สิ่งสำคัญต่อการเจริญเติบโตทั้งร่างกายและสมองคือการได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน โดยเฉพาะวัยเด็กอายุ0-6 ขวบ นอกจากต้องรับประทานอาหารในมื้อหลักให้ครบ 3 มื้อแล้ว ก็ควรมีอาหารระหว่างมื้อที่ครบถ้วนคุณประโยชน์อีกด้วย
ธีระชัย เลาก่อสกุล ผู้จัดการอาวุโส แผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด บอกว่า เด็กๆ ต้องการแคลเซียมมากกว่าวัยผู้ใหญ่เพื่อนำมาเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่กระดูก ฟัน และส่วนอื่นๆ ซึ่งเด็กอายุระหว่าง 1-10 ปี ควรได้รับแคลเซียม 800-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน จากการศึกษาพบว่าถ้าปริมาณแคลเซียมในร่างกายเด็กต่ำจะทำให้กระบวนการสะสมเกลือแร่ในกระดูก และความหนาแน่นของกระดูกต่ำ เป็นผลให้เกิดโรคกระดูกอ่อน หรือโรคกระดูกค่อมงอได้ส่งผลต่อการนั่ง คลานเดิน จะทำได้ช้า กระดูกขาของเด็กที่ได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอเมื่อรับน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นตามอายุเป็นผลให้ขาโก่ง กระดูกซี่โครงโค้งงอ กระดูกเชิงกรานมีรูปร่างผิดปกติ ซึ่งอาการนี้เมื่อเกิดขึ้นกับเด็กแล้ว ไม่สามารถรักษาให้หายคืนปกติได้
ด้านคุณแม่รัตนา เพ็ญกิจ ของลูกแฝด 2 คน น้องเพียง อายุ 3 ขวบและน้องขนุน อายุ2 ขวบ บอกว่า เมื่อก่อนลูกไม่ค่อยชอบดื่มนม จึงต้องให้ทั้ง2 คน ดื่มนมเปรี้ยวโดยนำมาทำเป็นอาหารว่าง เช่น แช่แข็งให้เป็นเหมือนไอศกรีม น้องๆทั้ง 2 คนชอบมากเพราะอร่อยและมีให้เลือกหลายรสชาติ พอเติมผลไม้และถั่วนานาชนิดเข้าไปยิ่งทำให้ได้สารอาหารที่มีประโยชน์เพิ่มมากขึ้น
ส่วน ดร.จินตนันท์ชญาต์ร ศุภมิตรคุณแม่ของน้องเฟธเล่าว่า นมเป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมมากที่สุดและยังถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี ซึ่งเด็กๆต้องได้รับปริมาณแคลเซียมต่อวันที่เพียงพอ เพื่อให้ลูกน้อยมีภาวะโภชนาการที่ดีและถูกต้อง คุณพ่อคุณแม่จำเป็นจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องอาหารที่รับประทาน การปรับกิจวัตรประจำวัน และการออกกำลังกายให้เหมาะสมควบคู่กันไปด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงโรคอ้วนหรือภาวะผอมซึ่งอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการต่อไปในอนาคต
บริโภคอย่างเหมาะสมและออกกำลังกาย ช่วยให้เด็กๆสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์