HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 29/03/2564 ]
เตือน-ถูกหลอกวัคซีนทางไลน์

 ศธ.ระบุโฆษณาชวนเชื่อป่วยโควิดตายเพิ่มราย93
          สบส.เตือนอย่าหลงเชื่อโฆษณาชวนจองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ผ่านกลุ่มไลน์ ชี้เข้าข่ายโฆษณาโอ้อวดเกินจริง ระบุเป็นข่าวปลอม ทั้งไม่ได้จัดตั้งในไทย ลั่นหากสถานพยาบาลใดเกี่ยวข้อง เอาผิดตามกฎหมายทันที เผยชายไทยวัย 45 ปีติดเชื้อ เสียชีวิตรายที่ 93 ของประเทศ มีโรคประจำตัวเบาหวาน อาศัยในพื้นที่ จ.นครปฐม เคยไปพื้นที่เสี่ยงเขตบางแค ส่วนที่ราชบุรีติดเพิ่มอีก 1 รายที่ 50 อาชีพ ขายอาหารทะเล ที่ตลาดกิตติ ย่านบางแค ตอนนี้รักษาตัว ร.พ.ราชบุรีแล้ว
          สธ.ฮึ่มฟัน-จองวัคซีนทางไลน์
          เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้จัดหาวัคซีนโควิด-19 มาฉีดให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ระยะแรกที่วัคซีนมีจำกัดได้ฉีดใน 13 จังหวัด และระยะต่อไปจะมีวัคซีนมากขึ้น จะฉีดได้ครอบคลุมในปีนี้ แต่ประชาชนบางรายที่ยังไม่ทราบถึงข้อมูลการฉีดวัคซีน ทำให้มีผู้ฉกฉวยโอกาสโฆษณาชักชวนประชาชนให้จองบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพจากวัคซีนที่ยังไม่ผ่านการรับรอง และเป็นการสิ้นเปลืองเงินทองโดยมิจำเป็น
          นพ.ธเรศกล่าวว่า ล่าสุดพบเบาะแสการเปิดจองวัคซีนโควิด-19 ผ่านสื่อโซเชี่ยล ในกลุ่มไลน์ Qinsong Group ซึ่งมีการอวดอ้างว่าวัคซีนของตนมีประสิทธิภาพในการต่อต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์ และเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ถึง 100% จึงมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงแหล่งที่มาของกลุ่มไลน์ดังกล่าว จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าข้อมูลการเปิดจองวัคซีนโควิดของกลุ่มไลน์ Qinsong Group เป็นข่าวปลอม (Fake News) อีกทั้งกลุ่มไลน์ดังกล่าว มิได้มีการจัดตั้งในประเทศไทย
          ชี้เข้าข่ายโฆษณาเท็จทั้งปรับ-จำ
          อย่างไรก็ตาม หากสบส.ตรวจพบว่าสถานพยาบาลเอกชนแห่งใดในประเทศไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มไลน์ดังกล่าว จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายโดยทันที ซึ่งการเปิดจองวัคซีนโควิด-19 และโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณว่าวัคซีนของตนนั้นสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน 100% โดยไม่มีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์รองรับนั้น เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ในมาตรา 38 วรรค 1 ฐานไม่ขออนุมัติและได้รับอนุมัติให้โฆษณา ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา และมาตรา 38 วรรค 2 ฐานโฆษณาในลักษณะอันเป็นเท็จ โอ้อวดเกินความจริง และน่าจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกอบกิจการสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา
          ด้านทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ได้จัดทำแอพพลิเคชั่นไลน์ "หมอพร้อม" เพื่อรองรับการให้บริการวัคซีน ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและหน่วยบริการ ในการลงทะเบียนผู้รับวัคซีน ติดตามอาการไม่พึงประสงค์ ติดตามประเมินผลการให้วัคซีนจากหน่วยบริการทั่วประเทศได้อย่างครอบคลุม และเป็นการเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับประชาชนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนที่ต้องการรับวัคซีนโควิด-19 กดเพิ่ม "หมอพร้อม" เป็นเพื่อนในไลน์ เพื่อตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับวัคซีน ซึ่งสธ.ได้นำรายชื่อกลุ่มเป้าหมายแรกในการรับวัคซีนเข้าสู่ระบบหมอพร้อมแล้ว หากมีรายชื่อในระบบจะแสดงหน้าจอให้กดยืนยันการรับวัคซีน จากนั้นจะมีแบบประเมินคัดกรองก่อนรับวัคซีน เข้าสู่การนัดหมาย โดยสามารถเลือกสถานพยาบาล วันและเวลาในการรับวัคซีน
          หนุ่มเสียชีวิตเคยไปเขตบางแค
