ในรอบปีที่ผ่านมาเรื่องราวปัญหาเด็กและเยาวชนปรากฏเป็นข่าวใหญ่มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับข้อมูลของคณะกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชา ชาติที่ระบุว่านับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นไป สังคมโลกจะต้องรับมือกับสถานการณ์ความรุนแรงของปัญหาด้านเด็กและเยาวชนที่จะพุ่งสูงขึ้นจนถึงขั้นวิกฤต
          โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมไทยในปัจจุบันที่เปลี่ยนเป็นครอบครัวเดี่ยวและพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวมากขึ้น พ่อแม่ต้องออกไปทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำ เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการทำมาหากิน มีความเครียดในการดำรงชีวิตสูง ผู้คนในปัจจุบันให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีสมัยใหม่โดยเฉพาะสมาร์ตโฟนที่มีความสามารถหลากหลาย ทำให้ดึงความสนใจและเวลาของพ่อแม่จากตัวเด็กไป
          รวมทั้งตัวเด็กเองก็หันหน้าเข้าหาสิ่งเหล่านี้เช่นกันเพราะขาดการเอาใจใส่จากผู้ปกครอง ทำให้ความรักความผูกพันระหว่างสมาชิกครอบครัวลดลง ความเป็นครอบครัวที่แท้จริงจึงถูกหลงลืมไปจากสังคมไทย
          โรงพยาบาลมนารมย์ เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงร่วมกับ ศ.พญ.นงพงา ลิ้มสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชเด็กวัยรุ่นและครอบครัว ที่ปรึกษาของโรงพยาบาล ออกแบบกระบวนการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ "เทคนิคสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่ลูก" (Positive Parenting) ให้กับพ่อแม่หรือผู้ปกครองเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการเลี้ยงดูบุตรหลาน ให้เติบโตขึ้นอย่างมีพลังใจที่ดีและเข้มแข็ง เพราะครอบครัวไทยในปัจจุ บันกำลังถูกกระแสและค่านิยมต่างๆ ในสังคมพัดพาไปจนหลงลืมเป้าหมายที่แท้จริงของคำว่าครอบครัว
          และเมื่อมองจากสภาพปัญหาของเด็กและเยาวชนในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกหรือการกระทำในรูปแบบต่างๆ ที่สังคมไม่ยอมรับนั้นล้วนแต่มีที่มาหรือจุดเริ่มต้นจากครอบครัวทั้งสิ้น
          ศ.พญ.นงพงากล่าวว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกิดจากการไม่ได้สร้างภูมิคุ้มกันไว้ตั้งแต่เด็ก จิตใจก็เหมือนกับร่างกาย ถ้าภูมิคุ้มกันดีก็เจ็บป่วยได้ยาก แต่พ่อแม่ในปัจจุบันรู้จักแต่การเลี้ยงลูกให้มีร่างกายที่แข็งแรง แต่ไม่มีความรู้ว่าจะเลี้ยงดูลูกอย่างไรให้จิตใจแข็งแรง จิตใจก็ต้องการอาหารใจเหมือนกัน
          อาหารใจส่วนใหญ่จะพูดกันถึงแต่เรื่องความรัก คิดว่าถ้าให้ความรักเด็กก็จะอบอุ่นโตมาก็น่าจะเป็นคนดี แต่จริงๆ แล้วเป็นเพียงส่วนเดียว เหมือนกับการให้สารอาหารเพียงอย่างเดียวจะทำให้เป็นโรคได้ง่าย ความรักก็เช่นกันต้องให้ด้วยความเหมาะสม ถ้ารักมากตามใจมากจะกลายเป็นปัญหา อย่างเด็กวัยรุ่นที่ฆ่าตัวตายเพราะทนไม่ได้ที่แฟนทิ้ง คือตัวอย่างง่ายๆ ของการให้ความรักมากเกินไป
          ดังนั้นการให้ "ความรัก" นอกจากจะต้องดูตาม "ความเหมาะสม" แล้ว พ่อแม่หรือผู้ปกครองยังต้องคำนึงถึงการให้ความรักที่เหมาะสมควบคู่ไปพร้อมๆ กับ "ความเข้าใจ" ตามช่วงวัยและการเติบโตของเด็ก หลายครอบครัวในสังคมไทยยังขาดความรู้และทักษะในสิ่งเหล่านี้
          "พ่อแม่ยุคใหม่หลายคนอาจเข้าใจว่าการเป็นพ่อแม่ที่ดีคือการให้ความรักและความเข้าใจ แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเพราะแท้ที่จริงแล้วสิ่งที่จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่เป็นเสมือนภูมิคุ้มกันภายในจิตใจสำหรับลูกต่อไปในอนาคตก็คือความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อและแม่
          พูดได้ว่าของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับลูกคือความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่ เพราะเมื่อพ่อแม่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ลูกก็จะมีความสัมพันธ์ที่ดีตามมา แต่ปัจจุบันเราไปขวนขวายสิ่งที่คิดว่าดีมาให้กับลูก หาแต่สิ่งที่อยู่ข้างนอก แต่สิ่งที่ดีสำหรับลูกที่แท้จริงนั้นกลับอยู่ข้างในตัวเรา สิ่งเหล่านี้ต่างหากจะส่งผลต่อการมีภูมิคุ้มกันทางจิตใจที่ดี" ศ.พญ.นงพงากล่าว
          สำหรับแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ซึ่งเป็นพื้นฐานด้านจิตใจที่สำคัญของเด็กให้เกิดขึ้นได้นั้น ตามหลักทฤษฎีของ "ซาเทียร์" นักจิตวิทยาชาวอเมริกันที่ค้นพบหนทางสร้างความมั่นคงภายในจิตใจอันจะนำมาซึ่งความสุขในชีวิต ระบุว่าจะต้องเริ่มจากการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเองก่อน ถ้าคนเรามีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับตัวเอง ไม่ชอบตัวเอง หงุดหงิดตลอดเวลา ไม่มีความสุข ก็ไม่สามารถเป็นพ่อแม่ที่ดีได้ เมื่อความสัมพันธ์กับตัวเองยังไม่ดีแล้วจะไปสัมพันธ์กับลูก สามีหรือภรรยาได้อย่างไร ในทฤษฎีของซาเทียร์จึงเน้นจากการเริ่มต้นพัฒนาตนเองไปพร้อมๆ กับการพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้อื่น
          "ต้องเริ่มจากเราเห็นคุณค่าของตัวเองว่าเราดีพอแต่ไม่ได้หมายความว่าเราดีวิเศษ เราต้องตั้งใจที่จะเห็นความสำคัญของตนเอง เห็นคุณค่าและความดีของตนเอง เมื่อเราสามารถมองเห็นคุณค่าและความดีในตัวของเราได้เราก็จะสามารถมองเห็นคุณค่าและความดีในตัวของลูกหรือคนอื่นได้
          ที่สำคัญพ่อแม่ต้องรู้จักมองลูกในแง่บวก เน้นการสอนลูกให้เรียนรู้จากสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดี ความเข้าใจในสิ่งเหล่านี้สำคัญมากสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว" ศ.พญ.นงพงากล่าว
          จิตเวชเด็กวัยรุ่นและครอบครัว กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่าเพราะช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของชีวิตเด็กอยู่ในช่วง 0-6 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำหรับการปูพื้นฐานด้านจิตใจที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต หากชีวิตของเด็กในช่วงวัยนี้ขาดภูมิคุ้มกันด้านจิตใจที่ดีและเหมาะสมจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพใจต่อเนื่องไปจนถึงวัยผู้ใหญ่
          สนใจเข้าอบรม "เทคนิคสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่ลูก" (Positive Parenting) ติดต่อได้ที่โรงพยาบาลมนารมย์ โทร.0-2725-9595