HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 16/05/2556 ]
สตรีจิบชาดื่มกาแฟมาก เสี่ยง'โรค'หมอแนะวิธีแก้

 แพทย์เผยผู้หญิงอายุเพิ่มขึ้น จิบชา ดื่มกาแฟ/ช็อกโกแลตบ่อย เพิ่มปัจจัยเสี่ยงปัสสาวะเล็ด กลั้นไม่อยู่ ชี้แม้ไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต แนะฝึกขมิบลดการหย่อนคล้อย
          เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ผศ.นพ.พิชัย ลีระศิริ หัวหน้าหน่วยขับถ่ายปัสสาวะผิดปกติและกระบังลมหย่อนในสตรี ภาควิชาสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา  คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยระหว่างการอบรมโครงการ "เสริมสร้างความรู้โรคขับถ่ายปัสสาวะผิดปกติและกระบังลมหย่อนในสตรี" ว่า อาการปัสสาวะผิดปกติที่พบได้บ่อยมี 2 ลักษณะ คือ ปวดปัสสาวะกลั้นไม่ได้ ต้องเข้าห้องน้ำทันที และกลุ่มปัสสาวะเล็ดขณะไอหรือจาม ซึ่งปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ 1.อายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดการหย่อนของช่องคลอด 2.กรรมพันธุ์หรือมีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็น 3.พฤติกรรมส่วนตัว อาทิ ดื่มชา กาแฟ ช็อกโกแลต อ้วนเกินไป อยู่ในอุณหภูมิห้องแอร์ที่เย็นจัด ท้องผูกเรื้อรัง ไอจาม แบกของหนัก คลอดลูกมาก เป็นต้น
          "ส่วนสาเหตุสำคัญของโรคนี้ที่พบบ่อยคือ กระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ อาการกระบังลมหย่อน นอกจากนี้ ยังเกิดจากขาดฮอร์โมน หรือเคยได้รับการผ่าตัดในอดีต หรือเกิดจากมะเร็ง แต่เป็นสาเหตุที่พบได้น้อย สำหรับอาการปัสสาวะบ่อยจะขึ้นอยู่กับความรู้สึกของแต่ละคนว่าบ่อยแค่ไหนถึงเป็นการรบกวนการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งโดยปกติหากเป็นเวลากลางวันควรปัสสาวะประมาณ 7 ครั้ง และกลางคืนเมื่อหลับแล้ว ควรตื่นขึ้นมาปัสสาวะไม่เกิน 1 ครั้ง" ผศ.นพ.พิชัยกล่าว และว่า อุบัติการณ์ของโรคนี้ถือว่ามาก โดยจะพบมากขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น เฉลี่ยครึ่งหนึ่งของสตรีจะมีอาการปัสสาวะกลั้นไม่ได้หรือปัสสาวะเล็ดอย่างใดอย่างหนึ่ง
          ผศ.นพ.พิชัยกล่าว และว่า โรคนี้ไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต เพราะบางรายที่เป็นมากๆ จะไม่สามารถออกนอกบ้านได้ ต้องใส่ผ้าอ้อมตลอดเวลา ไม่สามารถทำงานได้ และไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ เนื่องจาก จะไปกระตุ้นอาการปวดปัสสาวะขึ้นมา แต่ ผู้ที่ป่วยโรคนี้ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยมาพบแพทย์ ทั้งนี้ ในการรักษาโรคดังกล่าวจะรักษาตามสาเหตุที่เป็น เช่น เกิดจากภาวะการติดเชื้อก็ฆ่าเชื้อ หากเกิดจากพฤติกรรมสุขภาพก็ให้ลดปัจจัยเสี่ยง นอกจากนี้ วิธีที่สามารถช่วยให้กลั้นปัสสาวะได้นานขึ้นคือ การขมิบบ่อยๆ ซึ่งจะเป็นการบริหารกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานให้แข็งแรงมากขึ้น หากสามารถทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอได้นาน 3-6 เดือน ผู้ป่วยจะสามารถกลั้นปัสสาวะได้ดีขึ้นเกือบเทียบเท่าคนปกติ หรือประมาณ 3 ชั่วโมง และป้องกัน ไม่ให้ช่องคลอดหย่อนมากยิ่งขึ้น และว่า หากกลั้นปัสสาวะไม่ควรนานเกิน 3-4 ชั่วโมง เพราะในบางรายอาจเกิดอาการปัสสาวะคั่งได้


pageview  1206051    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved