ผศ.นพ.ณัทธร พิทยรัตน์เสถียร คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รพ.จุฬาลงกรณ์
พฤติกรรมขนาดไหนที่ควรมองว่า "ก้าวร้าว"
ก่อนจะพิจารณาว่าเด็กก้าวร้าวหรือไม่ ต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อนว่า "ก้าวร้าว" ในความหมายของผู้ใหญ่ คืออะไร และต้องประเมินว่าความก้าวร้าวนั้นรุนแรงระดับใด เช่น ก้าวร้าวทางคำพูด หรือ ก้าวร้าวทางพฤติกรรม และส่งผลกระทบโดยตรงกับใครบ้าง
ในการแยกเด็กที่ก้าวร้าวออกจากเด็กที่เล่นรุนแรงตามปกตินั้น ประเด็นสำคัญคือ ควรพิจารณาว่ามีการละเมิดสิทธิผู้อื่น หรือ ละเมิดกฎเกณฑ์ทางสังคมหรือไม่ ถ้ามี จำเป็นต้องควบคุมดูแล และสอนให้รู้ว่าพฤติกรรมเหล่านั้นไม่เหมาะสม และไม่ควรกระทำ
เด็กที่ก้าวร้าวอาจมีความเกี่ยวข้องกับ โรคทางจิตเวช เช่น เด็กสมาธิสั้นอาจมีพฤติกรรมเล่นรุนแรงและขาดการยั้งคิด หรือเด็กอาจจะเป็นโรคเกเร (conduct disorder) ซึ่งมีความก้าวร้าวโดยเจตนาและตั้งใจทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือบาดเจ็บ นอกจากนี้ โรคทางด้านอารมณ์อาจทำให้เด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น เด็กมีอาการซึมเศร้า แม้ไม่แสดงว่าเศร้า, หดหู่ หรือเก็บตัว แต่อาจหงุดหงิดง่าย ขี้โมโห และระบายอารมณ์อย่างรุนแรง
การเลี้ยงดูของปกครองอาจมีส่วนทำให้เด็กก้าวร้าวได้ เช่น เลี้ยงดูที่ใช้ความรุนแรงในครอบครัว ผู้ใหญ่โต้เถียง ทะเลาะเบาะแว้ง หรือทำร้ายร่างกายกันและเด็กเอาอย่าง หรือ ในเด็กที่ถูกทารุณกรรม ถูกทำร้ายร่างกาย หรือ ถูกลงโทษอย่างรุนแรง
ปัญหาความก้าวร้าวในเด็กเป็นปัญหาที่พบได้ในทุกช่วงอายุ เด็กที่ก้าวร้าวมีอายุมากขึ้นก็ยิ่งแสดงพฤติกรรมรุนแรงมากขึ้น เช่น ใช้อาวุธ หรือ รวมเป็นกลุ่มเป็นแก๊งกับเพื่อนก่อความรุนแรง การหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ตั้งแต่ในระยะแรกจึงมีความจำเป็นมาก เพราะช่วยลดความรุนแรงได้
ดังนั้น ผู้ปกครองต้องทำความเข้าใจที่มาของปัญหาก่อน เพราะโดยทั่วไปความก้าวร้าวในเด็ก มักเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน ควรประเมินเหตุปัจจัยรอบด้านว่า มีเหตุใดบ้างที่เกี่ยวข้อง การปรับการเลี้ยงดูมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง เช่น การที่ผู้ปกครองวางตัวอย่างสงบ ไม่ใช้ความรุนแรงเข้าไปเสริม การลงโทษอย่างรุนแรงในเด็กก้าวร้าวนั้นไม่ช่วยให้ดีขึ้น แต่ผู้ปกครองควรใช้วิธีกอดหรือจับให้เด็กหยุด แล้วให้เด็กสงบอารมณ์
หลังจากที่เด็กสงบแล้ว ควรพูดคุยกับเด็กถึงสาเหตุที่ทำให้ไม่พอใจ เพื่อให้ได้โอกาสระบายออกเป็นคำพูด และ ผู้ปกครองได้โอกาสแสดงความเข้าใจ แม้จะไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมนั้น