HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 04/01/2556 ]
เหนือ-อีสานลดอีก3องศา พ่อเฒ่าที่สุรินทร์หนาวตาย

 นราธิวาสเจอคลื่นลมแรง ชาวประมงออกฝั่งไม่ได้ส่งผลอาหารทะเลขึ้นราคา นายอำเภอตรังสั่งกำนัน-ผญบ. เฝ้าระวัง 24 ชม. หวั่นน้ำท่วมอากาศหนาวจีนมาอีกระลอก
          กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 3 มกราคม ว่า บริเวณกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในช่วงวันที่ 3-4 มกราคม ทำให้บริเวณดังกล่าวกลับมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสโดยเริ่มจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผล กระทบในระยะต่อไป
          สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปยังคงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือยังต้องเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือต่อไปอีก 1 วัน
          นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวขึ้นในบางพื้นที่ของประเทศ ว่า จากสภาพอากาศที่เย็นลงย่อมส่งผลต่อสุขภาพ โรคที่พบบ่อยยังเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ กลุ่มติดเชื้อไวรัส คือ โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ ทั้งนี้ สำหรับจำนวนผู้ป่วยนั้นไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา เรียกว่าการป่วยด้วยโรคหวัดยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่บางคนอาจมีภาวะป่วยนานขึ้นหรือบ่อยขึ้น ยกตัวอย่าง บางคนที่ป่วยนานขึ้นเป็นเพราะร่างกายอ่อนแอ ประกอบกับสภาพอากาศหนาวเย็นจะทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจแห้ง โอกาสติดเชื้อจึงง่าย
          นพ.โอภาสกล่าวอีกว่า ส่วนบางคนพบว่าป่วยเป็นหวัดบ่อยขึ้นนั้น จากปกติจะป่วยประมาณ 2-3 วัน อาการจะดีขึ้นและหายเป็นปกติ แต่พบว่ากลับมาป่วยอีกครั้งเพราะเกิดจาก 2 กรณี คือ 1.จากสภาพอากาศหนาวเย็น เมื่อได้รับเชื้อหวัดครั้งหนึ่งอาจไปกระตุ้นทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ 2.อาจมาจากการติดเชื้อไวรัสชนิดอื่น ซึ่งไม่ต้องกังวลไม่ใช่เชื้ออาจไปกระตุ้นทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ 2.อาจมาจากการติดเชื้อไวรัสชนิดอื่น ซึ่งไม่ต้องกังวลไม่ใช่เชื้อใหม่ ส่วนใหญ่ยังเป็นเชื้ออาร์เอสวี (Respiratory Syncytial virus : RSV) เพียงแต่อาจไปติดเชื้อย่อยๆ ก็อาจติดได้อีก เพราะโดยปกติเมื่อร่างกายรับเชื้อชนิดใดจะสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันเชื้อดังกล่าวไม่ให้ป่วยซ้ำ ส่วนโรคไข้หวัดใหญ่ยังคงเป็นเชื้อสายพันธุ์เดิม มีไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ สายพันธุ์เอช 1 เอ็น 1 และชนิดเอ สายพันธุ์เอช 3 เอ็น 2 และไข้หวัดใหญ่ชนิดบี ซึ่งเชื้อยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะเปลี่ยนในช่วงกลางปีนี้ เนื่องจากเชื้อไข้หวัดใหญ่จะเปลี่ยนสายพันธุ์ทุก 2-3 ปี จึงเป็นรอบการเปลี่ยนแปลงพอดี ทั้งนี้ ไม่ต้องกังวล ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ แต่คาดว่าจะเป็นสายพันธุ์เก่าที่เวียนกลับมา ซึ่งการเกิดไวรัสหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย
          ผู้สื่อข่าวถามว่า พบผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวหรือไม่ นพ.โอภาสกล่าวว่า ตามหลักทางการแพทย์ ขณะนี้ยังไม่พบว่าเสียชีวิตจากภัยหนาว แม้จะมีรายงานเข้ามาให้ตรวจสอบ แต่พบว่าไม่เป็นไปตามคำนิยาม คือ หากเสียชีวิตจากภัยหนาว ต้องอยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส และไม่สวมเสื้อผ้า แต่ส่วนใหญ่เบื้องต้นพบว่าเสียชีวิตจากโรคประจำตัว และดื่มเหล้ามากเกินไป ขณะเดียวกันไม่สวมเสื้อผ้า ทำให้ร่างกายเย็น เกิดอาการช็อก เป็นต้น
          นพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลพบว่าประชาชนป่วยไข้หวัดใหญ่ด้วยเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ สายพันธุ์เอช 3 เอ็น 2 มากที่สุดในหน้าหนาว คือ ร้อยละ 20-30 รองลงมาคือ ไข้หวัดใหญ่ 2009 หรือสายพันธุ์เอช 1 เอ็น 1 ประมาณร้อยละ 15 เชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดบี อีกร้อยละ 12-17 ส่วนเชื้อไวรัสอาร์เอสวี พบไม่เกินร้อยละ 10 ถือว่าการป่วยไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ในช่วงหน้าหนาวไม่รุนแรง
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลสำนักระบาดวิทยารายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-7 พฤศจิกายน 2555 ทั้งสิ้น 54,580 ราย เสียชีวิต 2 ราย
          วันเดียวกัน ที่จังหวัดสุรินทร์ ร.ต.อ.สมนึก บูรณ์เจริญ พนักงานสอบสวน สภ.ปราสาท จ.สุรินทร์ รับแจ้งคนนอนตายที่บ้านเลขที่ 88/1 บ้านโคกลาว หมู่ 9 ต.หนองใหญ่ อ.ปราสาท หลังรับแจ้งรุดไปตรวจพบร่างคนนอนตัวแข็งตายในห้องทราบชื่อ นายปริน เข็มทอง อายุ 64 ปี ในชุดนุ่งผ้าขาวม้า สวมเสื้อยืด สภาพศพเริ่มแข็งไม่พบบาดแผลและถูกทำร้าย สันนิษฐานตายเพราะอากาศเย็น
          สอบสวนทราบว่า ช่วงค่ำสภาพอากาศหนาวเย็น น้ำค้างลงมาก นายปรินและนางอำไพ สองสามีภรรยา หลังทานข้าวเย็นเสร็จพากันเปิดทีวีนั่งดูข่าวภาคค่ำและดูละครตามปกติ จากนั้นนางอำไพ ภรรยาได้เข้านอนก่อน ส่วนนายปริน สามีได้เปิดดูหนังทางทีวีดาวเทียมอยู่ตามลำพัง กระทั่งรุ่งเช้า นางอำไพตื่นขึ้นมาหุงข้าว เห็นนายปรินนอนตัวแข็งตาย จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยทำให้เกิดคลื่นลมแรงชาวประมงไม่สามารถออกไปจับสัตว์น้ำในทะเลได้ เนื่องจากมีสภาพคลื่นสูงและลมแรง อาจได้รับอันตรายได้ ทำให้ชาวบ้านต้องนำเรือมาจอดเทียบท่าบริเวณริมฝั่งคลองหาดนราทัศน์ ส่งผลให้ชาวประมงที่ประกอบอาชีพหาเช้ากินค่ำได้รับความเดือดร้อนไปตามๆ กัน อย่างไรก็ตาม ชาวประมงใน จ.นราธิวาสงดออกหาปลาในระยะนี้ต่อไปอีก และอาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่บริโภคอาหารทะเลและราคาที่ปรับตัวขึ้นสูงในระยะนี้ ขอให้ประชาชนคอยติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดและดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ไว้ด้วย
          นายนิพันธ์ ศิริธร นายอำเภอเมืองตรัง ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำในพื้นที่หมู่ 4 บ้านหนองบัว ต.นาตาล่วง หมู่ 3 ต.บางรัก และหมู่ 5 หลังวัดแจ้ง ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง เป็นพื้นที่ราบลุ่มและน้ำท่วมซ้ำซาก หลังมีฝนตกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม เป็นต้นมา
          จากการตรวจสอบพบว่า บางพื้นที่บ้านเรือนประชาชนมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30 ซม. ส่วนใหญ่ตั้งบ้านเรือนอยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม สถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วง แต่ได้มีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำตรังที่วัดประสิทธิชัยและคลองนางน้อยมีปริมาณสูงขึ้น หลังในพื้นที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ยังเหลืออีกประมาณ 50-60 ซม. จะเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้หากมีฝนตกลงมาเพิ่ม ส่วนที่ ต.หนองตรุด ระดับน้ำยังเหลืออีก 2.50 เมตร น้ำจึงจะท่วมบ้านเรือน
          นายนิพันธ์เปิดเผยว่า ได้สั่งการไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชม. พร้อมกับกำหนดจุดอพยพที่ชัดเจนหากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม มั่นใจว่าปีนี้น้ำจะไม่ท่วมในเขตพื้นที่ อ.เมืองตรัง เพราะไม่ได้เป็นช่วงฤดูกาลที่มีฝนตกหนัก แต่หากน้ำในคลองนางน้อยและแม่น้ำตรังมีปริมาณมากอาจทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมตัวเมืองตรังได้
 


pageview  1205831    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved