HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 23/04/2562 ]
นร.อนุบาลดับเซ่นพายุร้อน

  ซัดฝ้าเพดานรร.พังถล่มลงมาทับ
          สุดสลด พายุฤดูร้อนพัด พื้นคอนกรีตหลังคาโรงเรียนอนุบาลดังเมืองขอนแก่นถล่มลงมาทับนักเรียนหญิงวัย 4 ขวบเสียชีวิตคาที่ ขณะหลบฝนตกหนักในห้องโถงใหญ่ นอกจากนี้มีนักเรียนบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง หลายจังหวัดเหนือ-อีสานยังเจอพายุฤดูร้อนพัดถล่ม ลูกเห็บตก ส่วนที่ปราณบุรี หนุ่มใหญ่ป่วยเป็นโรคไต ดับสลดในห้องพักภายในเพิงพักใกล้ศาลาการเปรียญวัด เผยเปิดพัดลมนอน พระมาเขย่าเรียกถึงกับช็อก พบนอนกลายเป็นศพ คาดเกิดจากอากาศร้อนจัด กรมสุขภาพจิตแนะคนไทยควบคุมอารมณ์จากอากาศร้อน เตือนอย่า หัวร้อน หงุดหงิดง่าย ด้านปภ.เผย 31 จังหวัดได้รับผลกระทบจากพายุฝนถล่มเสียหาย
          หนุ่มใหญ่ป่วยดับ-สังเวยร้อนจัด
          เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.กรชวัล จันทร์ศิริ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งจากพระสมชาย พระลูกวัดเขาน้อยว่า พบศพคนเสียชีวิตภายในวัดเขาน้อย หมู่ 1 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 21 เม.ย. จึงรายงานผู้บังคับปัญชาทราบแล้วรีบไปตรวจสอบ พร้อมตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี
          ตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตนอนอยู่ภายในห้องของเพิงพัก ด้านหลังศาลาการเปรียญ วัดเขาน้อย ลักษณะปลูกเป็นแบบเพิง ใช้เศษไม้เป็นฝาบ้าน มุงด้วยสังกะสี ทราบชื่อเล่นว่า นายตี๋ อายุ 50-55 ปี สภาพศพไม่สวมเสื้อ ใส่เพียงกางเกงขาสั้น นอนตะแคงเสียชีวิต ภายในห้องไม่พบสิ่งผิดปกติจากการต่อสู้หรือถูกทำร้ายร่างกาย พบเพียงพัดลม 1 ตัว ยังคงเสียบปลั๊ก เปิดใช้งาน โดยพัดลมยังเปิด ส่ายไปมาอยู่ข้างศพนายตี๋ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 4-5 ช.ม.
          พระสมชายเล่าว่า นายตี๋มาขออาศัยอยู่ที่วัดนานหลายเดือน บอกว่าป่วยเป็นโรคไต จนมีอาการท้องโต ระยะแรกนายตี๋จะช่วยพระหิ้วปิ่นโตออกบิณฑบาตตอนเช้า แต่ตอนหลังนี้ ป่วยหนักจนเดินไม่ค่อยไหว จึงไม่ได้ออกไปช่วยพระ อาตมานำข้าว ก้นบาตรมาให้นายตี๋กินทุกวัน สงสารที่ป่วย ก่อนพบว่าเสียชีวิต ตอนเช้าก็ยังเอาข้าวมาให้และยังพูดคุยกันอยู่เลย กระทั่งใกล้มืดได้ลงมาจากวัด เพื่อรดน้ำต้นไม้ใกล้กับที่พักของนายตี๋ จึงเรียกถามไถ่อาการตามปกติ แต่ตะโกนเรียกหลายครั้งก็ไม่มีเสียงตอบ อาตมาสงสัยจึงเดินเข้ามาดูในเพิงพัก นึกว่าหลับ จึงเข้ามาเขย่าตัว ต้องตกใจอย่างมาก พบว่านายตี๋เสียชีวิต
          คาดว่าผู้เสียชีวิตอาจเกิดอาการช็อกจากภาวะป่วยเป็นโรคไตจนท้องโตซึ่งเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับระยะนี้สภาพอากาศร้อนจัด แม้เปิดพัดลมช่วยคลายร้อนแล้ว แต่ร่างกายต้านทานไม่ไหว จึงเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ญาติไม่ติดใจถึงสาเหตุการ เสียชีวิต จึงมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
          เตือนพิษร้อน-คนหงุดหงิดง่าย
          วันเดียวกัน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า สภาพอากาศที่ร้อนจัด ในทางทฤษฎีถือว่ามีผลต่อสุขภาพจิตอย่างมาก ทำให้คนทั่วไปมีความหงุดหงิดง่าย ความอดทนต่อสิ่งต่างๆ ลดลง อาจจะทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันได้ง่าย ยิ่งในช่วงกลางคืนบางครอบครัวที่อาจจะไม่ได้ใช้เครื่องปรับอากาศ ทำให้นอนหลับไม่สนิทในช่วงกลางคืน หลับๆ ตื่นๆ พอพักผ่อนไม่เพียงพอก็ยิ่งหงุดหงิดง่ายขึ้น รวมถึงมีผลต่อสุขภาพกายโดยตรง คือร่างกายอ่อนเพลีย อ่อนล้าภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายอาจจะลดลงได้
          "จากการเก็บข้อมูลและเฝ้าระวังการฆ่าตัวตายของคนไทย พบว่ามีอัตราการฆ่าตัวตายสูงขึ้นในช่วงหน้าร้อนอย่างมีนัยยะ สิ่งสำคัญสภาพอากาศร้อน จะทำให้คนหงุดหงิดง่าย หัวร้อนง่าย ดังนั้นเวลาจะพูด หรือจะทำอะไรก็ขอให้คิดให้ดี ช้าๆ ลงอีกนิด" อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว
          พายุร้อนถล่ม 6 อำเภอพะเยา
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเย็นวันที่ 21 เม.ย. มีพายุฤดูร้อนพัดถล่มในหลายพื้นที่ของ จ.พะเยา มีฝนตกหนัก และมีลูกเห็บ ทำให้ต้นไม้หักโค่นขวางถนน หลังคาบ้านถูกลมพัดเสียหาย กระเบื้องมุงหลังคาแตกจำนวนมาก หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ประสานงานถึงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอน
          นายกร มหาวงศ์นันท์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) จ.พะเยา สรุปรายงานความเสียหาย ดังนี้มีพื้นที่ประสบภัย 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองพะเยา, อ.ปง, อ.ภูกามยาว, อ.เชียงคำ, อ.ดอกคำใต้ และ อ.จุน รวม 84 หมู่บ้าน 14 ชุมชน 290 ครัวเรือน ประชาชนประสบภัย 614 ราย เบื้องต้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละพื้นที่ประสนงานหน่วยงานราชการเพื่อเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว สำหรับกระเบื้อง สังกะสีมุงหลังคา ทาง อปท.ดำเนินการจัดหาและแจกจ่ายผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนซ้ำ ขณะที่หน่วยงานปกครองอำเภอ ทหาร ตำรวจจิตอาสาในชุมชน หมู่บ้านช่วยกันเก็บกวาดเศษกิ่งไม้ที่หักขวางถนน ซ่อมหลังคาให้ผู้ประสบภัยแล้ว
          ด้านนายสันติ สารเร็ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) แม่ใส อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา เปิดเผยว่า พายุฝนมาพร้อมกับลูกเห็บ ลมพัดแรงก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักในพื้นที่ มีหมู่บ้านประสบภัยได้รับความเดือดร้อน 4-5 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหายเนื่องจากหลังคาถูกลมพัดประมาณ 100 หลัง กระเบื้องมุงหลังคาเสียหาย 1,000 แผ่น โดยผู้นำหมู่บ้าน สมาชิกสภาอบต.แม่ใสร่วมกันสำรวจและช่วยเหลือเก็บซากต้นไม้เรียบร้อย และช่วงบ่ายวันที่ 22 เม.ย. ทาง อบต.เร่งจัดหากระเบื้องมาแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยทันที ขณะที่นายสุวิทย์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอเมืองพะเยา พร้อมหน่วยงานปกครองอำเภอ ทหาร ร.17 มทบ.34 ตำรวจและจิตอาสาในพื้นที่ร่วมกันมาแจกจ่ายกระเบื้อง ให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัย ทหารนำกำลังพลมาช่วยซ่อมหลังคาด้วย
          ฝนถล่มขอนแก่น-ลูกเห็บตก
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. เกิดพายุฤดูร้อนและฝนฟ้าคะนองตกลงมาอย่างหนักในหลายพื้นที่จ.ขอนแก่น มีพายุลูกเห็บ และลมกระโชกแรง ด้วยโดยเฉพาะในพื้นที่ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบว่าพายุลูกเห็บตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงบ่าย โดยส่วนใหญ่เป็นพายุลูกเห็บขนาดเล็กตกลงมาในหลายจุด ภายหลังจากมีอากาศร้อนอบอ้าวตลอดในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ขณะที่ชาวขอนแก่นที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ต่างพากันถ่ายคลิปภาพและภาพนิ่งโพสต์แจ้งเตือนกันในโซเชี่ยลมีเดียและเพจต่างๆ จำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนจะมีลูกเห็บตกลงมานั้น เกิดลมกระโชกแรง พัดทั้งป้ายโฆษณาและต้นไม้หักโค่น ล้มหลายจุดอีกด้วย
          พายุพัดคอนกรีตทับน.ร.อนุบาลดับ
          วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 17.30 น. เกิดเหตุพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงพัดถล่มหลายพื้นที่ของจ.ขอนแก่น โดยเฉพาะพื้นที่ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น แรงลมพัดหลังคา พื้นเพดานและพื้นคอนกรีตหลังคาอาคารเรียนสูง 3 ชั้น ของโรงเรียนอนุบาลเพ็ญบุรี ตั้งอยู่ริมถนนเลี่ยงเมืองสายขอนแก่น-นครราชสีมา ตรงข้ามเทศบาลตำบลบ้านเป็ด อ.เมือง ถล่มลงมาทับร่างของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลอายุ 4 ขวบเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อยอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจากศูนย์ตรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น กำลังตรวจหาสาเหตุหลังคาคอนกรีตถล่มลงมาครั้งนี้
          สอบถามครูที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีฝนตกหนัก มีลมกระโชกแรง ทำให้ไฟฟ้าในอาคารเรียนดับ เด็กที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ในห้องจึงพากันวิ่งออกมารวมกันอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ ซึ่งเป็นห้องโล่ง ไม่มีชั้นของอาคาร โดยจากพื้นห้องขึ้นไปจะเป็นหลังคาคอนกรีต จากนั้นได้ยินเสียงดังคล้ายฟ้าผ่าแล้วมีเศษคอนกรีต เศษกระจกพังถล่มลงมาทับร่างเด็กนักเรียนหญิงอายุ 4 ขวบเสียชีวิตคาที่
          ผู้ปกครองติดโรงเรียนและเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนหรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณจุดเกิดเหตุแต่อย่างใด ขณะที่ร่างของผู้เสียชีวิตนั้นครอบครัวได้มาติดต่อขอรับศพแล้ว
          นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ตนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนประชาชนทั้ง 26 อำเภอ ให้ระมัดระวังลมพายุพัดกระหน่ำในระยะนี้ และที่สำคัญคือการหลีกเลี่ยงการจอดรถ หรือยืนใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาขนาดใหญ่เพื่อหลบฝน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
          "ผมสั่งการไปยังผู้นำชุมชนทุกพื้นที่ให้เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดจากพายุใน วันนี้ เพื่อเร่งช่วยเหลือตามขั้นตอนโดยเร็ว ขณะเดียวกันยังคงต้องเฝ้าระวัง และจับตาดูสถานการณ์พายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ช.ม. เพื่อให้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย สามารถเข้าถึงพื้นที่และช่วยเหลือประชาชนให้เร็วที่สุด"
          ป้ายโฆษณาโค่นทับจยย.3คัน
          ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำอย่างหนัก หลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขตอำเภอเมืองมีลมกระโชกอย่างแรง ทำให้ป้ายโฆษณาโครงเหล็กขนาดใหญ่ ซึ่งติดตั้งบนหลังคาร้านแว่นท็อปเจริญ ถนนศรีเพชร ต.ในเมือง อ.เมืองพังลงมากีดขวางถนน และทับรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้บริเวณหน้าร้าน ได้รับความเสียหาย 3 คัน แต่โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
          หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปิดการจราจรถนนสายดังกล่าวเป็นการชั่วคราว เพื่อให้เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเก็บรื้อซากป้ายโฆษณาที่ถูกพายุพัดพังลงมาออกจากพื้นผิวจราจร
          สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีลมกระโชกอย่างแรง น่ากลัวมาก สักพักได้ยินเสียงดังโครมอย่างแรง และได้ยินเสียงพนักงานร้านแว่นท็อปเจริญกรีดร้องด้วยความตกใจ จึงวิ่งออกมาดู เห็นป้ายโฆษณาพังลงมาขวางถนนและทับรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย 3 คัน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นรถของตนเองด้วย ซึ่งปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดพายุถล่มอย่างหนักในเขตเทศบาลเมือง
          พายุถล่มลพบุรีบ้านพัง 20 หลัง
          ส่วนที่จ.ลพบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากอากาศร้อนจัดอุณหภูมิเกินกว่า 40 องศามาหลายวัน เมื่อค่ำวันที่ 22 เม.ย. เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในหลายพื้นที่ โดยที่ต.มหาโพธิ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี มีพายุลมแรงและฝนตก ทำให้บ้านเรือนราษฎรและวัดวาอารามหลังคาโบสถ์กระเบื้องปลิวว่อนได้รับความเสียหาย บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายกว่า 20 หลัง ชาวบ้านต้องอพยพตัวเอง
          หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่อำเภอสระโบสถ์ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เทศบาลตำบลสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นแล้ว
          ปภ.เผย 31 จว.โดนพายุร้อนถล่ม
          วันเดียวกัน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. ถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 31 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม, พิษณุโลก, ปทุมธานี, ร้อยเอ็ด, กำแพงเพชร, สกลนคร, ศรีสะเกษ, บุรีรัมย์, อุดรธานี, พิจิตร, บึงกาฬ, สุรินทร์, เชียงใหม่, เลย, น่าน, หนองคาย, ลพบุรี, อุบลราชธานี, หนองบัวลำภู, เพชรบูรณ์, แพร่, นครสวรรค์, นครราชสีมา, ลำปาง, อุทัยธานี, สุโขทัย, ขอนแก่น, พะเยา, นครพนม, ตาก และกาฬสินธุ์ รวม 142 อำเภอ 391 ตำบล 1,284 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 9,112 หลัง ผู้บาดเจ็บ 14 ราย ผู้เสียชีวิต 1 ราย
          "ปภ.ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของ บ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงิน ช่วยเหลือตามความเหมาะสม"
          นายชยพลกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าระยะนี้ประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ อาจเกิดพายุฤดูร้อนในลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ปภ.จึงขอฝากเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด
          ร้อนจัด-กห.คุมเข้มฝึกทหาร
          วันเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท. คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกำชับทุกเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญในการกำกับดูแล และกวดขันการฝึกทุกระดับของทหารและตำรวจ ในสภาพอากาศที่ร้อนจัดและอุณหภูมิที่สูงขึ้นในปัจจุบันอย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้เกิดปัญหาจากโรคลมร้อน หรือฮีตสโตรก
          "ขอให้ทั้งหน่วยฝึกและหน่วยรับการฝึกให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์ ในการป้องกัน เฝ้าระวังและการปฐมพยาบาลการบาดเจ็บจากความร้อนอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการฝึกทหารใหม่ที่จะมีขึ้นตั้งแต่ต้นพ.ค.เป็นต้นไป จำเป็นต้อง เตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจร่วมกัน ทั้งผู้ฝึกและผู้รับการฝึกในการปรับตัว ให้ครอบคลุมทั้งปัจจัยสภาพแวดล้อม การออกกำลังกาย และปัจจัยส่วนบุคคลในกลุ่มที่มีความเสี่ยง เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ไม่มีเหตุของการบาดเจ็บและเหตุเสียชีวิต พร้อมกันนี้ขอให้สถานพยาบาลของกองทัพทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมสนับสนุนการปฐมพยาบาลและรักษาพยาบาลกับประชาชนที่ได้รับผล กระทบจากโรคลมร้อนในชุมชนโดยรอบ พร้อมทั้งจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้คำแนะนำและบริการประชาชนเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังสุขภาพประชาชน จากปัญหาสภาพอากาศร้อนจัดที่เกิดขึ้น" พล.ท.คงชีพ กล่าว
          4 จว.ไทยร้อนติดอันดับโลก
          วันเดียวกัน เว็บไซต์ eldoradocountyweather.com รวบรวมข้อมูลอุณหภูมิของเมืองต่างๆ ทั่วโลก 15 อันดับแรก พบว่าไทยติดอันดับโลกถึง 4 จุด ประกอบด้วย อ.เถิน จ.ลำปาง อันดับ 5 อุณหภูมิ 43.5 องศา, เลย อันดับ 7 อุณหภูมิ 43.4 องศา, แม่ฮ่องสอน อันดับ 12 อุณหภูมิ 42.9 องศา, หนองบัวลำภู อันดับ 15 อุณหภูมิ 42.7 องศา
          ทั้งนี้พบว่าการที่อุณหภูมิสูงกว่าปกติ เนื่องจากปรากฏการณ์ "เอลนีโญกำลังอ่อน" ในเดือนมี.ค.-เม.ย.2562 เป็นกระบวนการความสัมพันธ์กันของทะเลกับอากาศ ซึ่งจะหมุนเวียนใต้ทะเลเป็นตัวการ มีการตรวจวัดออกมาเป็นดัชนี ถ้าบวกน้อย จะเป็นกำลังอ่อน ถ้าบวกมาก จะเป็นกำลังแรง เหมือน ปี 2559 ที่มีปรากฏการณ์ "เอลนีโญกำลังแรง" ทำให้อากาศร้อนที่สุดในประเทศไทย 44.6 องศาเซลเซียส ที่อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน


pageview  1205127    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved