HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 11/03/2556 ]
'มะเร็งท่อน้ำดี' 'ภัยร้าย'ที่มาพร้อม'อาหาร'

 วัฒนธรรมการกินอาหารแบบสุกๆดิบๆ เป็นที่นิยมของคนอีสานโดยเฉพาะของโปรดปรานของใครหลายคนอย่าง "ปลาร้า" ที่หารู้ไม่ว่าในเนื้อปลาที่ไม่สุกนั้น มี "ระเบิดเวลา" อย่างพยาธิใบไม้ตับซุ่มรออยู่ ซึ่งแม้จะไม่ส่งผลในตอนกินทันที แต่เมื่ออายุเลยเลขหลัก 4 ไปแล้วนั่นแหละ เหล่าพยาธิใบไม้จะเริ่มแผลงฤทธิ์ อาจทำให้ผู้กินอาหารสุกๆ ดิบๆ เป็นโรค "มะเร็งท่อน้ำดี"
          จากสถิติตัวเลข เดิมมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 14,000 คน แต่ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาอย่างการทำอัลตราซาวน์ ทำให้รู้ว่าเป็นโรคมะเร็งท่อน้ำดี ตั้งแต่เริ่มแรก สามารถช่วยชีวิตได้ถึงปีละ 20,000 คน
          และนอกจากนี้ ภาครัฐเองได้ลงมาช่วยเหลือสร้างเครือข่ายและกำหนดยุทธศาสตร์ "กำจัดพยาธิใบไม้ตับ ลดมะเร็งท่อน้ำดี วาระคนอีสาน" ในสมัย นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบนโยบายรณรงค์ให้คนอีสานปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร และการผ่าตัดรักษาฟรีในโรงพยาบาล 15 แห่ง
          จากตัวเลขการเสียชีวิตที่เปรียบได้กับเครื่องบินตกปีละ 100 ลำ เริ่มลดลง
          นอกจากนี้ ยังมีการตั้ง มูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี โดยมีผู้มีส่วนร่วมสู้โรคร้ายหลายคน อาทิ พญ.เนตรเฉลียว สัณฑ์ทักษ์ ประธานกรรมการมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี นพ.ณรงค์ ขันตีแก้ว รองประธานกรรมการมูลนิธิ สุพล พันธุมโน ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลแรงงาน อดีตประธานศาลอุทธรณ์ และกรรมการมูลนิธิ ขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษามูลนิธิ
          มีโอกาสได้รับความรู้เรื่อง "มะเร็งท่อน้ำดี" จากรองประธานกรรมการมูลนิธิ
          นพ.ณรงค์เล่าถึงโรคมะเร็งท่อน้ำดี ว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนอีสานที่มากที่สุดโรคหนึ่งที่มีมาตั้งแต่ 40-50 ปีที่ผ่านมา ปีละ 10,000-20,000 ราย สาเหตุมาจากการรับประทานปลาดิบ ซึ่งมีพยาธิใบไม้ตับ คนส่วนใหญ่รับประทานก้อยปลา วงศ์ปลาตะเพียน ซึ่งมีตัวอ่อนพยาธิอยู่ใต้เกล็ดหรือเหงือกของปลา
          เพราะความเข้าใจผิด ชาวบ้านมักคิดว่าการบีบมะนาวหรือทานกับเหล้าจะทำให้ปลาสุก และสามารถฆ่าพยาธิได้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะพยาธิจะเข้าไปอยู่บนทางเดินน้ำดี แฝงฝังอยู่ประมาณ 20 ปี ถึงจะเกิดเป็นมะเร็ง
          โดยเฉพาะพยาธิที่อยู่ร่วมกับสารไนโตซามีน ที่อยู่ในปลาร้า ปลาแจ่ว ปลาจ่อม หรืออาหารหมักดอง จะกระตุ้นให้เกิดมะเร็งได้เร็วขึ้น
          นพ.ณรงค์บอกต่ออีกว่า เคยมีชาวต่างชาติเคยขนานนามว่า ขอนแก่นเป็นเมืองหลวงของมะเร็งท่อน้ำดี มีสถิติผู้ป่วย 100-150 ต่อวัน หรือ 20,000-25,000 รายต่อปี ถือว่ามีจำนวนมาก
          "คนที่เป็นมะเร็งท่อน้ำดีจะอายุ 40 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิงในอัตราส่วน 3 ต่อหนึ่ง หัวหน้าครอบครัวจะเสียชีวิตก่อน พอลูกเริ่มโต ก็จะมาเสียชีวิตด้วยโรคนี้ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต
          "คนส่วนใหญ่เมื่อมีอาการแล้วจะมาพบแพทย์เมื่อตัวเหลือง ตาเหลือง ตับโต แต่รักษาไม่ทัน แต่ถ้าเรารู้อาการตั้งแต่แรก อัตราตายก็จะน้อยลง เดี๋ยวนี้ผ่าตัดแล้วจะสามารถอยู่รอดได้ถึง 5 ปี ถือว่าการรักษามีประสิทธิภาพ และในปัจจุบันการรักษามะเร็งท่อน้ำดี ดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการตัดตับออกชิ้นหนึ่งซ้ายหรือขวา แล้วก็ต้องตัดทางเดินน้ำดีออกทั้งหมด ทำใหม่โดยการใช้ลำไส้ มาทำท่อน้ำดีให้ ส่วนตับที่ถูกตัดไปสามารถงอกกลับมาใหม่ ภายใน 1 ปี" นพ.ณรงค์กล่าว
