หมดเวลาสนุกแล้วสิ! ...กลับเข้าสู่โหมดทำงานเช่นเคย เชื่อว่าวันนี้สาวๆ คงกังวลกับเรื่องรูปร่างสัดส่วนพลางบ่นว่า กลับบ้านไปอ้วนขึ้นมาตั้งหลายกิโล บางคนก็หันไปเช็กตัวเองฉันอ้วนขึ้นมากมั้ย? เหตุเพราะกินสะบั้นหั่นแหลกช่วงหยุดยาว เมนูอาหารหวานคาว เหล้ายาปลาปิ้ง อะไรก็ตามที่กินได้เอาหมด
          การไม่ได้ออกกำลังกายรวมถึงรู้สึกขี้เกียจทำงาน เพราะว่างเว้นจากโต๊ะทำงานไปหลายวันจะหยิบจับอะไรก็เอื่อยเฉื่อยช้า เหล่านี้เป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้คนไทยเสี่ยงอ้วนลงพุง (Metabolic Syndrome) ง่ายมากๆ
          อ้วนลงพุงเป็นภาวะที่มีไขมันสะสมในช่องท้องหรืออวัยวะในช่องท้องมากเกินควรโดยทั่วไปเมื่อไขมันสะสมในร่างกายมากขึ้นจะถูกนำไปเก็บไว้ที่ชั้นใต้ผิวหนังรอบอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะส่วนช่องท้องและแผงโอเมนตัม (Omentum) เมื่อไขมันสะสมในช่องท้องมากๆ จะเห็นหน้าท้องยื่นออกมาอย่างชัดเจน
          การมีไขมันสะสมในช่องท้องถือว่าอันตรายมากเมื่อเทียบกับไขมันสะสมบริเวณอื่น เพราะจะสลายตัวเป็นกรดไขมันอิสระส่งผลให้กระแสเลือดมีกรดนี้เพิ่มขึ้น ยังยั้บกระบวนการเผาผลาญกลูโคสที่กล้ามเนื้อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ความดันโลหิตสูง ไขมันไปสะสมตามอวัยวะอื่นๆ จนเกิดไขมันพอกตัว มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวาน หัวใจ กรดไหลย้อนเสื่อมสมรรถภาพทางเพศตามมาได้
          เกณฑ์วัดอาการอ้วนลงพุงอย่างง่ายให้เอาส่วนสูง (ซม.) หารด้วย 2 ถือว่าเป็นเส้นรอบพุงปกติ เช่น ถ้าสูง 170 ซม. เส้นรอบพุงที่วัดผ่านสะดือต้องไม่เกิน 85 ซม. ของใครเกินจากนั้นเตรียมตัวเข้าโปรแกรมลดพุงกันได้เลย
          ผลสำรวจสถานการณ์สุขภาพคนไทยของ สสส. พบว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่พึงพอใจกับรูปร่าง ไม่มีความรู้ด้านโภชนาการ ฝันอยากออกกำลังกายแต่ไม่มีเวลา โรคอ้วนลงพุงจึงเป็นภัยเงียบที่กำลังทำร้ายสุขภาพคนไทยอย่างรุนแรง สืบเนื่องจากพฤติกรรมการกินที่เน้นบริโภคอาหารหวานมัน กินผักผลไม้น้อยลงไม่ออกกำลังกาย
          และมีข้อมูลน่าตกใจ คนไทยอ้วนติดอันดับ 5 ของแถบเอเชียแปซิฟิก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาร 4 ล้านคนต่อปี อัตราเสียชีวิตราว 20,000 คนต่อปี รัฐบาลต้องเสียค่าใช้จ่ายปีละ 100,000 ล้านบาท
          นัยสำคัญที่ปรากฏคือ คนเลี่ยงที่จะลดความอ้วนด้วยการออกกำลังกายทั้งที่เป็นการลดความอ้วนที่สร้างเสริมสุขภาพด้วย แต่เพราะข้ออ้างเหนื่อยบ้างไม่มีเวลาบ้าง คนเลยหันไปพึ่งยาลดน้ำหนักกันมาก จึงถือเป็นวิกฤตสุขภาพแล้วไทยเอ๋ย!        
          7 โรคร้ายคนไทยต้องระวัง
          เพื่อสุขภาพที่ดีควรหันมาทำกิจกรรมทางกายให้มากขึ้น เพราะการไม่ออกกำลังกายจะเพิ่มโอกาสการตาย โดยรวมและเพิ่มโอกาสเกิดโรค 7 โรค ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจตาย 1.45-2 เท่า โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต 1.6-2 เท่า
          มีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูง 1.5 เท่า โรคเบาหวาน 1.3-1.5 เท่าโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ 1.4-2 เท่า โรคมะเร็งเต้านม 1.1-1.3 เท่า และโรคกระดูกพรุน 1.8-2 เท่า มาออกกำลังกายกันเถอะครับเพื่อตัวคุณไม่ใช่เพื่อใคร!