หมอแอร์ โฆษกตำรวจออกโรงเตือนคู่รักหนุ่มสาว อย่าไปจู๋จี๋ในสาธารณะยามค่ำคืน เสี่ยงถูกทำร้ายและเสียตัว
          พ.ต.ท.พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือหมอแอร์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยว่า วันวาเลนไทน์เข้าใจว่าคู่รักหลายๆ คู่มักถือโอกาสนี้ออกไปเดตจู๋จี๋นอกสถานที่กันตรงนี้ก็ต้องระมัดระวังให้ดี การไปจู๋จี๋ยามค่ำคืนตามที่สาธารณะ เช่นสวนสาธารณะก็ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะโจรอาจจ้องอยู่โดยปรากฎเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง โจรทำร้ายคู่รักที่มาจู๋จี๋กันในที่สาธารณะยามค่ำคืน โดยทุบผู้ชายแล้วข่มขืนผู้หญิง
          นอกจากนั้น การแต่งตัวออกนอกบ้านก็ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่ควรเป็นตู้ทองเคลื่อนที่ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจล่อตาล่อใจโจรได้ และการไปไหนมาไหนคนเดียวยามค่ำคืนโดยเฉพาะผู้หญิงก็ไม่ควรอย่างยิ่ง รวมถึงการไปเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืนก็ให้ระวังคนแปลกหน้าที่เข้ามาตีสนิท อาจประสงค์ร้ายทำการมอมยา รูดทรัพย์หรือถึงขั้นทำให้เสียสาวได้
          ทั้งนี้ จำให้ขึ้นใจ ใครที่เอาอะไรมาให้ดื่มหรือกินก็ต้องระมัดระวังให้ดี สุดท้าย คือ การไม่ดื่มของมึนเมาจนไม่ได้สติ เพราะถ้าเมามายชนิดหัวราน้ำแล้ว จะถือเป็นการเปิดประตูเชื้อเชิญชั้นดีให้พวกโจรเข้ามา รวมถึงอุบัติเหตุร้ายๆ จะตามมาด้วย เช่น เมาแล้วขับ เป็นต้น
          ด้าน น.ส.ธนวดี ท่าจีน ผอ.มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า วันวาเลนไทน์วัยรุ่นจะทำอะไรโดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์ก็ขอให้มีความระมัดระวัง หากเกิดอะไรขึ้นโดยเฉพาะการตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์ทั้งที่ยังไม่พร้อม จะถือเป็นการรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้น ขอให้คิดมากๆ
          อย่างไรก็ตาม จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขได้สำรวจข้อมูลที่น่าตกใจพบว่า เด็กผู้หญิงอายุต่ำกว่า 18 ปีตั้งท้องเฉลี่ย 336คน/วัน ตรงนี้ถือเป็นบทเรียนที่เราต้องมาคิดวิเคราะห์ว่าเกิดอะไรขึ้นกับวัยรุ่นไทย มีความพร้อมแค่ไหนก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ ป้องกันดีหรือไม่ การมีสติถือเป็นสิ่งสำคัญการมอบความรักให้ซึ่งกันและกันไม่ใช่เรื่องผิดแต่ต้องรู้จักป้องกัน