ทีมแพทย์จากสถาบันวิจัยสาธารณสุขลอว์ สัน แห่งประเทศแคนาดา ตีพิมพ์ผลการวิจัยในวารสารวิชาการแพทย์แห่งแคนาดา ระบุว่า ผลไม้จำพวกส้ม (เกรฟฟรุต, ส้มเซวิลล์ สำหรับใช้ทำแยม และมะนาว) ไม่ควรรับประทานหรือดื่มน้ำคั้นสดๆ คู่กับยาบางชนิด ด้วยเหตุที่ในน้ำส้มมีสารเคมีที่เรียกว่าฟูราโนคูมารินส์ ซึ่งไปทำลายเอ็นไซม์ในร่างกายคนเราที่ใช้สำหรับทำให้ตัวยาบางอย่างแตกตัวออก ผลก็คือ ทำให้ปริมาณยา หลุดรอดจากระบบย่อยอาหารของเราเข้าไปเกินกว่าปริมาณที่ร่างกายสามารถรับได้
          นาย แพทย์เดวิด เบลลีย์ หนึ่งในทีมวิจัยเปรียบเทียบว่า การกินยาฟีโลดิพีน ซึ่งเป็นยาลดความดันเข้าไปตามด้วยน้ำส้มคั้น 1 แก้ว จะส่งผลให้มีปริมาณยาในร่างกายผู้ป่วยมากถึง 3 เท่าของระดับที่กินกับน้ำ 1 แก้ว หรือในกรณีของยาบางชนิด อย่างเช่น ยาต้านมะเร็ง, ยาลดคอเลสเตอรอล, หรือยาที่ใช้ในการลดภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อให้ผู้ป่วยที่ผ่านการผ่าตัด ปลูกถ่ายอวัยวะไม่ต่อต้านอวัยวะที่ปลูกถ่าย การกินยาเพียง 1 เม็ดตามด้วยน้ำส้ม 1 แก้ว อาจเทียบเท่าได้กับการกินยาเข้าไปรวดเดียว 5-10 เม็ด ส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงจากการกินยา ซึ่งแตกต่างกันออกไปตามแต่ชนิดของยา มีตั้งแต่หัวใจเต้นผิดจังหวะ, ไตเสียหาย, ไตวาย ไปจนถึงเสียชีวิตกะทันหัน
          นอกจากส้มแล้ว แพทย์ยังเตือนด้วยว่า ยาปฏิชีวนะส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถ ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้หากกินพร้อมกับนม