HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 03/03/2555 ]
'เฉลิม'เข้มยาสูตรซูโดฯดีเอสไอเร่งสอบรพ.อุดร

'เฉลิม'สั่งจับตายาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีน หวั่นลักลอบใช้ผลิตยาเสพติด ขณะที่ ผอ.คดีความมั่นคง'ดีเอสไอ'นำทีมลงพื้นที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เก็บข้อมูลคดีเภสัชยักยอกยาต้องห้าม ก่อนตรวจสอบที่'รพ.ทองแสนขัน' หาความเชื่อมโยงเส้นทางยา
          เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบโรงพยาบาล (รพ.) ทั่วประเทศที่เข้าข่ายเบิกจ่ายยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนจำนวนมากจนผิดสังเกต เนื่องจากสามารถนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดได้ว่าจากการตรวจสอบขณะนี้ยังไม่พบโรงพยาบาลที่มีตัวเลขใช้ยามากเกินปกติเพิ่มเติม แต่ก็ยังให้ผู้ตรวจราชการ สธ.ที่รับผิดชอบแต่ละพื้นที่ลงตรวจสอบ หากมีความคืบหน้าใดจะแจ้งให้ทราบ
          ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่เกิดขึ้นกังวลหรือไม่ว่าโรงพยาบาลแต่ละแห่งจะยกเลิกการใช้ยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน และหันมาใช้เพียงยาสูตรเฟนิลเอฟรีนเท่านั้น นพ.ไพจิตร์กล่าวว่า จริงๆ ตัวยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทาง สธ.ไม่ได้สั่งห้ามใช้ในโรงพยาบาล เนื่องจากยังมีประสิทธิภาพ เพียงแต่ห้ามจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป ซึ่งตรงนี้ไม่อยากให้ตื่นตระหนก เพียงแต่ถ้าใช้ยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนก็ต้องมีการทำบัญชีเบิกจ่ายยาให้ถูกต้อง หากทำถูกทุกขั้นตอนก็ไม่ต้องกังวล ส่วนยาเฟนิลเอฟรีนนั้นเป็นอีกทางเลือก
          นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการ สธ. กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจคลังเก็บยาเสพติดของกลางว่า ขณะนี้โกดังเก็บยาเสพติดของกลางทุกประเภทมีประมาณ 25 ตัน จำนวน 130,000 คดีร้อยละ 80 เป็นยาบ้า โดยมีการจัดเก็บของกลางมิดชิด แต่ก็ยังมีความแออัดอยู่มาก ดังนั้น ในอนาคตหากเป็นไปได้อาจเสนอขอทำลายของกลางที่สิ้นสุดคดีแล้วบางส่วน เพื่อให้โกดังเก็บเบาบางลง อย่างไรก็ตาม เรื่องการขยับขยายคลังเก็บของกลางนั้น อาจจะต้องมีอย่างแน่นอนเพราะคดียาเสพติดมีการจับได้จำนวนมาก จำเป็นเก็บของกลางนั้น อาจจะต้องมีอย่างแน่นอนเพราะคดียาเสพติดมีการจับได้จำนวนมาก จำเป็นต้องสร้างคลังเพิ่มเติม
          นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ในปีงบประมาณ2556 อย.จะเสนอของบประมาณ 130 ล้านบาทเพื่อดำเนินการสร้างคลังเก็บยาเสพติดของกลางใหม่ โดยจะเพิ่มมาตรฐานที่ดีขึ้น เช่น อาจมีชั้นวางที่สะดวกต่อการจำแนกประเภท และป้องกันความชื้นอย่างดี รวมทั้งสามารถบรรจุของกลางได้ในปริมาณมากขึ้นกว่าคลังเดิมราว 3 เท่า หรือประมาณ 100 ตัน เนื่องจากคดียาเสพติดบางคดีต้องรออัยการสั่งพักคดี ในกรณีที่ยังไม่พบตัวผู้ต้องหาที่มีระยะเวลานานสูงสุดถึง 20 ปี ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับปรุงคลังเก็บของกลางก่อนเผาทำลาย ซึ่งหลังจากสร้างคลังใหม่เสร็จสิ้นแล้ว จะใช้คลังเก่าเก็บรักษาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และยาผิดกฎหมาย
          ผู้สื่อข่าวถามว่า ในอนาคตคลังใหม่จะเก็บยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนด้วยหรือไม่ นพ.พิพัฒน์กล่าวว่า ขณะนี้ยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนเป็นยาควบคุมพิเศษ แต่หากคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเห็นควรยกระดับเป็นยาวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ก็จะกลายเป็นสารเสพติด หากจับกุมยาดังกล่าวได้ก็จะต้องมาไว้ในคลังนี้เช่นกัน
          ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ สธ.เข้าตรวจสอบการเบิกจ่ายยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนของโรงพยาบาลต่างๆ ว่า เรื่องนี้ก็ระวังกันอยู่ เพราะเมื่อก่อนสารตั้งต้นมาโดยวิธีอื่น แต่ตอนนี้มีการลักลอบผ่านมากับยาแก้ไข้ ดังนั้น จึงต้องระวัง 2 ทาง คือไม่ให้สารตั้งต้นออกไป และดักจับยาเสพติดที่เข้ามา
