เชียงใหม่ - น.พ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูฝนมีชาวบ้านบางกลุ่มนิยมนำเห็ดหลายชนิดมาประกอบอาหาร และอาจมีเห็ดบางชนิดที่เป็นพิษปะปนอยู่ จึงอยากฝากเตือนประชาชนว่าเห็ดป่าส่วนใหญ่จะเป็นเห็ดที่มีพิษ และยังไม่มีวิธีการตรวจทางกายภาพใดๆ ที่จะรับรองว่าปลอดภัย โดยลักษณะของเห็ดที่มีพิษ มีรูปร่างไม่เหมือนเห็ดทั่วไป และมีสีที่แตกต่างออกไป ส่วนใหญ่ไม่ใช่สีขาว นอกจากนี้ ยังมีเห็ดที่มีปลอกหุ้มตรงโคนทั้งหมด รวมถึงเห็ดที่มีก้านลักษณะตัน ไม่กลวง ซึ่งพวกนี้เป็นเห็ดที่มีพิษทั้งหมด
          น.พ.วัฒนากล่าวต่อว่า ทุกปีจะมีประชาชนที่เสียชีวิตจากการรับประทานเห็ดพิษเข้าไป โดยส่วนใหญ่มักจะเสียชีวิตเป็นครอบครัวเพราะเก็บเห็ดพิษมารับประทานกันภายในครอบครัว อย่างในปีนี้ตั้งแต่ต้นปีในจ.เชียงใหม่ มีผู้ป่วยจากการทานเห็ดพิษแล้ว 16 ราย และเสียชีวิตไป 1 ราย โดยกระจายกันทั่วทุกอำเภอที่อยู่รอบนอก ซึ่งเมื่อมีข่าวผู้เสียชีวิตจะทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เกิดความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก
          "คำแนะนำสำหรับพี่น้องประชาชนก็คือ ถ้าหากไม่เคยรับประทานควรหลีกเลี่ยง และไม่ควรรับประทานครั้งละมากๆ เพื่อดูลักษณะอาการก่อน ว่ามีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ท้องเสียหรือไม่ เพราะหากทานเห็ดที่เป็นพิษเข้าไปมากๆ พิษก็จะเข้าไปสะสมในร่างกายมากตามไปด้วย หลังจากนั้นพิษก็จะเข้าสู่เลือดและเข้าสู่อวัยวะภายใน ซึ่งอาการเริ่มต้นอาจจะล้มป่วยอยู่หลายวันและอาจจะไม่ได้เสียชีวิตทันทีเพราะอวัยวะจะค่อยๆ ถูกทำลายไป" น.พ.วัฒนากล่าว
          ทั้งนี้ วิธีการช่วยเหลือผู้ป่วยที่รับประทานเห็ดพิษเข้าไปนั้น ขั้นแรกควรทำให้ผู้ป่วยอาเจียนเพื่อลดพิษที่เข้าสู่ร่างกาย ก่อนนำส่งโรงพยาบาลโดยทันที เพราะส่วนใหญ่ระยะเวลาที่พิษเข้าสู่ร่างกายจะอยู่ที่ประมาณ 3-7 วัน ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้จะไม่สามารถรักษาได้เพราะไม่มียาต้านพิษเฉพาะ นอกจากนี้การนำเห็ดเหล่านี้มาต้ม มาปรุงเป็นอาหารก็ไม่ได้ช่วยให้พิษที่อยู่ในเห็ดลดลง