวงแห่งปวงชนชาวไทยแก่น้องๆ ในตอนท้ายเป็นเกมทายปัญหาสนุกกับพี่โน้ต วัชรบูล ลี้สุวรรณ จากละครเสาร์ห้า"
ชนัญพร สุวรรณชื่น คุณแม่จิตอาสา ทำงานที่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศ ไทย เธอเปลี่ยนความทุกข์จากความเจ็บป่วยของลูกน้อยมาเป็นพลังจิตอาสาที่ยิ่งใหญ่
โดยก่อตั้งชมรมไออุ่น เครือข่ายพ่อแม่ของลูก
ป่วยโรคเรื้อรังหรือพิการทางสติปัญญา เธอฝากข้อคิดให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเจ็บป่วยเรื้อรังว่า "หากพ่อแม่อาย ไม่กล้าพาลูกออกสู่สังคมและโลกภายนอก บ่อยๆ ลูกจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย จึงขอแนะนำว่าเด็กที่มีปัญหาด้านปัญญาเขามีการรับรู้ช้า เราต้องยิ่งให้โอกาสเขาเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ ชีวิตประจำวัน การขึ้นรถเมล์ ไปตลาด สด ทำให้ได้ความรู้และมีพัฒนาการที่ดีขึ้น หากอยู่แต่ในบ้านเด็กจะทำในสิ่งเดิมๆ ทำอย่างอื่นไม่เป็น"
"ชมรมไออุ่น เป็นการรวมตัวของผู้ปกครองของน้องน้อยที่มีปัญหาทางสติปัญญา โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเพื่อการศึกษาพิเศษในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทำให้ผู้ปกครองได้ปรึกษาหารือกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลลูกๆ อย่างถูกวิธี เราประชุมกันอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมค่ายไออุ่น มีทั้งแบบไปกลับและค้างคืนในต่างจังหวัด ช่วยให้เด็กๆ และพ่อแม่ได้ร่วมทำกิจกรรมบำบัด ครอบครัวต่างๆ ได้มารู้จักกัน ช่วยเหลือกัน ดิฉันหวังว่าประเทศไทยน่าจะมีศูนย์หรือหมู่บ้านสำหรับเด็กป่วยและโรคเรื้อรังด้านต่างๆ เพื่อทำกิจกรรมบำบัด ขณะนี้พวกเรายังสร้างโครงงานเพื่อให้ลูกๆ เพลิดเพลินและมีอาชีพในวันข้างหน้าด้วยค่ะ เช่น การสกรีนเสื้อยืด การทำน้ำยาล้างจาน การปลูกเห็ด"
ยุวดี ทวีธนา ทีมบริหาร บริษัท ทเวลฟ์ วิคทอรี่ เอ็กเชน จำกัด ผู้สนับสนุนการจัดงาน กล่าวว่า ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร เขาคือดวงใจของพ่อแม่ ในงาน "พลังใจเพื่อน้องน้อยผู้ป่วยเด็ก" เราได้เห็น
พลังแห่งความรักของคุณพ่อคุณแม่ที่ดูแล
หยอกเย้า อยู่เคียงข้างลูกอย่างอบอุ่น ความรักของพ่อแม่และคนในสังคมนับเป็นยาขนานวิเศษอีกอย่างหนึ่งสำหรับน้องๆ เป็นการเผื่อแผ่ แบ่งปันให้
เด็กๆ ที่มีปัญหาสุขภาพได้รับรู้ อุปกรณ์ G Pad และเครื่องเล่นดีวีดีแบบพกพาที่เรามอบให้ มีวัตถุ ประสงค์เพื่อใช้ประโยชน์ เป็นสื่อช่วยสร้างความเข้าใจในการฟื้นฟูสุข ภาพระหว่างพยาบาล ผู้ปกครอง และน้องผู้ป่วยบนเตียง เป็นไปได้ดียิ่งขึ้นและสะดวกขึ้น และเป็นสื่อสันทนาการเพื่อการเรียนรู้ด้วย
ด้าน ประเสริฐ ลีละบรรยงค์ ประชา สัมพันธ์ สมาคม TAFEX กล่าวว่า โลกในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยมลพิษสารเคมี และขยะที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้สิ่งแวด ล้อมเสื่อมโทรม มีผล
สำคัญที่ทำให้เด็กๆ ได้รับผลพวงจากปัญหาเหล่านี้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน
"การที่เราจะช่วยมอบความรักความอบอุ่นแก่เด็กๆ ถ้าเราจะช่วยกันอีกทางหนึ่งคืออยากให้ทุกคนช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีให้คงอยู่ ผู้ผลิตผู้ขายใช้สารเคมีที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ครอบครัวต้องระมัดระวังการบริโภคให้มากขึ้น เพื่อสุขภาพเด็กๆ ของเรา"
ขณะที่ สมชาย พิพัฒนนันท์ กรรม การสมาคม TAFEX กล่าวถึงงานในครั้งนี้ว่า "ดีใจที่ได้มีส่วนร่วมมอบความสุขและโอกาสให้เด็กๆ เหล่านี้ได้สนุกสนานร่าเริง
เหมือนเด็กทั่วไป ของขวัญชิ้นเล็กๆ มีความ
หมายแทนความรู้สึกถึงเด็กๆ ที่ยังป่วย การที่เราได้เห็นความกะตือรือร้นและรอยยิ้มจากพวกเขาทำให้ผมรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก การฟื้นฟูสุขภาพน้องผู้ป่วยนอกจากจะได้รับการดูแลฟื้นฟูสุขภาพจากแพทย์พยาบาลที่ดีแล้ว กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้น้องๆ มีสุขภาพที่ดีขึ้นและฟื้นตัวได้เร็วจากโรคภัยเรื้อรัง"
งานพลังใจเพื่อน้องน้อยอบอวลไปด้วยความรัก ความสนุกสนาน ร่าเริงเบิกบาน อิ่มเอมใจและกาย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างถ้วนหน้า ผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการร่วมมอบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กโรคเรื้อรัง ติดต่อได้ที่ ศิริราชมูลนิธิกองทุนเพื่อหน่วยพัฒนาการเด็ก หรือหน่วยพัฒนาการเด็ก ตึกกุมารเวชศาสตร์ ชั้น 5 ในโรงพยาบาลศิริราช
ขณะที่โลกภายนอกและเด็กๆ กำลังเฉลิมฉลองปีใหม่และวันเด็กแห่งชาติอย่างสนุกสนานด้วยความรื่นเริงยินดี
อีกหลายมุมในสังคมยังมีน้องน้อยหลายหมื่นคนจากครอบครัวต่างๆ ที่เผชิญปัญหาสุขภาพ ต้องนอนป่วยด้วยโรคเรื้อรังในโรงพยาบาล อาทิ พิการทางสติปัญญา หรือดาวน์ซินโดรม โรคมะเร็ง โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคลูคีเมีย โรคไตวายเรื้อรัง เป็นต้น
ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยรักและจิตอาสา สมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (TAFEX) นำโดย
ชนาพร พูนทรัพย์หิรัญ ร่วมกับกลุ่มไออุ่น และฝ่ายการพยาบาล ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช จัดงาน "พลังใจเพื่อน้องน้อยผู้ป่วยเด็ก" สำหรับเด็กผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังกว่า 200 คน ซึ่งบางส่วนยังคงนอนอยู่บนเตียง โดยมีผู้ปกครองผู้มีจิตอาสามาร่วมจัดงาน ณ ภาควิชากุมารเวช
ศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช สนุกกับกิจกรรมสันทนาการ สาระความรู้ชีวิตพอเพียง รอบรู้อาเซียน เกมสนุกและของขวัญมากมาย พร้อมมอบเงินสมทบทุนและอุปกรณ์เสริมการเรียนรู้
ตุ๊กตาพระราชทานจากในหลวง เป็นหมีน้อย 2
ตัว สร้างความปลื้มปีติเป็นล้นพ้นแก่น้องน้อยและผู้มาร่วมงาน นับเป็นกำลังใจอันยิ่งใหญ่ให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองและน้องๆ ผู้ป่วยเด็กให้พร้อมที่จะเดินหน้าต่อสู้กับโรคภัยต่อไปได้อย่างอุ่นใจ