          แม้จะมีเทคโนโลยีการรักษาสมัยใหม่ แต่การป้องกันไว้ก่อนก็เป็นหนทางที่ดีกว่า
          เรื่องการกินอาหารสุกๆ ดิบๆ จึงต้องมีการรณรงค์และสื่อสารกันมากขึ้น อีกทั้งเรื่องการรักษา ประชาชนที่ป่วยไม่ได้รับข้อมูลที่แท้จริง เข้าใจว่าเมื่อป่วยแล้วตายสถานเดียว จึงต้องเร่งทำการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในเรื่องเหล่านี้
          เพราะโรคมะเร็งท่อน้ำดีสามารถรักษาหายได้ถ้าพบโรคได้เร็วอย่างที่ผ่านมา โรงพยาบาลศรีนครินทร์ สามารถรักษาด้วยการผ่าตัด ช่วยชีวิตได้ปีละกว่า 200 ราย
          นพ.ณรงค์ทิ้งท้ายว่า ตอนนี้พบว่ามีคนที่เป็นพยาธิใบไม้ตับในอีสานประมาณ 6 ล้านคน แต่คนที่เกิดมะเร็งยังไม่พบอาการตอนที่พยาธิเข้าสู่ร่างกาย แต่จะมีเวลาฝังตัวของพยาธิ ประมาณ 20 กว่าปี อายุที่เหมาะสมที่จะไปตรวจคือช่วงอายุ 40 ปี เป็นช่วงที่เริ่มเกิดโรค สำหรับอาการที่เป็นสัญญาณบอกว่าเป็นมะเร็งท่าน้ำดี คือ ตาเหลือง คันผิวหนังทั้งตัว ควรไปตรวจ โดยจะเสียค่าใช้จ่ายไม่มาก ประมาณ 600-1,000 บาท ซึ่งเครื่องอัลตราซาวด์สามารถบอกการเกิดอาการของโรคได้ก่อน 6 เดือน
          สำหรับที่มาของการตั้ง มูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดีซึ่งได้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ.2555
          รองประธานกรรมการมูลนิธิ บอกถึงจุดประสงค์ว่า ถ้าหากเราไม่พยายามให้ทางราชการเข้าใจ และเข้ามาช่วย คนที่เสียประโยชน์คือประชาชน ที่สำคัญที่สุดคือต้องรณรงค์ให้จริงจัง ก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำต่อเนื่องมันก็หายไป ประกอบกับพฤติกรรมของคนที่อยู่ในอีสานก็ยังรับประทานอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะเปลี่ยนความคิดตรงนี้
          "ทางมูลนิธิเองหวังว่าจะได้รับการสนับสนุน ดังก่อนหน้านี้ที่ประกาศเป็นวาระอีสาน รณรงค์ตรวจอัลตราซาวด์ในกลุ่มเสี่ยง อายุ 40 ปีขึ้นไป ให้มาตรวจพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งได้ผล" นพ.ณรงค์กล่าวด้าน สุพล พันธุมโน ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลแรงงาน อดีตประธานศาลอุทธรณ์ กรรมการมูลนิธิบอกว่า เป็นคนอีสาน ได้เห็นคนเสียชีวิตเพราะโรคนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า รวมทั้งพี่สาวของตัวเองด้วย นอกจากนี้ยังมีญาติเป็นหมออีกท่านซึ่งคลุกคลีกับโรคนี้มาก จึงเห็นว่าการตั้งมูลนิธินี้ขึ้นมาจะเป็นการให้ความรู้ได้อย่างชัดเจน และต่อเนื่องกับประชาชน เพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการกินปลาดิบ และรณรงค์ให้การตรวจอัลตราซาวด์ได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐ
          "เราจะสามารถป้องกันการเกิดโรคได้ หรือคนที่เป็นแล้วก็รักษาได้ ถ้าลดอัตราการตายหรือการเกิดโรคได้ ก็จะเกิดประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต" สุพลกล่าวทั้งนี้ สามารถร่วมสมทบเพื่อสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิ ที่บัญชีออมทรัพย์"มูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี" ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น เลขที่ 551-427863-2 และธนาคารกสิกรไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น เลขที่ 549-2-13194-8
          เพื่อจัดการ "ภัยร้าย" อย่าง "มะเร็งท่อน้ำดี" ให้หมดสิ้นไป
 


pageview  1205167    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved