นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวในการเสวนา "ผ่าทางตัน ร้านเหล้ารอบสถานศึกษา" ว่า แนวทางที่จะให้รอบรั้วสถานศึกษาปลอดเหล้าได้ จะต้องให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือ ได้แก่ กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ดูแลเรื่องการออกใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งปัจจุบันสามารถขอได้ง่ายและโทษต่ำ กระทรวงมหาดไทย ดูเรื่องการขออนุญาตเปิดสถานประกอบการ หากมีการเล่นดนตรีหรือเต้นรำ ซึ่งพบว่าร้านค้าส่วนใหญ่ยังมีการละเมิด ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ที่ดูแล พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
พ.ศ.2551 มีกฎหมายเรื่องการลดแลกแจกแถม โปรโมชั่น และกำหนดอายุของผู้ซื้อ แต่ยังพบว่ามีการละเมิด และไม่มีการบังคับใช้จริง
"แม้ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยที่ดำเนินโครงการมหาวิทยาลัยปลอดเหล้าในรัศมี 300 เมตร นำร่อง 15 สถาบัน แต่ต้องดึงทุกหน่วยงานเข้ามาร่วมกันทำงาน โดยมีมหาวิทยาลัยเป็นเจ้าภาพ ควบคู่ไปกับการผลักดันให้รัฐบาลออกกฎหมายควบคุม จัดโซนนิ่ง แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลอ้างว่าจะเกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว"นายปริญญากล่าว และว่า การจัดระเบียบร้านเหล้ารอบสถานศึกษาหากจะให้ประสบความสำเร็จต้องบังคับใช้กฎกระทรวงการคลัง เรื่องข้อบังคับเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตขายสุรา เพราะ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ ไม่ได้ห้ามจำหน่ายรอบๆ คือบริเวณต่อเนื่องติดกับสถานศึกษา อย่างไรก็ตาม แนวทางที่เสนอต่อรัฐบาล คือ มาตรา 27 ข้อสุดท้าย ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องให้ความสำคัญ เพราะสามารถออกประกาศห้ามเพิ่มเติมได้
นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้มีกฎหมายที่ติดค้างคือ การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา การจำหน่ายเหล้าปั่น การติดฉลากที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การจำหน่าย
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนยานพาหนะ เนื่องจากคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มฯ ได้ถอนร่างกฎหมายออกมาจากคณะอนุกรรมการศึกษาผลกระทบฯ เพื่อปรับปรุงแก้ไข และเตรียมนำเสนอกฎหมายอีกครั้งพร้อมเพิ่มเติมกฎหมายในเรื่องสถานที่ห้ามจำหน่าย คือ ห้ามขายในโรงงานอุตสาหกรรม และห้ามขายในสนามกีฬาด้วย