แม้หนูน้อยบางคนจะนั่งรถเข็นมีสายน้ำเกลือระโยงระยาง บางคนเคลื่อนไหวได้ไม่ถนัดต้องอยู่ในอ้อมกอดของแม่ แต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะของเขาทำให้ทุกหัวใจและโลกใบนี้สว่างไสว
ชนาพร พูนทรัพย์หิรัญ นายกสมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (TAFEX) กล่าวว่า "ความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นไม่เลือกช่วงอายุวัย เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย อาการหนัก-เบาของความเจ็บป่วยเองก็ไม่ขึ้นกับตัวเลขอายุด้วย เด็กบางคนแค่เพียงลืมตาดูโลกวันแรกเขาก็ต้องใช้ชีวิตประจำอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว
เด็กหลายคนเข้า-ออกโรงพยาบาลเป็นเรื่องปกติเหมือนกับที่เด็กทั่วไปใช้ชีวิตในโรงเรียน บ้างก็ไปโรงพยาบาลเป็นครั้งคราว แต่ปัญหาสุขภาพของเด็กๆ นั้นไม่สามารถจะหยุดจินตนาการ ความร่าเริง มุมมองที่สดใสไร้เดียงสาแบบเด็กๆ ของพวก
เขาได้ ธรรมชาติของการเรียนรู้ชีวิตในตัวเด็กทุกคนไม่หลุดลอยหายไป"
ชนาพรเล่าต่อว่า ภายในงานมีของขวัญและสันทนาการจากกลุ่มจิตอาสาต่างๆ อาทิ การแสดงละครใบ้ คณะเบบี้ไมม์ เรียกความครื้นเครงและ
ดึงดูดเหล่าจอมซนให้ร่วมแจมบนเวที, งานศิลปะบำบัดทำหน้ากากแฟนตาซี, ดนตรีและการแสดงจากนักเรียนโรงเรียนเผดิมศึกษา
"เรายังจัดเกมสนุกให้ความรู้เรื่องสกุลเงินตราต่างประเทศ รอบรู้สังคมอาเซียนที่กำลังเข้ามามีบทบาทต่อคนยุคใหม่ อาหารและขนมอร่อย และที่สำคัญคือการให้แนวคิดการดำเนินชีวิตแบบพอเพียงของพ่อหลวงแห่งปวงชนชาวไทยแก่น้องๆ ในตอนท้ายเป็นเกมทายปัญหาสนุกกับพี่โน้ต วัชรบูล ลี้สุวรรณ จากละครเสาร์ห้า"
ชนัญพร สุวรรณชื่น คุณแม่จิตอาสา ทำงานที่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศ ไทย เธอเปลี่ยนความทุกข์จากความเจ็บป่วยของลูกน้อยมาเป็นพลังจิตอาสาที่ยิ่งใหญ่
โดยก่อตั้งชมรมไออุ่น เครือข่ายพ่อแม่ของลูก
ป่วยโรคเรื้อรังหรือพิการทางสติปัญญา เธอฝากข้อคิดให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเจ็บป่วยเรื้อรังว่า "หากพ่อแม่อาย ไม่กล้าพาลูกออกสู่สังคมและโลกภายนอก บ่อยๆ ลูกจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย จึงขอแนะนำว่าเด็กที่มีปัญหาด้านปัญญาเขามีการรับรู้ช้า เราต้องยิ่งให้โอกาสเขาเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ ชีวิตประจำวัน การขึ้นรถเมล์ ไปตลาด สด ทำให้ได้ความรู้และมีพัฒนาการที่ดีขึ้น หากอยู่แต่ในบ้านเด็กจะทำในสิ่งเดิมๆ ทำอย่างอื่นไม่เป็น"
"ชมรมไออุ่น เป็นการรวมตัวของผู้ปกครองของน้องน้อยที่มีปัญหาทางสติปัญญา โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเพื่อการศึกษาพิเศษในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทำให้ผู้ปกครองได้ปรึกษาหารือกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลลูกๆ อย่างถูกวิธี เราประชุมกันอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมค่ายไออุ่น มีทั้งแบบไปกลับและค้างคืนในต่างจังหวัด ช่วยให้เด็กๆ และพ่อแม่ได้ร่วมทำกิจกรรมบำบัด ครอบครัวต่างๆ ได้มารู้จักกัน ช่วยเหลือกัน ดิฉันหวังว่าประเทศไทยน่าจะมีศูนย์หรือหมู่บ้านสำหรับเด็กป่วยและโรคเรื้อรังด้านต่างๆ เพื่อทำกิจกรรมบำบัด ขณะนี้พวกเรายังสร้างโครงงานเพื่อให้ลูกๆ เพลิดเพลินและมีอาชีพในวันข้างหน้าด้วยค่ะ เช่น การสกรีนเสื้อยืด การทำน้ำยาล้างจาน การปลูกเห็ด"
ยุวดี ทวีธนา ทีมบริหาร บริษัท ทเวลฟ์ วิคทอรี่ เอ็กเชน จำกัด ผู้สนับสนุนการจัดงาน กล่าวว่า ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร เขาคือดวงใจของพ่อแม่ ในงาน "พลังใจเพื่อน้องน้อยผู้ป่วยเด็ก" เราได้เห็น
พลังแห่งความรักของคุณพ่อคุณแม่ที่ดูแล
หยอกเย้า อยู่เคียงข้างลูกอย่างอบอุ่น ความรักของพ่อแม่และคนในสังคมนับเป็นยาขนานวิเศษอีกอย่างหนึ่งสำหรับน้องๆ เป็นการเผื่อแผ่ แบ่งปันให้
เด็กๆ ที่มีปัญหาสุขภาพได้รับรู้ อุปกรณ์ G Pad และเครื่องเล่นดีวีดีแบบพกพาที่เรามอบให้ มีวัตถุ ประสงค์เพื่อใช้ประโยชน์ เป็นสื่อช่วยสร้างความเข้าใจในการฟื้นฟูสุข ภาพระหว่างพยาบาล ผู้ปกครอง และน้องผู้ป่วยบนเตียง เป็นไปได้ดียิ่งขึ้นและสะดวกขึ้น และเป็นสื่อสันทนาการเพื่อการเรียนรู้ด้วย
ด้าน ประเสริฐ ลีละบรรยงค์ ประชา สัมพันธ์ สมาคม TAFEX กล่าวว่า โลกในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยมลพิษสารเคมี และขยะที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้สิ่งแวด ล้อมเสื่อมโทรม มีผล
สำคัญที่ทำให้เด็กๆ ได้รับผลพวงจากปัญหาเหล่านี้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน
"การที่เราจะช่วยมอบความรักความอบอุ่นแก่เด็กๆ ถ้าเราจะช่วยกันอีกทางหนึ่งคืออยากให้ทุกคนช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีให้คงอยู่ ผู้ผลิตผู้ขายใช้สารเคมีที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ครอบครัวต้องระมัดระวังการบริโภคให้มากขึ้น เพื่อสุขภาพเด็กๆ ของเรา"
ขณะที่ สมชาย พิพัฒนนันท์ กรรม การสมาคม TAFEX กล่าวถึงงานในครั้งนี้ว่า "ดีใจที่ได้มีส่วนร่วมมอบความสุขและโอกาสให้เด็กๆ เหล่านี้ได้สนุกสนานร่าเริง
เหมือนเด็กทั่วไป ของขวัญชิ้นเล็กๆ มีความ
หมายแทนความรู้สึกถึงเด็กๆ ที่ยังป่วย การที่เราได้เห็นความกะตือรือร้นและรอยยิ้มจากพวกเขาทำให้ผมรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก การฟื้นฟูสุขภาพน้องผู้ป่วยนอกจากจะได้รับการดูแลฟื้นฟูสุขภาพจากแพทย์พยาบาลที่ดีแล้ว กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้น้องๆ มีสุขภาพที่ดีขึ้นและฟื้นตัวได้เร็วจากโรคภัยเรื้อรัง"
งานพลังใจเพื่อน้องน้อยอบอวลไปด้วยความรัก ความสนุกสนาน ร่าเริงเบิกบาน อิ่มเอมใจและกาย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างถ้วนหน้า ผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการร่วมมอบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กโรคเรื้อรัง ติดต่อได้ที่ ศิริราชมูลนิธิกองทุนเพื่อหน่วยพัฒนาการเด็ก หรือหน่วยพัฒนาการเด็ก ตึกกุมารเวชศาสตร์ ชั้น 5 ในโรงพยาบาลศิริราช
