สธ.เตือนอย่าหลงเชื่อหมอพื้นบ้าน หรือรถเร่ขายยาลูกกลอนสมุนไพร ที่อ้างสรรพคุณรักษาสารพัดโรค ชี้พลาดพลังอาจถึงตาย
          นพ.ธวัชชัย กมลธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โรคไม่ติดต่อใน 8 จังหวัดภาคตะวันออกของไทยในปี 2554 มีผู้ป่วยโรคเรื้อรังเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกว่า 140,000 ราย มากสุดคือโรคความดันโลหิตสูงและมีแนวโน้มพบในความอายุน้อยลงเรื่อยๆ
          ทั้งนี้ ที่น่าห่วงคือมีผู้ป่วยในชนบทมักตกเป็นเหยื่อการโฆษณายาลูกกลอนสมุนไพร ที่ลักลอบขายในลักษณะรถเร่ หรือมีการแอบอ้างตัวว่าเป็นหมอพื้นบ้าน ยาจำพวกนี้มักใส่สารสเตียรอยด์ สารห้ามใช้ และอ้างสรรพคุณเกินจริงว่าสามารถรักษาได้สารพัดโรค ทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง ปวดเมื่อย ทำให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังหรือมีอาการปวดเรื้อรังรักษาไม่หาย
          อย่างไรก็ตาม ในชนบทหากใครมีอาการป่วยเหมือนกันหรือใกล้เคียงกันเมื่อไปกินยาแล้วอาการดีจะบอกต่อและกินตามกัน ถือว่าอันตรายมากเพราะการกินยาผสมสเตียรอยด์ระยะแรกอาการจะหายเร็ว แต่มีอันตรายสูงหากินต่อเนื่องอาจทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานได้
          นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานห้ามกินยาลูกกลอนเด็ดขาดจะทำให้อาการแย่ลงหรือเสียชีวิตได้ เนื่องจากสเตียรอยด์จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ยาที่แพทย์ให้ไปจะออกฤทธิ์ลดน้ำตาลได้น้อยหรือไม่ได้ผล ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาเร็วขึ้น เช่น ไตวาย โรคหัวใจ
          สำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงหากกินยาเข้าไปจะทำให้ปัสสาวะลดลงเกิดอาการบวมฉุตามอวัยวะต่างๆ เช่นใบหน้าจะบวมเป็นรูปวงพระจันทร์มีโหนกขึ้นที่หลัง ผิวหนังทั้งตัวบางลงเมื่อกินไปนานๆ จะทำให้มีแผลในกระเพาะอาหาร มีโอกาสติดเชื้อในกระแสเลือดสูง
          นอกจากนั้น หากินต่อเนื่องเป็นเวลานานและหยุดยากะทันหันจะทำให้เกิดภาวะช็อก เพราะต่อมหมวกไตไม่ทำงาน ปัญหานี้เคยเกิดขึ้นแล้ว ขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อโฆษณา หากพบมีการขายยาลูกกลอนสมุนไพรในหมู่บ้านขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านหรือ อสม.