HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 13/03/2555 ]
คณะแพทย์มช.พร้อม เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ

 รองศาสตราจารย์นายแพทย์ นิเวศน์ นันทจิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
          การวางนโยบายและยุทธศาสตร์เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Medical Hub ให้ได้ภายในปี2553-2557 นับเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยยกระดับให้การแพทย์ของประเทศไทยให้พัฒนาขึ้น เพราะการที่ประเทศไทยจะเป็น Medical Hub ได้จะต้องสร้างมาตรฐานการดูแลรักษาพยาบาลและพัฒนาความก้าวหน้าทางการแพทย์ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศด้วย
          จังหวัดเชียงใหม่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ และอัตลักษณ์ล้านนาเป็นที่น่าชื่นชม เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพพร้อมที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการแพทย์ การศึกษา การเกษตร มีการคมนาคมสะดวก มีภูมิประเทศสวยงาม อากาศดีประชาชนมีจิตใจโอบอ้อมอารี เป็นมิตรกับผู้มาเยือน สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว และผู้ประสงค์จะพักอาศัยระยะยาวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้ง่าย ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีต่อการพัฒนาให้เป็นMedicaI Hub ที่มีศักยภาพ ประกอบกับในปัจจุบันมาตรฐานด้านการแพทย์ไทยไม่ได้ด้อยไปกว่าประเทศใดๆ
          ค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ยังถูกกว่าและยังมีคุณค่าเพิ่มเติมจากความมีน้ำใจและการมีใจรักการให้บริการของคนในประเทศไทยอีกด้วยทำให้แต่ละปีมีชาวต่างชาติใช้บริการการแพทย์ในเมืองไทยไม่ต่ำกว่าปีละ 4 ล้านคน และจะเพิ่มมากขึ้นหากมีการเร่งรัดการพัฒนา
          ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตระหนักถึงประโยชน์ในการยกระดับมาตรฐานการแพทย์ และผลกระทบทุกด้านที่เกิดขึ้นเช่นกันคณะได้พยายามหาทางออกที่เหมาะแก่การเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ให้บริการประชาชนทั่วภาคเหนือและกำลังจะก้าวไปสู่การเป็น Medical Hub
          ทางด้านนโยบายของคณะ ในเรื่องของMedicaI Hub นั้น คณะมีนโยบายในการพัฒนาMedicaI Hub ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือ โดยการส่งเสริมบทบาทของประชาชนในการดูแลรักษาสุขภาพของตนเองการให้ความรู้เรื่องพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่เหมาะสม การส่งเสริมให้โรงพยาบาลทุกระดับให้เป็นที่พึ่งเบื้องต้นแก่ประชาชน การฟื้นฟู อนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น การจัดส่งระบบผู้ป่วยไปกลับอย่างมีประสิทธิภาพและการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ให้มีความเชี่ยวชาญในระดับสูง สามารถให้บริการในระดับตติยภูมิได้เต็มความสามารถ สร้างความร่วมมือ
          และพัฒนาระบบเครือข่ายการให้บริการในMedicaI Hub กับทุกภาคส่วน ดังนี้
          1.ให้ความสำคัญต่อผู้ป่วยชาวไทยเป็นอันดับแรก คณะให้ความสำคัญต้องการสร้างเครือข่ายกับโรงพยาบาลทุกระดับพัฒนาการส่งต่อผู้ป่วยทั้งไปและกลับให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาพยาบาลร่วมกัน ตามศักยภาพที่เหมาะสมของโรงพยาบาลในแต่ละระดับ กระจายการบริการรักษาพยาบาลยังโรงพยาบาลทุกระดับและเปิดโอกาสให้คณะได้พัฒนาอาจารย์แพทย์เพื่อให้การรักษาพยาบาลในระดับตติยภูมิที่เต็มประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็สามารถเป็นพี่เลี้ยงแก่โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลชุมชนได้อย่างคล่องตัว
          2.คณะจะเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการการแพทย์ได้อย่างทั่วถึง มีทางเลือกที่เหมาะสม และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนในการดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง ได้แก่ การสร้างศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ทางเลือก และการแพทย์ผสมผสาน เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมบทบาทของภูมิปัญญาไทย สร้างศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่จะเข้าสู่ประชาคมผู้สูงอายุในเร็ววัน การให้ความรู้ในเรื่องพฤติกรรมการดำรงชีพ เช่น การรับประทานอาหารที่อาจเกิดโทษ การให้ความรู้เรื่องโภชนาการแก่ผู้ป่วยประเภทต่างๆ และมีการพัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีที่ทันสมัยไปในเวลาเดียวกัน
          3.คณะพัฒนาโรงพยาบาลของคณะ ให้มีความเป็นเลิศในหลายด้าน กล่าวคือ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่มีบทบาทส่งเสริมการเรียนการสอน การให้บริการแก่ประชาชนและเป็นศูนย์รวมของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขา ศูนย์ศรีพัฒน์มีบทบาทหลักในการให้บริการที่คล่องตัวและคุณภาพสูง และจัดสร้างศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อส่งเสริมการวิจัยเพื่อเป็นฐานของการพัฒนาด้านการแพทย์อย่างยั่งยืน
          4.คณะพร้อมที่จะพัฒนาตนเองไห้เป็นMedicaI Hub ที่มีลักษณะเฉพาะ มีมาตรฐานการรักษาพยาบาลสูง เป็นศูนย์กลางการแพทย์นานาชาติ ที่สามารถประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในภาครัฐและเอกชน พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และมีทิศทางการพัฒนาที่สอดรับกับทุกภาคส่วนในเชียงใหม่ต่อไป
          การพัฒนาเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการแพทย์(Medical Hub) เป็นหนึ่งในโครงการ สร้างเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางการแพทย์และศูนย์การผลิตและจัดส่งสินค้าทางการ เพื่อต่อยอดวิสัยทัศน์เชียงใหม่เมืองสร้างสรรค์หรือ Chiang Mai Creative City ให้ชัดเจนและเกิดประโยชน์อย่างแพร่หลายต่อประชาชนในอนาคตอันใกล้นี้.

          "ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตระหนักถึงประโยชน์ในการยกระดับมาตรฐานการแพทย์ และผลกระทบทุกด้านที่เกิดขึ้นเช่นกันคณะได้พยายามหาทางออกที่เหมาะแก่การเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ให้บริการประชาชนทั่วภาคเหนือและกำลังจะก้าวไปสู่การเป็น Medical Hub "


pageview  1205112    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved