|
|
|
หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 24/07/2562 ] |
|
|
|
|
ผุดโครงการกำแพงพักใจ-แก้ซึมเศร้า |
|
|
|
|
รับปรึกษาสุขภาพจิตออนไลน์-ลดเครียด-ฆ่าตัวตาย
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการกำแพงพักใจ (Wall of Sharing) ระหว่างกรมสุขภาพจิต กับบริษัท เทเลเมดิก้า จำกัด เพื่อให้การปรึกษาด้านสุขภาพจิต โดยจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาออนไลน์แก่เด็กและเยาวชนอายุ 10-24 ปีว่า โรคซึมเศร้าเป็นปัญหาสำคัญ เป็นโรคใกล้ตัวที่สามารถรักษาให้หายขาดได้
หากไม่ได้รับการรักษาอาจรุนแรงจนนำไปสู่ปัญหาการฆ่าตัวตาย โดยผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้ามีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายมากกว่าคนทั่วไปถึง 20 เท่า ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า 100 คนจะเป็นวัยรุ่น 11 คน และในวัยรุ่น 100 คนจะมีภาวะซึมเศร้า 3 คน ทั้งนี้ กรมมีบริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 จัดบริการให้ได้ปีละ 200,000 สาย จากการโทร.เข้ามากว่า 800,000 สาย คิดเป็น 1 ใน 4
นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า ในปี 2561 พบว่าปัญหาสุขภาพจิตที่ทำให้เด็กและเยาวชนโทรศัพท์มาขอรับการปรึกษามากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ภาวะเครียดหรือรู้สึกกดดัน 2.ปัญหาความรัก 3.ปัญหาเรื่องเพศหรือการใช้สารเสพติด 4.ภาวะซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย ทำร้ายคนอื่น และ 5.ครอบครัวไม่เข้าใจ โดยภาพรวมวัยรุ่นยังเป็นกลุ่มที่มีการเข้าถึงบริการน้อย ปี 2561 ให้บริการได้ราว 9,000 สาย การค้นหาช่องทางช่วยเหลือเด็กและวัยรุ่นให้มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นที่มาในการพัฒนาความร่วมมือ "โครงการกำแพงพักใจ" กับบริษัทเทเลเมดิก้า เจ้าของแอพพลิเคชั่น "อูก้า (Ooca)" ที่จะนำเทคโนโลยีมาช่วยให้บริการปรึกษาด้านสุขภาพจิต ซึ่งจะส่งผลให้เด็กและวัยรุ่นสามารถนัดและพบกับจิตแพทย์ นักจิตวิทยาได้ผ่านทางออนไลน์ ไม่ต้องเดินทาง เลือกขอรับการปรึกษาเมื่อไรก็ได้ มีความเป็นส่วนตัวสูง มีจิตแพทย์และนักจิตวิทยามากกว่า 50 คนให้การปรึกษา
ด้าน พญ.ดุษฎี จึงศิรกุลวิทย์ ผอ.สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กทม. กล่าวว่า ขณะนี้มีมหาวิทยาลัยนำร่องที่ลงนามเข้าร่วมโครงการแล้ว 4 แห่ง คือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.), มหาวิทยาลัยมหิดล, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และมหาวิทยาลัยพะเยา สามารถรับบริการปรึกษาผ่านระบบโรงพยาบาลออนไลน์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ |
| | |
|
| |