          ที่ จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 09.30 น. วันเดียวกันพ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้อำนวยการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เดินทางเข้าพบ นพ.พิชาติ ดลเฉลิมยุทธนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อขอรับทราบข้อมูลที่นายสมชายแซ่โค้ว อายุ 41 ปี เภสัชกรชำนาญการ รพ.ศูนย์อุดรธานี เบิกจ่ายยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้า ออกจาก รพ.ศูนย์อุดรธานี และได้มีการแจ้งความดำเนินคดีในความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่และละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบยักยอกทรัพย์ยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนออกจากโรงพยาบาล รวมทั้งครอบครองและมีไว้เพื่อจำหน่ายยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท มีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด โดยมีการเรียกนายดำรงค์เกียรติ ตั้งเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรมรพ.ศูนย์อุดรธานี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชานายสมชายโดยตรงมาให้ข้อมูล พร้อมนำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติงานอยู่ห้องคลังเวชภัณฑ์ที่เป็นที่เก็บยาแก้หวัดดังกล่าวมาให้ปากคำด้วย โดยเกี่ยวข้องปฏิบัติงานอยู่ห้องคลังเวชภัณฑ์ที่เป็นที่เก็บยาแก้หวัดดังกล่าวมาให้ปากคำด้วย โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
          จากนั้น นพ.พิชาติได้นำคณะเจ้าหน้าที่ดีเอสไอตรวจสอบที่ห้องคลังเวชภัณฑ์ โดยใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 15 นาที พบว่าอยู่ชั้นล่างตึกเภสัชกรรม ตรงข้ามโรงอาหาร ใกล้ทางเดินไปยังที่จอดรถ ทำให้สามารถขนส่งเวชภัณฑ์ได้ในระยะทางประมาณ 100 เมตร
          พ.ต.ท.พงศ์อินทร์เปิดเผยภายหลังว่า ก่อนจะลงพื้นที่ทางดีเอสไอได้สืบสวนสอบสวนการทุจริตเบิกจ่ายยาก่อนหน้านี้แล้ว โดยมีข้อมูลส่วนหนึ่งในการทุจริตเบิกจ่ายยามีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งในส่วนของ รพ.ศูนย์อุดรธานี หรือที่ รพ.ทองแสนขันและโรงพยาบาลอื่น ดีเอสไอจะเดินทางไปตรวจสอบอีก โดยจะพยายามเชื่อมโยงข้อมูล ดูแผนประทุษกรรมว่ามีรูปแบบอย่างไร รวมถึงดูเส้นทางของยาแก้หวัดตัวนี้ที่เบิกเข้ามาและมีการจ่ายออกไปยังที่ใด นอกจากนี้ จะดูไปยังเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย
          "สำหรับในส่วนของนายสมชายหลังจากสอบถามข้อมูลจากทาง ผอ.โรงพยาบาลทราบว่าเปิดร้านขายยาที่อาจมีความเป็นไปได้ว่าจะนำยาไปใช้ที่ร้านของตัวเอง แต่ในชั้นสอบสวนของทางโรงพยาบาลที่รับสารภาพว่าได้นำยาตัวนี้ส่งให้กับบุคคลอื่นต่อ ดังนั้น จะนำเหตุการณ์และข้อเท็จจริงที่ได้รับมาเชื่อมโยงกัน หากสืบสวนไปแล้วพบว่ามีความเชื่อมโยงกัน หรือมีความซับซ้อน มีผู้เข้ามาเกี่ยวข้องอีก ก็ต้องนำเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่" พ.ต.ท.พงศ์อินทร์กล่าว
          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คณะเจ้าหน้าที่ดีเอสไอยังได้เข้าพบ นพ.สัญชัย ปิยะพงศ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เพื่อรับทราบข้อมูลในการเบิกจ่ายยาแก้หวัดของโรงพยาบาลในจังหวัด และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลว่า มีการเบิกจ่ายมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งได้เข้าพบ พ.ต.ท.มนัส อัดโดดดร พนักงานสอบสวนสภ.อุดรธานี เจ้าของคดี เพื่อขอทราบข้อมูลการสืบสวนสอบสวนทั้งหมด
          ทางด้าน นายธีระพงษ์ เอี่ยมอ่อน เภสัชกรระดับ 7 ประจำโรงพยาบาลทองแสนขัน ช่วยราชการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)อุตรดิตถ์ กล่าวกรณีถูกกล่าวหาลักลอบจำหน่ายยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน โดยสั่งซื้อจากบริษัทยาในนามโรงพยาบาลทองแสนขัน ซึ่งล่าสุดนพ.ขจร วินัยพาณิช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมนายพิทยา คชนิล นิติกรชำนาญการ สสจ.อุตรดิตถ์ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ว่า ยอมรับว่าช่วงนี้สภาพจิตใจค่อนข้างแย่ ตอนนี้พูดอะไรไม่ออก ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง สื่อมวลชนก็ทำหน้าที่ของจิตใจค่อนข้างแย่ ตอนนี้พูดอะไรไม่ออก ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง สื่อมวลชนก็ทำหน้าที่ของสื่อ หลังจากเรื่องนี้เกิดขึ้นก็ได้แต่นิ่งและสงบจิตใจยึดธรรมเข้าข่มด้วยการปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิถือศีลภาวนาจิตใจให้สงบนิ่ง เพื่อไม่ให้จิตใจฟุ้งซ่าน ในช่วงเช้าก็ทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์
          "ผมขอให้สภาพจิตใจดีขึ้นกว่านี้ แล้วจะให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกต่อเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดช่วงนี้ขอพักผ่อน เพราะสุขภาพร่างกายยังไม่พร้อม ทราบว่าในวันที่ 5-6 มีนาคม ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมลงพื้นที่มาสอบที่โรงพยาบาลทองแสนขัน ผมอยากไปให้การต้อนรับ แต่ติดขัดที่เข้าพื้นที่ไม่ได้ เพราะเป็นคำสั่งแต่ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือกับทางดีเอสไอสำหรับเรื่องทนายความต่อสู้คดี ตอนนี้ยังไม่คิดเพราะเหตุการณ์ยังไปไม่ถึง" นายธีระพงษ์กล่าว


pageview  1205099    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved