นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีด่านอาหารและยา 44 แห่งใน 41 จังหวัด ทำหน้าที่ตรวจสอบสินค้านำเข้าส่งออก รวมทั้งการตรวจจับไม่ให้มีการลักลอบขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ปัญหาคือ ยังขาดกำลังคนที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบอาหารและยา เพราะมีข้าราชการด่านอาหารและยาเพียง 41 คน นอกนั้นเป็นลูกจ้าง แบบจ้างเหมาจำนวน 88 คน ซึ่งแตกต่างจากลูกจ้างชั่วคราวรายปี เพราะลูกจ้างแบบจ้างเหมาจะทำงานเป็นครั้งๆ ที่สำคัญลูกจ้างกลุ่มนี้ไม่มีอำนาจในการจับกุมหากพบการกระทำผิดกฎหมาย ทำให้ต้องมีข้าราชการประกบคู่อีก 1 คนเสมอ ดังนั้น กำลังคนจึงเป็นเรื่องสำคัญ เบื้องต้นต้องมีอีกประมาณ 173 คน จะมีการเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พิจารณาในเร็วๆ นี้
          นพ.บุญชัยกล่าวว่า การเพิ่มกำลังคน นอกจากจะช่วยสอดส่องดูแลสินค้าเข้าออกตามแนวชายแดนต่างๆ แล้ว ยังเป็นการเตรียมพร้อมในการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 เพราะสินค้าจะทะลักมากขึ้น เมื่อมีกำลังคนเพียงพอก็จะช่วยได้ นอกจากนี้ อย.ยังร่วมกับกรมศุลกากรในการอำนวยความสะดวกด้านศุลกากรด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้การตรวจสอบสินค้านำเข้าและส่งออกเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยผู้ประกอบการที่ต้องการนำเข้าหรือส่งออก สามารถเข้าไปในระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลกากรได้ เบื้องต้นได้ทดลองในสินค้านำเข้าประเภท เครื่องสำอาง และคาดว่าในเดือนเมษายน 2556 นี้ จะเริ่มใช้ในวัตถุอันตราย และจะใช้ให้ครอบคลุมทั้งหมดภายในปีนี้
          "นอกจากนี้ อย.ยังต้องปรับปรุงกฎหมายภายในด้วย เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข พ.ร.บ.3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2535 และ พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ซึ่งคาดว่าหากมีผลบังคับใช้ จะช่วยให้การดำเนินการรองรับการเปิดอาเซียนมีความพร้อมและประสิทธิภาพมากขึ้น" นพ.บุญชัยกล่าว