นพ.ทวี ตั้งเสรี รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงอัตราการฆ่าตัวตายของประเทศไทย (รายต่อแสนประชากร) ล่าสุดปี 2554 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยพบว่ามีจำนวนรวม  3,873 ราย หรือ 6.03 รายต่อประชากรแสนคน และสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตราฆ่าตัวตายอยู่ที่ 5.9 รายต่อประชากรแสนประชากรช่วงวัยที่มีอัตราการฆ่าตัวตายมากที่สุด 30-39 ปี เป็นช่วงก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ที่จะมีความรับผิดชอบมาก ทำให้เกิดความเครียด ประกอบกับพบว่า โรคซึมเศร้าที่เป็นสาเหตุครึ่งหนึ่งของการฆ่าตัวตาย มักจะปรากฏอาการครั้งแรกชัดในช่วงวัยดังกล่าว ทำให้พบสถิติสูงกว่าวัยอื่นๆ นอกจากนี้ ยังพบอัตราการฆ่าตัวตายในช่วงวัย 20-29 ปี และ 40-49 ปี ในอัตราเฉลี่ยเกือบเท่าๆ กันด้วย
          นพ.ทวี กล่าวว่า สำหรับการป้องกันกรมสุขภาพจิตได้วางแผนทำงาน โดยในช่วงวัยรุ่น จะมีโครงการที่ป้องกันสาเหตุที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย เช่น โครงการท้องไม่พร้อม แม่วัยใส ให้การดูแลด้านจิตใจเรื่องต่างๆ สำหรับวัยผู้ใหญ่ มีมาตรการคัดกรองกลุ่มเสี่ยง โดยปัจจุบันมีการใช้เครื่องมือคัดกรองการฆ่าตัวตาย ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงคัดกรองได้ง่ายและแม่นยำถึงร้อยละ 90  ในร.พ.ชุมชนทุกแห่ง โดยมีการเปิดคลินิกดูแลด้านจิตใจ เพื่อให้เข้าถึงบริการและส่งต่อเพื่อให้รักษาได้ทันเวลา ส่วนในวัยสูงอายุ จะคัดกรองโรคซึมเศร้า เป็นต้น โดยคนในครอบครัวมีส่วนสำคัญในการสังเกตเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการฆ่าตัวตาย