นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายนนี้ เป็น 7 วัน ที่ขอเน้นย้ำไปยังผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ให้ปฏิบัติตามกฎกติกาคือ ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งวันยกเว้นช่วงเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00- 24.00 น. เพราะหากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นพ.พรเทพกล่าวว่า ในช่วงสงกรานต์ปีนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ออกตรวจร้านค้าทุกพื้นที่อย่างเข้มงวด หากพบผู้กระทำผิดจะดำเนินการจับ ปรับ และขังจริง และขอย้ำว่าในสถานีบริการน้ำมัน สถานศึกษา และสถานที่สาธารณะ ห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด ซึ่งไม่ใช่เฉพาะช่วงสงกรานต์เท่านั้น แต่จะห้ามตลอดทั้งปี สำหรับร้านค้าที่อนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้นั้น ขอให้ยึดหลักห้ามจำหน่ายให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี

นพ.พรเทพกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ขอเตือนให้ระมัดระวังโรคในภาวะอากาศร้อน คือ 1.ภาวะจมน้ำโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กซึ่งปัจจุบันมีสถิติเสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 6 ราย ดังนั้น พ่อแม่ไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเล่นน้ำตามแหล่งน้ำตามธรรมชาติ เช่น ห้วย หนอง คลอง บึง หรือน้ำตก ตามลำพังแม้ว่าเด็กจะว่ายน้ำเป็น เพราะช่วงที่อากาศค่อนข้างร้อน หากแช่น้ำนาน 2-3 ชั่วโมง อาจเป็นตะคริวได้ สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้เด็กเล่นน้ำได้ควรมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ช่วยชีวิต เช่น เสื้อชูชีพ หรือแกลลอนผูกเชือกไว้กับเสาหลักบนฝั่ง เพื่อให้ง่ายต่อการดึงเด็กเข้าฝั่งเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และควรมีคนดูแลทุกจุดที่มีเด็กลงเล่นน้ำ 2.ลมแดด อากาศที่ร้อนมากควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8 แก้ว เมื่อต้องออกแดดควรสวมหมวกหรือกางร่ม หากพบผู้ป่วยโรคลมแดดให้ช่วยเหลือด้วยการคลายเสื้อผ้าเช็ดตัวด้วยน้ำเย็นภายใน 1 ชั่วโมง หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล 3.อาหารเป็นพิษ อาหารที่ทำทิ้งไว้เกิน 2-3 ชั่วโมง มีโอกาสบูดได้ง่าย ก่อนกินอาหารจึงควรสังเกตให้ดี 4.ตาแดง อาจเกิดขึ้นได้หากน้ำไม่สะอาดหรือน้ำจากคลอง คู บึง เข้าตา จึงควรเล่นสงกรานต์ด้วยน้ำประปาหรือน้ำจากแหล่งน้ำที่สะอาด
 

--จบ--