วันที่ 1 ม.ค. 2556 นายมานะ เกลี้ยงทอง ผอ.สำนักบริการสวัสดิการสังคม กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า สถิติเด็กถูกทอดทิ้งที่เข้ารับบริการในสถานสงเคราะห์เด็กอ่อน สังกัดพส. 8 แห่งทั่วประเทศ ในปีงบประมาณ 2553 มี 634 คน ปีงบประมาณ 2554 มี 612 คน และปีงบประมาณ 2555 มี 651 คน โดยสถานที่พบเด็กถูกทิ้งมากที่สุดคือโรงพยาบาล รองลงมาที่สาธารณะ เช่น ห้องน้ำ ห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ยังทิ้งให้กับผู้รับจ้างเลี้ยง และญาติ จังหวัดที่พบว่ามีการทิ้งมากที่สุดคือ เชียงใหม่ ตามด้วย กรุงเทพฯ นครศรีธรรมราช และอุดรธานี สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการตั้งครรภ์นอกสมรส การตั้งครรภ์ในวัยเรียน มารดาย้ายมาเมืองใหญ่เพื่อประกอบอาชีพ และการหย่าร้าง

อย่างไรก็ตาม สถานสงเคราะห์เด็กอ่อน 8 แห่งทั่วประเทศสามารถรองรับเด็กอ่อนได้ 2,340 คน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในความอุปการะ 2,242 คน ทั้งนี้แต่ละสถานสงเคราะห์มีเด็กที่ได้รับเป็นบุตรบุญธรรมกลับคืนสู่ครอบครัว จึงทำให้สามารถรองรับเด็กที่ถูกทิ้งได้เพียงพอกับจำนวนที่มีเพิ่มมากขึ้น แต่แนวโน้มเชื่อว่าจำนวนเด็กถูกทิ้งจะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะทำให้มีเด็กเข้ามาจากหลายทาง เช่น ติดตามพ่อแม่มา หรือหลบหนีเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย

นายมานะกล่าวว่า มาตรการป้องกันและลดอัตราเสี่ยงในการทอดทิ้งเด็กที่ พส.ดำเนินการคือ การให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประสบปัญหาทางสังคม เช่น บริการสายด่วนศูนย์ประชาบดี 1300 ซึ่งในปี 2556 จะปรับโฉมใหม่ โดยมีบริการโมบายยูนิตเป็นรถสีบานเย็นของศูนย์ เคลื่อนที่เข้าถึงผู้ประสบปัญหาต่างๆ รวมถึงการให้คำปรึกษาแนะนำ ซึ่งล็อตแรกจะออกให้บริการทุกจังหวัดจำนวน 300 คัน และยังมีโครงการฝากลูกรักให้พม.พ่อแม่ทดแทนเลี้ยง เพื่อรับฝากดูแลเด็กในขณะที่พ่อแม่ไปเรียนหรือทำงาน สำหรับมาตรการอื่นๆ คือการสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจนหรือประสบปัญหา การส่งเสริมและพัฒนาสถานรับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียน และสร้างความอบอุ่นในครอบครัวและการมีส่วนร่วมในการดูแลเด็กของสมาชิกชุมชน