          วันเดียวกัน เฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 80 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและบริการ 41 ราย ผู้ป่วยจากการคัดกรองเชิงรุก 32 ราย และ ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค 7 ราย รวมสะสม 28,657 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 25,629 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 3,028 ราย รักษาหายป่วยแล้ว 27,136 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล(ร.พ.) 1,428 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย สะสม 93 ราย
          ทั้งนี้จำนวนผู้ติดเชื้อในการระบาดรอบใหม่ สะสม 24,420 ราย แบ่งเป็นการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 16,014 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ 7,152 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 1,254 ราย และผู้เสียชีวิตสะสม 33 ราย
          ผู้เสียชีวิตรายที่ 93 ของประเทศไทย ชายไทย อายุ 45 ปี โรคประจำตัวคือ โรค เบาหวาน อาศัยอยู่ในจ.นครปฐม มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงเขตบางแค เมื่อวันที่ 16 มี.ค. มีอาการเหนื่อยหอบ เข้ารักษาในร.พ.แห่งหนึ่ง พบน้ำตาลในเลือดสูงและตรวจหาเชื้อ แต่ไม่พบเชื้อ เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ผู้ป่วยเกิดอาการหมดสติ จึงนำส่งร.พ.อีกครั้ง ทำการฟื้นคืนชีพ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ร.พ.ได้ส่งตรวจหาเชื้อผลตรวจยืนยันพบเชื้อ
          กทม.ติดป่วยเชื้อรายใหม่ 25 ราย
          สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 80 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 41 ราย พบในกรุงเทพ มหานคร (กทม.) 25 ราย สมุทรสาคร 11 ราย นครปฐม 1 ราย นครสวรรค์ 2 ราย ปทุมธานี 1 ราย สมุทรปราการ 1 ราย ส่วนการคัดกรองเชิงรุก 32 ราย พบใน กทม. 23 ราย นนทบุรี 2 ราย สมุทรสาคร 4 ราย ตาก 1 ราย สมุทรปราการ 2 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 7 ราย ได้แก่ อินเดีย 3 ราย แอฟริกาใต้ 2 ราย และบาห์เรน เยอรมนี ประเทศละ 1 ราย
          ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อรวม 126,700,364 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 630,099 ราย อาการรุนแรง 92,461 ราย รักษาหายแล้ว 102,162,887 ราย เสียชีวิต 2,779,741 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา 30,853,032 ราย เป็นรายใหม่ 76,976 ราย 2.บราซิล 12,407,323 ราย เป็นรายใหม่ 82,558 ราย 3.อินเดีย 11,908,373 ราย เป็นรายใหม่ 62,291 ราย 4.รัสเซีย 4,501,859 ราย เป็นรายใหม่ 9,167 ราย 5.ฝรั่งเศส 4,465,956 ราย เป็นรายใหม่ 41,869 ราย ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 116 ของโลก
          ชี้เสี่ยงสูง-เชียงใหม่จัดงานสาดสี
          ที่จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี เมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค. ในงาน FINEDAY@Night Bazaar บริเวณไนท์บาซาร์ ย่านการค้ายามค่ำคืนชื่อดังกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งจัดถนนคนเดินทุกวันศุกร์ มีการจัดเทศกาลสาดสี (HOLI Festival) ที่เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองของผู้คนในประเทศอินเดีย โดยการจัดเทศกาลสาดสีภายในการจัดงานครั้งนี้ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกันอย่างคึกคักและสาดสีใส่กันอย่างสนุกสนาน ลักษณะเหมือนกับการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ของไทย แต่เปลี่ยนเป็นการใช้สีแทน การจัดงานครั้งนี้จัดโดยความร่วมมือของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ กับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจ.เชียงใหม่ และชมรมชาวอินเดียจ.เชียงใหม่ เพื่อกระตุ้นการ ท่องเที่ยวของจ.เชียงใหม่
          ทั้งนี้ ฝ่ายผู้จัดงานมีการเผยแพร่ภาพสดการจัดงานดังกล่าว ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก "Fine Day At Night Bazarr" ให้ผู้สนใจได้ติดตามบรรยากาศการจัดงานที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานรื่นเริงของคนจำนวนมาก ที่สาดสี, เป่าสี และแปะป้ายสีใส่กัน พร้อมกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ อย่างไรก็ตามหลายคนที่ได้รับชมภาพบรรยากาศการจัดงานตั้งข้อสังเกตว่าก่อให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดและรับเชื้อโควิด-19 หรือไม่ อีกทั้งขัดแย้งกับแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยหรือไม่
          ตรวจเจอโควิดหลังฉีดวัคซีน
          เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ข้อมูลจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จ.ราชบุรี รายงานสถานการณ์ โควิด-19 จ.ราชบุรี ระลอกใหม่ พบผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย อาชีพขายอาหาร ที่ทะเลตลาดกิตติ บางแค กทม. เพศหญิง อายุ 29 ปี อยู่ต.สามเรือน อ.เมืองราชบุรี รักษาตัวที่ร.พ.ราชบุรี
          สรุปยอดรวมผู้ป่วยยืนยันระลอกใหม่ปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 50 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในร.พ. 11 ราย รักษาหายกลับบ้านได้ 39 ราย ซึ่งจ.ราชบุรีได้ดำเนินการป้องกันควบคุมโรค พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาด ในทุกสถานที่ที่ปรากฏในไทม์ไลน์ (Timeline) ขอให้ชาวราชบุรีมั่นใจสามารถไปใช้บริการตามร้านอาหารและทุกสถานที่ได้เป็นปกติ
          ทั้งนี้ทางจ.ราชบุรี ขอความร่วมมือหากมีความจำเป็นควรเลือกช่วงเวลาที่มีคนน้อย ขอให้ชาวราชบุรีเข้มงวด ให้ใช้ DMHTT เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ วัดไข้ สแกนไทยชนะ อย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงเดินทางไปที่ชุมชนแออัด
          เปิดไทม์ไลน์วันที่ 10-26 มี.ค.
          สำหรับไทม์ไลน์ ผู้ป่วยโควิด19 ระลอกใหม่ รายที่ 50 ผู้ป่วยหญิง อายุ 29 ปี หมู่ 6 ต.สามเรือน อ.เมือง จ.ราชบุรี อาชีพขายอาหารทะเล ตลาดกิตติ เขตบางแค กทม.
          วันที่ 10-12 มี.ค. พักผ่อนอยู่บ้าน ม.6 ต.สามเรือน ไม่ได้ออกไปไหนและไม่ได้ไปขายอาหารทะเลที่ตลาดกิตติ เพราะตลาดถูกสั่งปิด เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 (มีผู้ป่วยติดเชื้อเป็นจำนวนมาก)
          วันที่ 13 มี.ค. เวลา 05.00 น. เดินทางไปตลาดกิตติ เนื่องจากได้รับการติดต่อจาก เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลตลาด แจ้งให้ไปรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยการเก็บน้ำลายส่งตรวจ (ได้รับการแจ้งว่าจะโทร.แจ้งผลให้ทราบเมื่อตรวจพบเชื้อ)
          วันที่ 14-17 มี.ค. พักผ่อนและกักตัวอยู่บ้านไม่ได้ออกไปที่ไหน ยังไม่มีเจ้าหน้าที่โทร.แจ้งผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้ทราบ แต่ทราบจากเพื่อนในกลุ่มไลน์ว่าไม่มีผู้ใดพบเชื้อ
          วันที่ 18 มี.ค. เวลา 12.00 น. เดินทางไปตลาดกิตติ เนื่องจากได้รับการติดต่อจาก เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลตลาด แจ้งให้ไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (เข็มที่ 1 ) หลังจากฉีดวัคซีนเสร็จเรียบร้อย กลับบ้านโดยรถยนต์ส่วนตัวไม่ได้แวะที่ไหน วันที่ 19 มี.ค. พักผ่อนและกักตัวอยู่บ้านไม่ได้ออกที่ไหน
          ค้าขายที่ตลาดกิตติบางแค
          วันที่ 20 มี.ค. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสำรวจและพบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าว มีอาชีพค้าขายอยู่ที่ตลาดกิตติ กักตัวอยู่ที่บ้านเนื่องจากตลาดปิด จึงนำมากักตัวที่สถานกักกันของรัฐ (local quarantine) จ.ราชบุรี
          วันที่ 21-25 มี.ค. กักตัวอยู่ที่สถานกักกันของรัฐ จ.ราชบุรี วันที่ 26 มี.ค. เวลา 10.30-11.00 น. รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนครบกำหนดกักตัว 14 วัน (ครบกำหนดกักตัว วันที่ 27 มี.ค.) 18.00 น. ทราบผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อโควิด-19 เข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในร.พ.ราชบุรี


pageview  1204962    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved