นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้จากยานพาหนะ การเผาวัสดุการเกษตร ไฟป่า และกระบวนการอุตสาหกรรม ส่งผลให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ และปอดต่างๆ หากได้รับในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานจะสะสมในเนื้อเยื่อปอด ทำให้การทำงานของปอดเสื่อมประสิทธิภาพ ทำให้มีอาการหอบหืด และทำให้หลอดลมอักเสบ
          นายชาญยุทธ พรหมประพัฒน์ ผู้อำนวยการกองสุขศึกษา กล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวแนะประชาชนสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละอองอย่างถูกวิธี ด้วยการปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้ 1) ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ทุกครั้งก่อนสวมหน้ากากอนามัย 2) ใส่หน้ากากอนามัยโดยให้ด้านสีเข้มอยู่ด้านนอก 3) กดขอบลวดด้านบนให้พอดีกับสันจมูก 4) ดึงให้คลุมปลายคาง 5) หน้ากากที่ทำด้วยกระดาษใช้ครั้งเดียว ทิ้งในถังที่มีฝาปิดไม่นำกลับมาใช้ใหม่ 6) ในกรณีที่ใช้ผ้า ต้องซักให้สะอาดทุกครั้งก่อนนำมาใช้ใหม่ โดยต้องรับผิดชอบต่อสังคมเมื่อมีอาการป่วย ไอจาม ให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค ไม่ใช้รถยนต์ควันดำ ไม่เผาขยะในที่โล่งทุกประเภท และลดใช้รถยนต์ส่วนบุคคลให้ใช้รถสาธารณะแทน เพื่อลดควันในท้องถนน
          ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพที่น่าสนใจได้ที่เว็บไซต์คลังความรู้ด้านสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (http://healthydee.moph.go.th)