|
|
|
หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 26/07/2562 ] |
|
|
|
|
ปกป้องเด็กจากยุง ห่างไข้เลือดออก |
|
|
|
|
นพ.สมศักดิ์ อรรถศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ไข้เลือดออกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ที่มาจากน้ำลายของยุงที่ไปกัด คนที่เป็นไข้เลือดออกมาก่อน เมื่อคนถูกยุงกัดจะได้รับเชื้อไวรัสเดงกี่อาจจะมีอาการน้อยหรือแทบไม่มีอาการ แต่พบว่าประมาณร้อยละ 2-4 ของผู้ที่ถูกยุงกัดเกิดอาการมากที่เรียกว่า "ไข้เลือดออกเดงกี่" หรือเรียกทั่วไปว่า "ไข้เลือดออก" ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดตามตัว ซึม กินอาหารไม่ได้ อาเจียน ปวดท้อง อาจมีเลือดออกตามอวัยวะต่างๆ และอาการหนักจนมีภาวะช็อก ซึ่งหากไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาทันท่วงทีจะนำไปสู่การเสียชีวิต
พญ.ประอร สุประดิษฐ ณ อยุธยา กุมารเวชศาสตร์-โรคติดเชื้อ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่าการป้องกันโรคไข้เลือดออกที่สำคัญ คือ ป้องกันตัวเองและบุตรหลานไม่ให้ยุงกัดด้วยการนอนในมุ้ง ทายากันยุงช่วยกันกำจัดทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เช่น แหล่งน้ำขังในบ้าน ซึ่งต้องทำสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ควรไปพบแพทย์เมื่อป่วย เป็นไข้ ปวดศีรษะ ปวดตามตัว มีผื่น หรือมีภาวะเลือดออก เช่น จุดเลือดออกตามตัว เพื่อปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ โดยเฉพาะไข้เลือดออกที่เป็นมากจะมีโอกาสเกิดภาวะช็อกเมื่อไข้เริ่มลด จึงไม่ควรประมาท ควรติดตามอาการอื่นๆ เช่น อ่อนเพลีย ซึม รับประทานอาหารไม่ได้ อาเจียน ปวดท้อง ควรไปพบแพทย์ วัคซีนไข้เลือดออกมีประสิทธิภาพดีและมีความปลอดภัย ในผู้ที่เคยป่วยเป็นไข้เลือดออกแล้ว จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกันโรคไข้เลือดออก องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ฉีดวัคซีน ในช่วงอายุ 9-45 ปี ที่มีหลักฐานยืนยันว่าเคยติดเชื้อไวรัสไข้เลือดออกแล้ว |
| | |
|
| |
|
pageview 1205154 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |