นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปางยอมรับคนลำปางป่วยด้วยโรคเรื้อรัง หรือโรคจากวิถีชีวิตมากขึ้นปี 2554 คนลำปาง อายุ 35 ปีขึ้นไป ป่วยด้วยโรคเบาหวาน 25,623 คน และเป็นโรคความดันโลหิตสูง 56,087 คน โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปี 2552-2553
          และจากผลการตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูงในกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป ในปี 2555 นี้ พบผู้ป่วยสูงถึง 193,071 คน จากการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพของจังหวัดลำปาง
          สาเหตุการเกิดโรคของกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ 5 ปัจจัยหลัก คือ
          1.การรับประทานอาหารรสหวาน จำพวกผลไม้หวานจัด เครื่องดื่มรสหวานเป็นประจำกว่าร้อยละ 90 อาหารมันจำพวกปรุงด้วยกะทิ เนื้อสัตว์ติดมัน ของทอดเกินกว่าร้อยละ 90 อาหารเค็มเติมน้ำปลา ซีอิ๊วเกือบทุกมื้ออาหารร้อยละ 80.56 กินผัก และผลไม้น้อยกว่า 5 วันต่อสัปดาห์ ร้อยละ 66.36
          2.ขาดการออกกำลังกายร้อยละ 7.29 3.มีความเครียด 4.สูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 9.16 และ 5.มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน
          จากปัญหาดังกล่าว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง จึงวางแผนแก้ไขป้องกันโรคระยะยาว 10 ปี ตามยุทธศาสตร์สุขภาพดีวิถีชีวิตไทย พ.ศ.2554-2563 เพื่อปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตคนลำปาง ให้ลดความเสี่ยงการเกิดโรค ลดปัญหาโรคแทรกซ้อน ลดความพิการ ลดการเสียชีวิต และลดค่าใช้จ่ายในการรักษา และจะมีการพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งอยู่ใกล้บ้านให้พร้อมที่สุด เพื่อสามารถให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในกลุ่มโรคดังกล่าว
          สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปางได้พัฒนาทีมจัดการสุขภาพตำบล ซึ่งเป็นกลุ่มแกนนำที่เป็นตัวแทนของภาคีเครือข่ายต่างๆ จากทุกอำเภอจำนวน 4,835 คน เข้ามาร่วมจัดระบบ ประสานติดตามผลการดูแลสุขภาพประชาชน โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อสม.จำนวน 18,565 คน เป็นแกนนำที่มีส่วนร่วมดูแลสุขภาพของเพื่อนบ้านคนละ 10-12 หลังคาเรือน โดยจัดกิจกรรมรณรงค์ตรวจคัดกรองเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย 625,895 คน  พร้อมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตามคำนำในการสร้างเสริมสุขภาพตามหลัก 3 อ.2 ส.ได้แก่ ออกกำลังกาย อาหาร อารมณ์ ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ และตรวจสุขภาพซ้ำปีละครั้ง