ผลการวิจัยพบว่า เนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวน การแปรรูปมาแล้ว เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน และอื่นๆ เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผู้คนที่กินเข้าไปตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะตายตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาวกันได้
          โดยจากการวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารบีเอ็มซี เมดิซีน ที่สำรวจประชากรราว 500,000 คนทั่วยุโรป 10 ประเทศ เป็นเวลาเกือบ 13 ปีโดยเฉลี่ย ได้ผลสรุปว่า เนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมีส่วนเกี่ยวโยงกับโรคหลอดเลือดหัวใจ มะเร็ง และทำให้ตายเร็วขึ้น ทั้งนี้เป็นผลมาจากเกลือและสารเคมีที่ใช้เพื่อถนอมเนื้อสัตว์เอาไว้ ซึ่งอาจจะเป็นตัวทำลายสุขภาพของผู้ที่บริโภคเนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการมาแล้ว และคำแนะนำก็คือ ควรกินเนื้อสัตว์ให้น้อยลง
          ทั้งนี้ จากผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า คนที่กินเนื้อที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมาแล้วเป็นจำนวนมาก มักจะสูบบุหรี่มากกว่าคนปกติ อ้วน และมีพฤติกรรมอื่นๆ ที่เป็นการทำลายสุขภาพ แต่อย่างไรก็ตาม นักวิจัยระบุว่า แม้ปัจจัยอื่นๆ จะมีส่วนทำให้ตายเร็วอยู่แล้ว แต่เนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการแล้วก็ยังคงทำลายสุขภาพอยู่ดี
          ผลการวิจัยพบว่า ผู้ที่กินเนื้อที่ผ่านกระบวนการแปรรูปแล้ว มากกว่า 160 กรัมต่อวัน หรือประมาณไส้กรอก 2 ชิ้น และเบคอนสไลซ์ 1 ชิ้น มีความเสี่ยงที่จะตายเพิ่มขึ้น 44 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับผู้ที่กินแค่ 20 กรัม โดยในการวิจัยมีผู้ที่เสียชีวิตไป 1 ในทุกๆ 17 คน โดยเกือบ 10,000 คนเสียชีวิตจากมะเร็ง และอีกราว 5,500 คนเสียชีวิตจากปัญหาหัวใจ
          ศ.ซาบีน รอร์แมน จากมหาวิทยาลัย ซูริกกล่าวว่า ปกติการกินเนื้อในปริมาณมากๆ โดยเฉพาะเนื้อที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมาแล้ว ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว แต่หลังจากมีปัจจัยอื่นๆ เสริม อย่างเช่น การสูบบุหรี่ ความอ้วน และอื่นๆ ยิ่งทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้นในการกินเนื้อสัตว์แปรรูป และแม้ว่าจะเลิกสูบบุหรี่จะเป็นเรื่องที่ดูสำคัญกว่าการลดการกินเนื้อสัตว์ แต่ก็อยากแนะนำให้ทุกคนลดปริมาณการกินเนื้อสัตว์ลง