จิตแพทย์โรงพยาบาลยะลาเผยคนสามจังหวัดชายแดนใต้ป่วยโรคเครียดจากเหตุการณ์รุนแรงร้อยละ 10 แต่เข้าถึงการรักษาเพียงร้อยละ 2.4 เหตุบางกลุ่มปรับตัวได้ ขณะที่บางกลุ่มมีปัญหาการเดินทาง
นพ.ดำรง แวอาลี จิตแพทย์ประจำโรงพยาบาลยะลา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีข่าวที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยจิตเวชตามสื่อมวลชนเป็นจำนวนมาก แต่อัตราการเข้าถึงบริการของคนไข้จิตเวชยังคงน้อยอยู่ โดยในปี 2547-2549 มีเพียงร้อยละ 3.34 แม้ในช่วงปี 2550-2555 การเข้าถึงบริการจะเพิ่มขึ้นแต่ยังคงไม่มาก โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีการเข้าถึงบริการเพียงร้อยละ 2.4 เท่านั้น ทั้งที่ประชาชนกว่าร้อยละ 10 เป็นโรคเครียดจากเหตุการณ์ร้ายแรง หรือโรคพีทีเอสดี (Post Traumatic Stress Disorder: PTSD) อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ทั้งการทำร้ายครู ทหาร วางระเบิดในพื้นที่ชุมชน จนทำให้ประชาชนมีความกลัว กังวล และรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ แต่ที่มีการเข้าถึงบริการน้อย เพราะประชาชนบางส่วนสามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ได้แล้ว ขณะที่บางส่วนอาจติดปัญหาการเดินทางในการรับบริการรักษา
"เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จะส่งผล กระทบต่อจิตใจของเด็กและเยาวชนมากกว่าผู้ใหญ่ ทำให้เกิดอาการหวาดผวา พ่อแม่ผู้ปกครองจำเป็นที่จะต้องปรับสภาพจิตใจของตัวเองให้เข้มแข็งก่อน เพื่อให้อยู่กับสถานการณ์ความรุนแรงตรงนี้ให้ได้ โดยต้องปรับตัวในการใช้ชีวิต ปรับวิธีคิดต่างๆ ต้องอยู่ด้วยความหวัง อยู่อย่างมีกำลังใจ โดยเฉพาะคนมีปัญหาสุขภาพจิตต้องทำกิจกรรมทางสังคมให้มากขึ้น เมื่อมีจิตใจที่เข้มแข็งแล้วจึงจะสามารถพูดแต่สิ่งดีๆ ให้ลูกเข้าใจและคลายความหวาดผวาลงไปได้" นพ.ดำรงกล่าว
นพ.ดำรงกล่าวว่า ปัญหาการเข้าถึงบริการจิตเวชน้อยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้อาศัยเครือข่ายบริการจิตเวชในการแก้ปัญหา โดยโรงพยาบาลแม่ข่ายจะสนับสนุนการดูแลรักษา การส่งต่อคนไข้ที่มีอาการรุนแรง ส่วนโรงพยาบาลลูกข่ายจะเน้นการดูแลเยี่ยมบ้านผู้ป่วยและค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ ซึ่งจะมีทีมสุขภาพจิต ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล และนักจิตวิทยา ในการไปเยี่ยมบ้านผู้ป่วยให้มีการดูแลอย่างต่อเนื่องหลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล คอยประเมินสุขภาพจิตผู้ป่วย ดูแลสภาพจิตใจ การปรับตัวปรับวิธีคิด รวมไปถึงเรื่องของการใช้ยา และคอยค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการจิตเวชให้มากขึ้น
ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตได้แก้ปัญหาด้วยการเพิ่มกำลังคนทางด้านจิตเวชในโรงพยาบาลรัฐทั้งหมด 37 แห่งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา เช่น เพิ่มจำนวนนักจิตวิทยาให้เป็น 2 คนต่อโรงพยาบาล 1 แห่ง และยังมีการอบรมแพทย์และพยาบาลเพิ่มเติมในด้านจิตเวชด้วย
